ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

เข้ามาทำงานที่นี่ตั้งแต่ 2019 เป็นเด็กจบใหม่เลย ตอนนั้นออร่ายังเป็นออฟฟิศเล็กๆ มีพนักงานไม่ถึง 10คน แต่ถึงจะน้อยแต่คับคุณภาพมากๆ ทุกวันนี้มีพนักงานเพิ่มขึ้นจนจะ 50คนแล้ว ดีใจที่บริษัทยังคงมาตรฐานของตัวเองไว้ตลอด เจอแต่คนเก่งๆ ได้ทำงานกับคนมี passion คนที่มี energy เดียวกัน เห็นภาพบริษัทโตไปด้วยกัน ตัวเองก็โตขึ้นเยอะมาก ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไร จนช่วงหลังโควิดได้เจอเพื่อนเก่าบ่อยขึ้น พอเทียบชีวิตตัวเองกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน รู้เลยว่าทำงานที่นี่แล้วเหมือนนั่งไทม์แมชชีน555555 หัวหน้าไม่เคยปิดกั้นโอกาสเลย อยากทำอะไรก็ให้ทำ อยากลองอะไรก็ได้ลอง ได้ตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆเองก็เยอะ ผิดบ้างถูกบ้าง ลองไปเรื่อยๆจนจับทางได้ ทุกๆปีที่ผ่านไป เราโตแบบก้าวกระโดดจริงๆทั้งความสามารถ ทั้งตำแหน่งและเงินเดือน ตอนนี้แฮปปี้มากกก ทั้งตัวงาน เพื่อนร่วมงาน บรรยากาศออฟฟิศ มาทำงานทุกวันสนุกมาก ที่สำคัญที่สุดคือการทำงานที่นี่ทำให้เราภูมิใจในตัวเอง เวลามองผลงานที่มันออกมาแล้วรู้สึกว่า เราเก่ง ทีมเราเก่ง เราสร้างมันขึ้นมาได้จริงๆ ดีเกินกว่าที่คิดไว้ตอนสมัครงานไปเยอะเลย

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

ขอแชร์ประสบการณ์การทำงานที่ออร่าจนครบ 1 ปี ตั้งแต่ขั้นตอนสมัคร บรรยากาศการทำงาน และความรู้สึกที่ทำงานในโพสต์นี้นะคะ 
ขั้นตอนการสมัคร: ช่วงต้นปีที่แล้ว เราบังเอิญเจอโพสต์รับสมัครนศ.ฝึกงานแผนก Marketingใน Facebook Group ของเด็กมธ. ตอนนั้นเราอยู่ปี 4 กำลังจะจบจากคณะวารสารศาสตร์ โดยมีประสบการณ์การแข่งแผนการตลาดได้ที่ 1 ของประเทศ ทำให้เราอยากย้ายสายมาด้านนี้เต็มตัว ตอนนั้นออร่าเป็นเพียงบริษัทเดียวในกลุ่มที่ให้ “เบี้ยเลี้ยงที่เยอะมากๆและมีสวัสดิการเทียบเท่าพนักงาน” ถึงเราจะไม่ได้สนใจสวัสดิการมากมาย แต่นั่น ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้ว่า ที่นี่จะปฎิบัติกับพนักงานอย่างยุติธรรมและเห็นค่าพนักงานทุกคนแน่ๆ ก่อนสัมภาษณ์เราเลยทำการบ้านเกี่ยวกับบริษัทนี้เยอะมากๆ ตอนสัมภาษณ์กับพี่เฟม (CEO)คำถามที่โดนถามเป็นคำถามที่เราไม่เคยเจอจากบริษัทอื่นมาก่อน เช่น “อายุ 30 คิดว่าตัวเองจะเงินเดือนเท่าไหร่” “เข้ามาคิดว่าจะทำอะไรเป็นอย่างแรก” “ทำไมถึงต้องทำงานที่ออร่า” เป็นคำถามที่กำลังมองหา Goal และ Passion ในตัวพนักงาน ซึ่งเราบอกเขาเลยว่า เราเห็นช่องโหว่หลายอย่างมากๆ และ Goal ของเราในตอนอายุ 23 นี้ คือเราจะทำให้ออร่าเป็นที่ 1 ในวงการคลินิกให้ได้ ซึ่งเรามันใจว่าใช้เวลาไม่นานแน่นอน เราผ่านสัมภาษณ์โดยได้รับข้อเสนอให้เป็นพนักงาน Full-time ทันที และได้เสนอเงินเดือนที่เยอะมากๆ เพราะ CEO บอกว่า ทุกคนต้องได้รับค่าจ้างที่คุ้มกับความตั้งใจ จะไม่เอาเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งเราประทับใจมากๆ ตอบตกลงทันที 
 Workplace Culture: หลังทำงานมา 3 เดือน เรารู้เลยว่าทำไมที่นี่ถึงกล้าจ่ายเงินเดือนพนักงานได้เต็มที่มากๆ เพราะที่นี่คือมีแต่คนที่เก่งและมี Passion มากๆ โดยที่ทุกคนพร้อมซัพพอร์ตกันทุกด้าน และพร้อมที่จะพลักให้ออร่าเป็นที่ 1 ให้ได้ มันยิ่งทำให้เราไฟแรงขึ้นอีก เราได้รับโอกาสให้เป็น Head Project ของ Collab “ Aura Bangkok Clinic x SOS” เราสนุกการงานทุกวันตลอดเวลา จนลืมเรื่อง Work Life Balance ไปเลย เหมือนที่นี่เป็นกลุ่มเพื่อนมหาลัยที่มีเป้าหมายอยากจะเป็นที่ 1 ของรุ่นไปพร้อมๆกัน ทำให้ทุกงานมาออกมาดี และอุดรอยรั่วด้วยกัน Career Opportunities: เราได้เป็น Senior ภายใน 6 เดือน โดยทุกคนไม่ได้มองที่อายุแต่มองที่ประสบการณ์ของเรา ในบริษัทนี้ทุกคนมีพื้นที่ให้เติบโต เพราะบริษัทโตเกิน 150% ทุกๆปี โดยสิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ เราเห็น CEO วาง Career path ให้ทุกคนในออฟฟิศมีที่เติบโต ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ตาม เราชอบแก้ปัญหา พอเห็นช่องโหว่ วาง Strategies มาอุด และ Set Structure ให้ทีมมาทำต่อ ทำให้เราได้มีโอกาสได้เข้าไปแก้ปัญหาหลายๆให้หลายๆจุดที่เรามองว่าสำคัญ เราได้เข้าไปดูแลด้าน Influencer Marketing, Social Media Platform, Always - On Content และ ทีม Customer Serviceของออร่า ให้มีคุณภาพและตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ให้เราได้ลองผิดลองถูก ทำให้สิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุด โดยที่ไม่กลัวเลยว่าเราจะทำพลาด เพราะเขาเชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาที่นี่แล้ว จะเลือกทำทุกอย่างที่ดีที่สุดให้กับออร่า เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น เราจะย้ายไปทีม New Business ของออร่า เพื่อวางให้ธุรกิจใหม่ๆ แข็งแกร่งที่สุด ทำให้เราไม่เบื่อที่จะทำงานที่นี่ ทุกวัน Challange และสนุกมากๆสำหรับเรา โดยขณะที่เรากำลังโฟกัสกับงาน บริษัทก็กำลังวาง Career path และสิ่งที่ทำเพื่อเราได้อีก ทำให้เราเชื่อคำว่า "The harder you work, The better you get" จริงๆ ผ่านมา 1 ปีเต็ม จากวันนั้นที่เราเคยบอกว่าเราจะทำให้ออร่าเป็นที่ 1 ให้ได้ ตอนนี้ออร่าเราเป็นที่ 1 ในหลายๆด้าน ตอนนี้เรามั่นใจว่า เราคลินิกที่เติบโตเร็วที่สุด คลินิกที่มี In-house Marketing แข็งแกร่งที่สุด ดังนั้น ใครที่อยากจะสมัครเข้ามา คนที่ออร่ามองหาคือคนที่จะทำให้ออร่าเป็นที่ 1 ไปด้วยกัน​ มาสมัครกันได้เลยนะ

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

ทำงานที่นี่มา 1 ปีกว่า มีหลายอย่างที่โตขึ้นแบบก้าวกระโดดมาก 1. บริษัทมีรายได้เติบโตขึ้นเกิน 300% จากวันแรกที่เข้ามา 2 บริษัทขยายใหญ่ขึ้น ทีมใหญ่ขึ้นเท่าตัว จากวันแรกที่เข้ามา 3. ตัวเราเอง ก็โตขึ้นไปกับบริษัทแบบ Exponentially Growth โตแบบขั้นสุดไปกับตัวบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินเดือน ตำแหน่งที่สูงขึ้น ความสามารถที่เพิ่มขึ้น skillsที่ได้เรียนรู้จากที่นี่ ทุกๆอย่างที่พูดมามันเติบโตขึ้นเร็วมากจริงๆ 1 ปีหลังจากวันแรกที่เราเข้ามาที่นี่ เราได้เงินเดือนเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว / และถึงแม้จะเป็นคนที่เด็กที่สุดในองค์กร แต่ด้วยความที่ออร่าไม่ได้มองเรื่องอายุเป็นหลัก แต่ให้ความสำคัญเรื่องความสามารถ ให้ความสำคัญกับมุ่งมั่นความตั้งใจ ทำให้เราได้เป็นหัวหน้าทีม Digital Marketing ตั้งแต่อายุ 22 และได้เลื่อนขั้นเป็น Senior โดยใช้เวลาแค่ 1 ปี ตอนที่เราสมัครเข้ามาทำงานที่นี่ เราตั้งใจว่าจะมาฝึกงานเพราะพึ่งเรียนจบ อยากหาประสบการณ์ แต่ขนาดแค่ฝึกงาน ออร่าก็คัดคนเข้าโหดมาก มีสัมภาษณ์หลายรอบ มีทดสอบเลขกับภาษาอังกฤษ เพราะออร่าต้องการคนที่เก่งและเป็นตัวท็อปจริงๆเท่านั้น ตอนแรกก็มาสัมภาษณ์ 1 รอบ ให้แนะนำตัวเล่าว่าเคยทำอะไรมา ฝึกงานที่ไหนมาบ้าง ทำอะไรเป็นบ้าง พอผ่านรอบแรกก็มีสัมภาษณ์รอบ 2 แบละเอียดขึ้น ให้เล่าประสบการณ์ ให้โชว์ของ (ตอนนั้นเราพึ่งชนะ J-MAT มา เราก็เล่าว่างานที่แข่งเกี่ยวกับอะไร เราทำตำแหน่งอะไรในกลุ่ม ชนะได้ยังไง ทำยังไงถึงจะเป็นที่ 1) แล้วก็ให้พรีเซ้นต์ กว่าจะเข้ามาได้คือคัดแล้วคัดอีกหลายรอบมาก จากหลายร้อยคนเหลือแค่ 2 คนที่ได้เข้ามาในทีม Marketing แล้วเราก็ไม่ได้เข้ามาในฐานะเด็กฝึกงาน แต่ได้เข้ามาในฐานะพนักงานเลย เพราะ CEO มองว่าเราก็พร้อมทำงานมากแล้วในระดับนึง เราเข้ามาที่นี่ด้วยอายุ 21 เป็นเด็กจบใหม่ แต่เราได้ทำอะไรเยอะมาก ที่นี่ไม่เคยปิดกั้นความคิดเลย เป็นที่ที่โชว์ไอเดียได้ เป็นที่ที่ให้ปล่อยของ สิ่งที่ชอบที่สุดคือไม่เคยมองว่าเราเป็นเด็ก หลังจากทำงานไปแค่ 3 เดือน เราก็ไป Work and Travel ที่อเมริกา (สมัครไว้ก่อนเข้าออร่า) CEO ก็ให้ไปหาประสบการณ์แล้วค่อยกลับมา ถือว่าเป็นบริษัทที่เปิดกว้าง ทันสมัย ให้อิสระพนักงานมากๆ หลังจากกลับมาอเมริกา เราก็กลับมาไทย เราก็ทำงานแบบจริงจังขั้นสุด พยายามทำทุกอย่างให้ทันคนอื่นตอนที่หายไปอเมริกา พยายามเรียนรู้ทุกอย่างไม่ว่าจะ hard skills หรือ soft skills ข้อดีของสังคมทำงานที่นี่คือทุกคนจะช่วยกัน push ให้ทีมเก่งไปด้วยกัน ถ้าใครไม่เป็นหรือไม่ทันตรงไหนก็จะแชร์วิธีกันตลอด คอย support คนในทีมเสมอ ที่นี่ทุกคนวิ่งไปด้วยกัน อาจจะมีคนวิ่งช้าบ้าง วิ่งเร็วกว่าเพื่อนบ้าง แต่ไม่มีใครหยุดอยุ่กับที่เลย สังคมที่นี่มีแต่คนเก่งมาก ทุกคนขยัน ทุกคนมี “DNA ออร่า” ที่ชอบเอาชนะทุกอย่าง ต้องการเป็นที่ 1 ไม่เคยมีใครยอมแพ้ ถ้าไม่สำเร็จก็แค่หาวิธีใหม่ ทุกคนที่นี่ active และเป็นแบบนี้หมดเลยจริงๆ เป็นสังคมที่การแข่งขันสูง ตั้งแต่แข่งกันเข้าออร่า เข้ามาก็แข่งขันกับบริษัทอื่นๆ แข่งขันกับตัวเองในทุกๆวันให้ performance ของบริษัทและตัวเองออกมาดีที่สุด นี่ก็น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ออร่าเติบโตเร็วมากและแข็งแกร่งมาก พวกเราทุกคนทำงานแบบเป็น High-Performance Team จริงๆ บรรยากาศทำงานที่นี่ก็เลยสนุกมาก ทุก tasks ที่เราทำเหมือนเราเล่นเกมให้ผ่านด่าน ผ่านด่านก็ไปด่านที่ยากขึ้นใหญ่ขึ้น แต่วันไหนที่เราพลาด บริษัทก็ไม่เคยต่อว่าด่าทอกับสิ่งที่เราผิดพลาดไป ทุกคนที่นี่มองว่าทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะความสำเร็จหรือความผิดพลาด คือ learning ที่สำคัญที่ทำให้เราเก่งขึ้นทุกครั้ง นอกจากนี้ที่นี่ไม่เคยห้ามใช้เงิน ไม่ค่อยประหยัดกับอะไรน้อย ๆ และมองว่าเวลาสำคัญกว่าเงินเสมอ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เราและคนที่นี่เป็นคนที่ตัดสินใจเร็วกันมากกก ทุกคนที่นี่ไม่กลัวล้ม ถ้าล้มก็แค่ลุกแล้วไปต่อ ถ้าไปผิดทางก็แค่หาทางอื่นถ้าเสียเงินไปก็แค่หาใหม่ แค่นั้นเลย เรื่องสวัสดิการและเงินเดือนก็เป็นอีก topic ที่ดังมากของออร่า เรามองว่าบริษัทค่อนข้างแฟร์กับพนักงาน การที่เราตั้งใจทำงานหนักเพื่อบริษัท บริษัทก็ตอบแทนด้วยสวัสดิการดีๆ ให้เงินเดือนที่สมน้ำสมเนื้อ ไม่กดเงินเดือน เราว่าเงินเดือนเราค่อนข้างเยอะถ้าเทียบกับเพื่อนร่วมรุ่นที่ทำงานสายเดียวกัน มันก็คุ้มค่ากับการทำงานหนักและความตั้งใจที่เราให้กับบริษัทแหละ ถ้าใครที่กำลังมองหาที่ทำงานที่สนุก challenge มีแต่คนเก่งๆ เป็นที่ๆโตไว ทั้งรายได้ของบริษัท ทั้งเงินเดือน ทั้งตำแหน่ง ทั้งความสามารถ ที่นี่ก็อาจจะเป็นที่ที่เหมาะกับคุณ เพราะที่นี่ยังมี room for growth ให้ทุกคนเติบโตได้อีกมาก ตอนนี้จากตอนแรกที่เป็นบริษัทเล็กๆก็มาถึงจุดบริษัทพันล้านแล้ว แต่ก็บอกเลยว่ายังไปได้อีกถึงหมื่นล้านแน่นอนในเร็วๆนี้ ถ้าอยาก go to the moon ไปด้วยกันแบบ exponentially ก็เข้ามา join team กันนะ :)

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

✨เริ่มจากการสัมภาษณ์เข้ามาเลย เราเริ่มจากหาข้อมูลว่าที่นี้คืออะไรเป็นงานประเภทไหน ปรับสี CV ให้ตรงกับสีบริษัทหรือ สะดุดตา Hr มากที่สุด พอถูกคัดเลือกเข้ามาก็จะมีข้อสอบที่วัด Skill ต่างๆ ( ปล ใครมี performance หรือผลงานที่มัน succeed เตรียมมาด้วยยิ่งดีเลยน้า ) และพอมาถึงเวลาสัมภาษณ์หรือเจอพี่ๆผู้บริหารใจดีสุดๆ เราโดนคัดเลือกมาจนถึงรอบสุดท้าย ตอนนั้นดีใจมากๆที่ได้ถูกเลือกเข้ามา จาก Interview Process และได้เข้ามาทำงานที่ Aura Bangkok Clinic ยอมรับเลยว่าโหดมาก แต่พอเข้ามาก็มีเรื่องสนุกๆกับงานและยากมีง่ายแต่เราก็ยัง Joy สุดๆ ✨ตอนเข้ามาทำงานที่ Aura Bangkok Clinic พอได้เข้ามาจริงๆทีแรกกลัวมากๆจะปรับตัวไม่ได้ เพราะไม่คิดว่าองกรณ์จะใหญ่ขนาดนี้ เข้ามา 3 วันแรกปรับตัวไม่ถูก ไม่คุยกับใคร มีวันหนึ่งออกมานั่งคนเดียว แต่มี HR เข้ามานั่งเป็นเพื่อน มาชวนคุยๆ แต่พอเวลาผ่านไปเริ่มปรับตัวได้ เพื่อน ๆ พี่ที่ร่วมงาน ชวนคุย เฟรนลี่สุดๆ ที่สำคัญทุกคนเก่งกันมากๆ ช่วยเหลือซัพพอร์ตกันทั้งทีมเลย เราพึ่งเคยมาทำงานใน role นี้ครั้งแรกแต่จะถูกเรียกให้เสนอความคิดหรือออกไอเดียตลอด ไม่มีผิดถูก แต่จะมีหัวหน้าคอยปรับและบอกว่าทำแบบนี้เพิ่มแบบนี้อีกหน่อยน้า เราว่ามันดีมากๆเลย เหมือนเป็นการเรียนรู้และได้ประสบการณ์ พร้อมการ support ไปในตัว ที่สำคัญที่นี้ พี่ๆCeo ใส่ใจทุกคนสุดๆ มี One on One คอยถามตลอดว่าชอบอะไร อยากรู้ว่าจะพัฒนาทักษะเรารวมถึง career path ไปทางไหน ✨ ส่วน Benefit ที่ Aura Bangkok Clinic ดีสุดๆครอบคลุมทุกอย่าง ไม่แปลกใจเลยทำไหมสวัสดีการมันปังขนาดนี้ เพราะพวกเรามัน High-Performance Team เลยได้สวัสดิการที่มันปังสุดๆ

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

ที่นี่เป็นอีกบริษัทนึงที่คัดเลือกค่อนข้างเข้มเหมือนกับองค์กรใหญ่ ๆ เลย มีการพรีสกรีน CV ทำข้อสอบทั้งคณิตอังกฤษ แล้วก็ทำโจทย์เพื่อกลับมานำเสนออีกรอบ ซึ่งในรอบที่เราสมัครเข้ามาเป็นรอบที่ life at aura แมสที่สุดจนมีแคนดิเดตเกือบ 800 คน แต่มีเราแค่คนเดียวที่ผ่านเข้ามาได้ พอเข้ามาแล้วก็เข้าใจเลยว่าทำไมถึงคัดยาก เพราะทุกคนที่นี่เก่งกันมากกก ! เป็นบรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยคนเก่ง ๆ จากหลายแขนงที่จะทำให้เราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติมอีกเยอะมาก แล้วก็ทำให้เราภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ออร่าอยู่เป็นแบบ High Performance Culture แต่ไม่ Toxic แล้วก็ไม่ Drain เลย ทุกคนสู้งานมาก ๆ เพราะเรามองเป้าหมายเดียวกันคือจะผลักดันที่นี่ให้เติบโตขึ้นอีก ทุกคนมี Growth Mindset ที่มองว่าเราสามารถพัฒนาขึ้นไปได้อีก เก่งขึ้นได้อีก ดีขึ้นได้อีก ! ทำให้เราทุกคนกระตือรือร้นแล้วก็อยากที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ในทุกวัน ทุกคนที่นี่ไม่มีหวงไม่มีกั๊กความรู้กันเลย มีแต่จะส่งเสริมแล้วก็ช่วยกันซัพพอร์ทให้มันออกมาดีที่สุด เวลาที่เราทำงานอะไรทุกคนก็พร้อมที่จะช่วยออกความคิดเห็น ช่วยตบ ๆ ความคิดให้มันออกมาดีที่สุด เพราะสุดท้ายทุกคนก็ใส่สุดเพื่อให้ออร่าเติบโตเหมือน ๆ กัน บรรยากาศการทำงานที่นี่ทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ใช่แค่ส่วนเล็ก ๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ออร่าไปได้ไกล และเราเชื่อว่าทุก ๆ คนที่นี่ก็มีความคิดแบบเดียวกัน ตั้งแต่เข้ามาช่วงแรก ๆ หัวหน้ากับ CEO ถามเราว่าเราอยากจะเติบโตไปเป็นแบบไหน มองตัวเองในอนาคตไว้เป็นยังไงบ้าง อยากจะทำอะไรต่อไปในอนาคต เพราะเค้าจะช่วยเราวาง career path ให้และช่วยผลักดันเราเต็มที่ให้ได้เป็นแบบที่ตัวเองอยากจะเป็น ซึ่งเท่าที่เคยถามเพื่อนที่อยู่ที่อื่นก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะวางแผนละเอียดขนาดนี้ หรือไม่ได้เติบโตเร็วอย่างที่เราได้จากออร่า จากประสบการณ์ที่อยู่มาถึงจะไม่ถึง 1 ปีเต็มแต่จากวันแรกเราเติบโตขึ้นมาก ๆ จริง ๆ เรื่อง work-life-balance ที่นี่ถือว่าบาลานซ์ได้ดีมาก ๆ มีเวลาหยุดพักผ่อนโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องงาน ทุกคนรักษาเวลากันได้ดีมาก ๆ และมีสกิล time management ที่ดีเลยทำให้งานเสร็จทันเวลา และน้อยมากที่จะต้องทำงานล่วงเวลา แต่ถึงทำก็มีการจ่าย OT ให้แบบเป็นธรรมสุด ๆ ครบทุกชั่วโมงเลย เราเคยทำงานนอกเวลาในช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันก็ได้ OT พิเศษแบบเยอะมาก ๆๆ เทียบเคียงจากที่อื่นแล้วส่วนตัวเราคิดว่าออร่าให้เงินเดือนมากกว่า 25-50% เลยในทุกตำแหน่ง ซึ่งก็คุ้มค่ากับการคัดเลือกที่โหดและความรับผิดชอบที่เรามี รู้สึกว่าสวัสดิการที่นี่แฟร์กับพนักงานสุด ๆ เป็นองค์กรที่มีพนักงานเป็นศูนย์กลางจริง ๆ ข้าวกลางวันฟรี / ฉีดหน้าฟรี / ออกกำลังกายฟรี / ชุดทำงานฟรี / ขอเรียนเสริมทักษะได้ฟรี เป็นองค์กรที่ช่วยพัฒนาเราทุกด้านเลยทั้งบุคลิกภาพดีขึ้น เก่งขึ้นทั้ง Hard หรือ Soft Skills แล้วก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

ใครที่อยากเก่งขึ้นเรื่อยๆ ชอบพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ได้ท้าทายตัวเอง แนะนำที่นี่เลย จะได้ประสบการณ์เยอะมาก เป็นตัวเองได้เต็มที่ เปิดกว้างทางความคิด สามารถแสดงความคิดเห็นได้ทุกเรื่อง ทุกคนพร้อมรับฟังและร่วมแก้ไขไปด้วยกัน มีเพื่อนร่วมงานที่ดี คอย support ซึ่งกันและกัน มีผู้บริหารที่เก่ง และไม่ได้เห็นเราเป็นแค่พนักงานคนนึง คอยบอก คอยสอน ให้เราได้ลองคิด ลองทำ มีการส่งพนักงานไป training ให้เราได้พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ทำให้การทำงานที่นี่จะเป็นแบบ Multi task ทุกคนเก่งกันหลายด้านเลย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมบริษัทเติบโตขึ้นไวมากๆ เพราะทุกคนอยากเห็นบริษัทเติบโตไปด้วยกัน พร้อมกับพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆเช่นกัน ที่นี่เป็นที่ทำงานที่แรก และเราก็ทำงานมา 3 ปีแล้ว รู้สึกคิดไม่ผิดเลยที่เลือกสมัครงานที่นี่ ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะมาก ภูมิใจในตัวเองมากขึ้น อยากให้ทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งกับการเติบโตของที่นี่เช่นกัน

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

Aura Bangkok Clinic ให้ความสำคัญกับ Tools ในการทำงาน คุณภาพชีวิต และสุขภาพจิตของพนักงาน ให้ดีขึ้น คุณภาพแต่งตัวดี สุขภาพจิตดี มีขนมฟรี อาหารกลางวันฟรี เครื่องมือในการสู้รบ เช่น Mac book Pro เครื่องละ 100,000 สำหรับ Graphic ทุกคน เพื่อให้ลื่นไหลในการทำงานที่สุด Program ในการทำงานต่างๆ เพราะทุกคนเชื่อว่าเมื่อนักรบที่แข่งแกร่งทั้งกายใจ และอาวุธพร้อม เราสามารถลุยและเติบโตได้ดีที่สุด เหมือนกับ Aura Bangkok Clinic ที่เติบโต แบบก้าวกระโดด ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ และคุณภาพชีวิตของพนักงานด้วย

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

เราได้เริ่มมาทำงานที่ออร่า เพราะได้รับการ Refer ซึ่งเรารู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้เข้ามาทำงานที่นี่ และก็รู้สึกกดดันเช่นเดียวกัน แต่เราก็พิสูจน์ตัวเอง โดยที่ตั้งใจทำในทุกๆ โปรเจค ให้ออกมาดีที่สุด และรู้ว่าเราไม่ได้เข้ามาอย่างง่าย ๆ แต่เราเหมาะสมมากที่สุดในตำแหน่งนี้ ปีแรกในการทำงาน เราเข้ามาทำงานครั้งแรกในฐานะ Graphic Designer ซึ่งก็ได้ทำงานควบคู่ไปกับ Marketing ทำให้เราได้รู้และเข้าใจในเรื่อง Marketing มากขึ้น ได้ฝึกทำคอนเทนต์ ลงมือจริง คิด ถ่าย ทำ ในทุกๆ Process ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองจริงๆ จนเราได้ทำเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และได้ทำ Creative มากยิ่งขึ้น เรารู้สึกสนุกมาก สิ่งที่เราเสนอ หรืออยากทำ หากมีเหตุผลที่รองรับ เราก็จะได้ทำจริง ๆ แล้วได้ดูผลลัพธ์กับชิ้นงานที่ออกมา ซึ่งทำให้เราภูมิใจมาก และดีใจที่ได้ทำมัน เช่น การออกแบบแคมเปญ คิดคอนเทนต์ทำให้แคมเปญ ไวรัลสุดๆ จากนั้นเราก็ได้ทำตำแหน่ง Creative Art Director ซึ่งได้ดูภาพรวมงานอาร์ต กราฟิก คีย์วิชวล ต่างๆ และมีลูกทีมกว่า 10 คน เราได้รับโอกาสและเติบโตเร็วมากๆ ภายในระยะเวลา 2 ปี เรื่องผลตอบแทนออร่าให้เงินเดือนสูงกว่าที่อื่นเมื่อเทียบกับเพื่อนในรุ่นเดียวกัน ทำให้เรารู้เลยว่าที่นี่ให้คุณค่าพนักงานมากจริง ๆ โดยที่สวัสดิการต่างๆ ก็เป็นไปตามที่ตกลง และเหมาะสม ทำให้เรารู้สึกการทำงานที่นี่มั่นคงและสามารถทำให้เรามีเงินเก็บสำรองในอนาคตได้ ออร่าสอน Soft Skill เราหลายๆเรื่อง ทุกคนที่เก่งเรื่อง Hard Skill มากๆอยู่แล้ว แต่ที่นี่ก็พยายามทำให้ทุกคนมึ Soft Skill ติดตัวไปเช่นกัน และทุกคนก็มีการจัดการอารมณ์ ความรู้สึก การจัดเวลาได้เป็นอย่างดี ทำให้ทุกคนมีความเป็น Leadership ในตัวเอง เรื่องความเปิดกว้าง เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลาย ที่ได้รับโอกาศเท่าเทียมกับเพศอื่น ๆ โดยที่ไม่เคยโดนปิดกั้นความคิด หรือทุกอย่างที่เราพูดหรือทำจะถูกรับฟังหรือ Take Action เสมอ ไม่ถูกปล่อยผ่านไป หรือพูดแล้วลอยไปกับอากาศ แต่ทุกคนใส่ใจกับทุกสิ่งที่เราพูด โดยที่ไม่มีใครดูถูกหรือทำให้เรารู้สึกไม่สำคัญ ซึ่งทำให้เรารู้สึกถึง Diversity จริง ๆ ที่นี่เราได้ทำงานแบบทุกวันคืออิสระ ไม่ได้มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไช ว่าต้องได้งานเท่านู้นเท่านี้ เพราะผู้บริหารเชื่อใจในทุก ๆ คน แค่เราทำงานได้ตามไทม์ไลน์ก็เพียงพอแล้ว และทุก ๆ วันที่มาทำงาน เรารู้สึกสนุกมาก ๆ ว่าวันนี้จะมีอะไรใหม่ ๆ ให้ทำ ทำให้เรารู้สึกสนุกกับทุกๆวันที่เราได้มาทำงาน อยากทุ่มเทให้กับเนื้องานที่เรากำลังทำอยู่ เพราะเรารู้สึกอินกับงานนั้นจริง ๆ ซึ่งเราได้รับผลตอบแทนที่ดีมากๆ และเราก็พอใจ เงินเดือนที่เพิ่มขึ้น ตำแหน่งที่สูงขึ้น รู้สึกตัวเองเป็น High-performance เราได้เข้าร่วมกิจกรรมที่บริษัทให้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะการทำคอนเทนต์ลงโซเชี่ยว ซึ่งเราได้รางวัลจากแค่กิจกรรมอย่างเดียวก็เป้นจำนวนเงิน หกหลักขึ้นไปแล้ว ยังไม่ร่วมกับเงินจากช่องทางอื่น ๆ ที่เราได้รับ ซึ่งเราแฮปปี้และรู้สึกดีมาก ๆ ที่ได้ทำงานที่นี่

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

เป้าหมายที่เข้ามาทำงานที่นี้คือ 1.อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนรู้จักออร่า และ 2. อยากให้คนที่ทำงานด้วยกัน สนุกกับงาน รักในสิ่งที่ทำ กล้าเสนอความเห็นของตัวเอง และได้ลงมือทำจริง!! 3.วิธีการทำงานของออร่า ในทีม Marketing คือไม่ว่าตำแหน่งไหน ทุกคนจะได้เป็นเจ้าของงาน lead, วางแพลน, เสนอ, พรีเซน เหมือนขายงานให้กับทุกคนว่า "ซื้อไอเดียฉันสิ ไอเดียฉันเริ่ดนะ" 4.ในแผนก Marketing เราแบ่งเป็นทีมๆ ทุกทีมจะมี kpi ของตัวเอง จะบอกว่า ทุกคนทุ่มเทมากๆ เต็มที่ และช่วยเหลือกันสุดๆ ทำให้ performance ของทีมดีมาก และทะลุ kpi ทุกครั้ง 5.ถ้าอยู่ที่นี้ อย่ากลัวทำไม่ได้ แต่ต้องกลัวไม่ได้ลองมากกว่า ทุกวันเป็นวันใหม่ๆ เทรนด์เปลี่ยนตลอด โลกหมุนไปข้างหน้า ถ้าคิดว่าไอเดียเราเจ๋งพอ ก็ลงมือเลย!!! 4.เราเน้นผลลัพธ์ แต่ต้องพร้อมเหตผล เพราะเรามองทุกคนเป็นผู้ใหญ่ สามารถตัดสินใจได้ในทุกเรื่อง วิธีการแต่ละคนถนัดไม่เหมือนกัน 5.ในทีม Marketing ทุกไอเดีย ไม่มีผิด ไม่มีถูก แต่สุดท้าย ทุกคนจะเลือกทำอันที่ work ที่สุดอยู่แล้ว 6.ถ้ามาทำที่นี้ จะได้เจอทีมที่ Active ที่สุด มันส์ที่สุด บ้าสุดๆ เพราะเราอยากทำให้มันดี เราอยากทำให้สิ่งที่คิดมันเป็นไปได้จริง และพวกเราภูมิใจมากทุกครั้ง ที่ได้ทำจริงๆ

ประสบการณ์ที่ได้รับจากบริษัทนี้

Overall, working here was a memorable experience that offered a challenging, dynamic, yet supportive environment. The company strives for collaboration and innovation that could impact the aesthetic clinic market in Thailand. Environment: People are great and very supportive. Employees and management are all well-connected here. Aura Bangkok Clinic has a flat management which allows employees to have more communication, collaboration, and a fast feedback-giving work environment. The company here foster a culture of launching moonshot and collaboration. As an employee, you are expected to contribute ideas and work as a team with talented and passionate individuals from different backgrounds to think of new projects as the company tries to the boundaries of today and strives for success tomorrow. Fast-growing Company: Aura Bangkok Clinic provides its employees with serious opportunities to learn and grow. Employees have the chance to work on different groundbreaking projects that contribute a huge impact on the aesthetic clinic industry. Also, people here have access to company leaders quickly, which helps them develop the skills they need to achieve their career goals. Benefits: Quite surprised, Aura Bangkok Clinic offers its employees a range of perks and benefits. Apart from competitive salaries and comprehensive healthcare coverage, the company offers grooming allowance, beauty allowance from the clinic, free meals, fitness discounts, sleeping areas, and massage chairs.