ข่าวสารใหม่ๆ | 30 August 2022

6 เรื่องน่ารู้ ถ้าอยากร่วมงานกับบริษัทชั้นนำระดับโลกอย่าง Accenture

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ เอคเซนเชอร์ (Accenture) กันมานานแล้ว และที่นี่ก็เป็นบริษัทในฝันของผู้คนมากมาย ที่อยากมาลองเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานจริงกับบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกสักครั้งในชีวิต

วันนี้ WorkVenture จึงอยากจะพาทุกคนไปเจาะลึก ถึงตัวตน การทำงาน วัฒนธรรมองค์กร และตำแหน่งงานต่างๆ ที่จะทำให้คุณรู้จักและเข้าใจAccenture ดียิ่งขึ้น เปิดมุมมองและโอกาสที่คุณจะได้ร่วมงานกับ Accenture  อีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันได้เลย

 

Accenture คือใคร?

เอคเซนเชอร์ (Accenture) เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจและเทคโนโลยีชั้นนำ ระดับโลก มีพนักงานกว่า 710,000 คนที่ให้บริการลูกค้าในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมกว่า 40 อุตสาหกรรม  โดย Accenture ให้ความสำคัญในการตอบสนองความต้องการของลูกค้า เริ่มตั้งแต่ให้คำแนะนำด้านการวางกลยุทธ์ แนะนำ innovation ต่างๆ เป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ ไปจนถึงนำเอาโซลูชั่นทางเทคโนโลยีใหม่ๆอันน่าทึ่งเข้าปรับใช้เพื่อตอบโจทย์ของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของเอคเซนเชอร์ ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปีพ.ศ 2521 นับจนถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลา 44 ปีแล้ว ถือได้ว่า เป็นหนึ่งในองค์กรแรกๆของประเทศที่ให้บริการด้านที่ปรึกษา การจัดการและเทคโนโลยีกับลูกค้าองค์กรในหลายกลุ่มธุรกิจ

 

 

Accenture ทำอะไร?

Accenture สามารถตอบโจทย์และช่วยสร้างสรรค์โซลูชั่นที่ผสานเทคโนโลยีที่เป็นจุดเด่นของ Accenture ได้ครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรมผ่าน 4 บริการหลักของ Accenture ได้แก่

Strategy & Consulting : เป็นทีมเน้นให้คำปรึกษา  วางกลยุทธ์ทางธุรกิจให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมนั้นๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน หรือความมั่นคงและยั่งยืนของธุรกิจ (sustainability)

Song : เป็นทีมที่เน้นการออกแบบและดูแลประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) ทีม Song จะเข้ามาเป็นตัวเชื่อมองค์กรกับลูกค้าและพนักงาน สร้างประสบการณ์ และกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีทันสมัย

Technology : ทีมที่สร้างและใช้เทคโนโลยีเพื่อแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจส่งมอบโซลูชั่นที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีอัจฉริยะ และนวัตกรรมใหม่ๆอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Blockchain, Cloud, Robotics, 5G, Edge Computing Security 

Operations : ทีมที่เป็นเหมือน Outsourcing ให้กับลูกค้าในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ด้านการrecruitพนักงาน ด้านการบัญชี หรือแม้กระทั่งด้านการตลาดซึ่งทีม Operations จะเน้นไปที่การช่วยลูกค้าระดับองค์กร เพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Intelligent technologies) มาปรับใช้

นอกจากทั้ง 4 ทีมหลักที่กล่าวมา Accenture เองก็มีเครือข่ายการให้บริการด้านเทคโนโลยีและระบบปฎิบัติการอัจฉริยะที่ใหญ่ทีสุดในโลก โดยในประเทศไทยนั้น Accenture ได้นำเครือข่ายระดับโลกนี้เข้ามาเพิ่มศักยภาพในการทำงาน เพื่อการตอบสนองลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ผ่านการเปิดศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในประเทศไทย หรือ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) และ ศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเพื่อธุรกิจของเอคเซนเชอร์ หรือ Accenture Intelligent Operations Center (AIOC)

 

 

Accenture มีลูกค้าเป็นใครบ้าง?

ด้วยประสบการณ์เชิงลึกและเฉพาะทางในกว่า 40 อุตสาหกรรม Accenture จะแบ่งกลุ่มลูกค้าที่ดูแลออกเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้

Communications, Media & Technology – ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร โทรคมนาคม สื่อ และนวัตกรรมใหม่

Financial Services - ธุรกิจการเงินการธนาคาร และประกัน

Health & Public Service - ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพ ธุรกิจโรงพยาบาล และหน่วยงานภาครัฐ

Products – ธุรกิจค้าปลีก การท่องเที่ยว ธุรกิจสายการบิน  การผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภค

Resources – ธุรกิจด้านทรัพยากรและพลังงาน สาธารณูปโภคต่าง ๆ

 


 

การทำงานใน Accenture สวัสดิการ รวมถึงวัฒนธรรมองค์กร เป็นอย่างไร?  

จากหัวข้อก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า Accenture มีรูปแบบการทำงานที่เป็นระบบ ดังนั้นการทำงานเป็นทีม จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับที่นี่ เพราะนอกจากจะต้องทำงานร่วมกับทีมงานที่หลากหลายในประเทศไทยแล้ว ด้วยความที่เป็นบริษัทแบบ multinational แน่นอนว่า จะได้ร่วมงานกับทีมอื่นๆจากต่างประเทศ รวมถึงได้เรียนรู้ best practice จากแต่ละประเทศด้วย ถ้าใครชอบความท้าทายแบบนี้ Accenture จัดว่า น่าสนใจไม่เบาเลยทีเดียว

และแม้ว่าการทำงานเป็นทีมของที่นี่ จะต้องรวมทีมงานจากหลายส่วนเข้าด้วยกัน แต่ก็เป็นองค์กรที่ open และมีโครงสร้างองค์กรแบบ flat organization ที่ทุกคนมีสิทธิ์และมีเสียงในการทำงานที่เท่าเทียมกัน จะไม่มีการที่หัวหน้าจะมาออกคำสั่งแบบเบ็ดเสร็จ หรือนำเอาอายุงานเข้ามาเกี่ยวข้อง ทุกคนพร้อมรับฟังความคิดเห็น พูดคุย ให้คำแนะนำซึ่งกันและกัน เมื่อมีปัญหาก็สามารถพูดคุยโดยตรงกับหัวหน้าได้เลย ซึ่งตรงนี้ทำให้พนักงานที่เข้ามาใหม่ได้แสดงออกทางความคิดเห็น ได้โชว์ไอเดียสดใหม่ พร้อมได้เรียนรู้การทำงานจากพนักงานที่อยู่มาก่อน ในขณะเดียวกันพนักงานที่ทำงานมาสักพักก็จะได้เห็นมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆในการเรียนรู้ด้านการทำงาน

นอกจากนี้สวัสดิการของที่นี่ยังดีมากๆอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น flexible benefit ที่บริษัทมอบให้พนักงานได้เอาไปใช้จ่ายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน, hot skill bonus, ประกันต่างๆที่ครอบคลุมไปถึงคู่สมรส บุตร และคู่ชีวิตสำหรับพนักงาน LGBTQA+, ค่ารักษาพยาบาลที่ครอบคลุมไปถึงเรื่อง Mental health wellness, มี Accessibility center เพื่อซัพพอร์ตพนักงานที่เป็น disability people และอีกมากมาย

 

 

โอกาสเรียนรู้จากเครือข่ายระบบปฎิบัติการอัจฉริยะระดับโลกกับศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเพื่อธุรกิจ (Accenture Intelligent Operations Center: AIOC)   

จากที่เกริ่นไปสั้นๆไปก่อนหน้านี้ว่า Accenture ได้นำเครือข่ายด้านเทคโนโลยีและระบบปฏิบัติการอัจฉริยะเข้ามาในประเทศไทย โดยเมื่อไม่นานมานี้ Accenture ได้เปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะเพื่อธุรกิจของเอคเซนเชอร์ (Accenture Intelligent Operations Center: AIOC)ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งศูนย์นี้ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ พร้อมนำความเชี่ยวชาญของเครือข่ายระบบปฎิบัติการอัจฉริยะจากทั่วทุกมุมโลก
ผนวกเข้ากับประสบการณ์ 44  ปีที่ดำเนินธุรกิจในไทย ร่วมขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่าน ทรานส์ฟอร์มองค์กรธุรกิจ พร้อมสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่จะมาร่วมสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย อีกทั้งการยกระดับขีดความสามารถและทักษะของบุคลากร ให้รองรับความต้องการทางธุรกิจของลูกค้าด้วยการยกระดับทักษะ (upskilling) และสร้างโครงการฝึกอบรมที่ตอบโจทย์องค์กรธุรกิจต่างๆ เช่น การเงิน ทรัพยากรบุคคล จัดซื้อ ซัพพลายเชน และการตลาด

การทำงานที่ AIOC นั้น พนักงานจะมีโอกาสเข้าถึงข้อมูลอินไซต์ และการเรียนรู้จากเครือข่ายของเอคเซนเชอร์ทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้นจะมีการร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน หอการค้าไทย มหาวิทยาลัยในประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานในประเทศที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญของบุคลากรอีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งและถือเป็นโอกาสให้บุคลากรไทยได้พัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่อีกด้วย


พัฒนาทักษะสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสายเทคโนโลยีไปกับ ‘Advanced Technology Center Thailand (ATCT)’ 

 ในพาร์ทนี้เราจะมาขอเจาะลึกในส่วนของศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในประเทศไทย หรือ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) กันบ้าง

Advanced Technology Center Thailand (ATCT) เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปเมื่อช่วงปลายปี 2564 ถือเป็นหนึ่งในเครือข่าย Delivery Centers ของเอคเซนเชอร์ที่มีอยู่ว่า 50 แห่งทั่วโลก ศูนย์นี้จะนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีใหม่ๆ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และ best practice จากทั่วโลก เข้ามาพัฒนาทักษะของพนักงานในไทย เพื่อให้พร้อมสนับสนุนลูกค้าทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาค ให้สามารถเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจใหม่ๆ ยกระดับขีดความสามารถและเสริมความคล่องตัวในการทำงานของลูกค้า ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อยู่เสมอ

ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ Accenture เลือกเปิดศูนย์ Advanced Technology Center ในประเทศไทย ก็เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของบุคลากร และเด็กไทยรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมและสามารถเติบโตในงานสาย STEM ได้ สามารถผลักดันให้ ATCในประเทศไทยเป็นฐานแห่งการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ 

 

 

ดังนั้นถ้าเข้ามาร่วมงานกับ ATCT ก็จะได้รับประสบการณ์ตรงจากการทำงานร่วมกับทีมงานจากทั่วโลก ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีเพื่อนร่วมงานจากหลากหลายเชื้อชาติ พร้อมกับการพัฒนาทักษะในสายเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อต่อยอดเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสายเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดประสงค์หลักของ ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูงในประเทศไทย หรือ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) ในด้านการพัฒนาบุคคลากรอีกด้วย  หากใครต้องการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับ ATCT ก็สามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.accenture.com/th-en/about/company/atc-thailand

อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากรู้แล้วว่าตำแหน่งงานที่เอคเซนเชอร์เปิดรับสมัครในขณะนี้มีอะไรบ้าง WorkVenture บอกเลยว่ามีหลากหลายมากๆ ตั้งแต่ Developer ทั้ง Full Stack, Mobile Developer, Salesforce ไปจนถึง Cloud Engineer, Security Blockchain และอื่นๆอีกมากมาย ใครที่สนใจร่วมงานกับ Accenture สามารถอ่านรายละเอียดของตำแหน่งงานและสมัครเข้ามาได้เลยที่  Accenture