
"A Place for Potential Growth" พื้นที่แห่งการเรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน... ที่ EGAT
ท่ามกลางคลื่นการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลก ตั้งแต่พลังงานหมุนเวียนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ไปจนถึงเทคโนโลยีใหม่ที่รอการนำมาใช้จริง ประเทศไทยเองก็กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงสำคัญของ Energy Transition เช่นกัน
ในวันที่พลังงานเปลี่ยนเร็วขึ้น ทั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ รูปแบบงานที่ซับซ้อนขึ้น และความคาดหวังจากสังคมที่กว้างกว่าเดิม คนทำงานด้านพลังงานก็ต้องเติบโตไปพร้อมกับบริบทที่เปลี่ยนไปเช่นกัน
ภายใต้ความท้าทายนี้ EGAT มองเห็นว่าการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานต้องอาศัยมากกว่าการพัฒนาโครงสร้างหรือเทคโนโลยีใหม่ แต่ต้องเดินหน้าควบคู่ไปกับ “การเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรให้พร้อมรับความเปลี่ยนแปลง” ผ่านการพัฒนาในหลากหลายรูปแบบ โดยเปิดโอกาสให้ทุกคนพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง
ออกแบบอนาคต…ด้วยการพัฒนาในแบบของตัวเองโดยเฉพาะ
ที่ EGAT เต็มไปด้วยความหลากหลายทั้งในเรื่องตำแหน่งงานและบทบาทความรับผิดชอบ ทำให้เรารู้ดีว่าทุกคนล้วนจึงมีเส้นทางที่ต่างกัน องค์กรจึงเปิดโอกาสให้พนักงาน ออกแบบการเติบโตแบบของตัวเอง ผ่านการเรียนรู้หลายรูปแบบ ทั้งคอร์สออนไลน์ เวิร์กชอปในสถานที่จริง หลักสูตรเฉพาะทาง ไปจนถึงโปรเจกต์ที่ให้ลงมือทำจริง เพื่อเสริมประสบการณ์ในแบบที่ใกล้กับงานที่สุด
ช่องทางการเรียนรู้ที่หลากหลายทำให้ทุกคนเลือกวิธีพัฒนาตัวเองได้อย่างอิสระ ทั้งทักษะด้านเทคนิค ทักษะดิจิทัล รวมถึงทักษะใหม่ที่ตอบโจทย์งานพลังงานยุคเปลี่ยนผ่าน เมื่อการเรียนรู้สอดคล้องกับตัวตน ทุกก้าวของการพัฒนาจึงมีความหมายและช่วยให้มั่นใจในเส้นทางอนาคตมากขึ้น
เปิดมุมมองให้กว้างขึ้น…จากสถาบันชั้นนำของโลก
การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในองค์กร EGAT ได้เสริมสร้างการพัฒนาคนสู่เวทีระดับโลกผ่านโอกาสทุนการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เพื่อให้พนักงานได้สัมผัสกับความรู้และทักษะใหม่ ๆ ในมิติที่กว้างและทันสมัยมากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้พนักงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ตรงจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนนักศึกษา และองค์กรชั้นนำระดับสากลจากทั่วมุมโลก
ทุนการศึกษาของ EGAT ช่วยให้ทุกคนได้เรียนรู้ลึกขึ้นในสาขาที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นพลังงานหมุนเวียน ระบบไฟฟ้าดิจิทัล วิศวกรรมระดับสูง การวางแผนพลังงาน หรือศาสตร์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับอนาคตพลังงาน เมื่อกลับมา ทุกความรู้ที่ได้รับจะกลายเป็นพลังสำคัญที่ช่วยต่อยอดงานจริงขององค์กร และเสริมความพร้อมให้กับระบบพลังงานของประเทศ

บอส–ชนกันต์ ลิ้มรสเจริญ คือหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนโอกาสของคนรุ่นใหม่ใน EGAT ได้อย่างชัดเจน เขาเริ่มเส้นทางอาชีพจากงานบำรุงรักษาไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้ากระบี่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่ทำให้เขาได้เรียนรู้ระบบไฟฟ้าจริง ประสบการณ์เหล่านี้วางพื้นฐานด้านวิศวกรรมให้แข็งแรง และทำให้เขาเห็นภาพรวมของระบบไฟฟ้าของประเทศชัดขึ้นเรื่อย ๆ
หลังทำงานได้ 1 ปี บอสตัดสินใจเรียนต่อสาขา Renewable Energy and Clean Technology ที่ University of Manchester ประเทศอังกฤษ สาขาที่ตอบโจทย์ทิศทางพลังงานสะอาดในอนาคต
ตลอดการเรียนหนึ่งปีในอังกฤษ บอสได้รับความสนับสนุนเต็มที่จาก EGAT ทั้งทุนการศึกษาและทีมงานที่ช่วยประสานงาน ทำให้เขาโฟกัสกับการเรียนได้อย่างเต็มที่ หลังกลับมา ความรู้ด้านพลังงานทดแทน โดยเฉพาะเทคโนโลยี Solar และระบบกักเก็บพลังงาน (Battery) กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เขานำมาปรับใช้ในงานจริง
จากวิศวกรหน้างานโรงไฟฟ้า บอสก้าวสู่บทบาทใหม่ในทีม Project Management Office (PMO) ดูแลงานพัฒนาธุรกิจใหม่ด้าน Energy Solutions เช่น Solar, Battery และระบบบริหารจัดการพลังงาน (EMS) หลังกลับมาจากต่างประเทศ บทบาทนี้ทำให้เขานำองค์ความรู้จากต่างประเทศมาช่วยผลักดันให้ EGAT ขยายศักยภาพสู่ธุรกิจพลังงานใหม่ได้อย่างทันสมัยและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บอสเล่าว่า EGAT เป็นองค์กรที่มอบโอกาสให้เติบโตจริง ทั้งด้านความมั่นคง สวัสดิการ และเส้นทางพัฒนาตัวเอง “ EGAT สนับสนุนให้ทุกคนกล้าลอง กล้าก้าวออกจาก Comfort Zone เติมไฟ เติม Passion ให้กับตัวเองเสมอ เพื่อกลับมาผลักดันองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน”
สำหรับบอส EGAT ไม่ได้เป็นเพียงองค์กรที่มั่นคง แต่เป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ค้นหา ได้เพิ่มศักยภาพของตัวเอง พร้อมสร้างคุณค่ากลับคืนสู่อนาคตพลังงานของไทยอย่างแท้จริง

เช่นเดียวกับ เฟม–ญาณาลักษณ์ วงษ์จินดา พนักงานรุ่นใหม่ที่ต่อยอดพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์ด้วยการเรียนต่อสาขา Economics and Finance ที่ University of Warwick ประเทศอังกฤษ เพื่อเพิ่มความเข้าใจและทักษะที่จำเป็นสำหรับงานวิเคราะห์เศรษฐกิจพลังงานในบทบาทของเธอ
เฟมทำงานที่แผนกวิเคราะห์อัตราค่าไฟฟ้าฯ มา 5 ปี ช่วงเริ่มงานเธอต้องเรียนรู้งานใหม่ควบคู่กับการเตรียมสอบภาษาอังกฤษ แม้จะมีความกดดัน แต่พี่ ๆ ในทีมช่วยให้คำแนะนำและจัดลำดับงาน ทำให้สามารถเตรียมตัวเดินทางไปศึกษาต่อได้อย่างราบรื่น
เมื่อถึงประเทศอังกฤษ เฟมต้องปรับตัวกับการเรียนแบบ Self-study และการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน แต่การสนับสนุนจากรุ่นพี่ EGAT เพื่อนร่วมทุน และการดูแลด้านทุนจากองค์กร ช่วยให้เธอโฟกัสกับการเรียนได้อย่างเต็มที่
หลังกลับมา เธอนำความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินมาพัฒนางานวิเคราะห์ของ EGAT ทั้งในส่วนการคำนวณอัตราค่าระบบส่งไฟฟ้าและการประเมินความคุ้มค่าของโครงการต่าง ๆ ทำให้งานแม่นยำขึ้นและสนับสนุนการตัดสินใจด้านพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เฟมบอกว่า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา เธอรู้สึกว่า EGAT ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรมหรือโอกาสเรียนต่อทั้งในและต่างประเทศ
“ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาที่ EGAT ก็รู้สึกเลยว่าเป็นองค์กรที่เปิดกว้างและสนับสนุนให้พนักงานสามารถพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ EGAT ไม่ได้ให้แค่ที่ทำงาน แต่เปิดโอกาสให้เราได้เข้ามาเรียนรู้และพัฒนาตัวเองจริงๆ”
สำหรับเฟม EGAT ไม่ได้ให้แค่ที่ทำงาน แต่เปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ และได้พัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ เลยอยากชวนคนรุ่นใหม่ที่กำลังมองหาองค์กรที่ให้มากกว่าที่ทำงาน EGAT คือคำตอบ

นัท–ณัฐวุฒิ พงค์ปวน คืออีกหนึ่งในวิศวกรรุ่นใหม่ของ EGAT ที่มีบทบาทอันสำคัญในการดูแลงานควบคุมระบบกำลังไฟฟ้า
ซึ่งเกี่ยวข้องตั้งแต่การพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้า การบริหารกำลังผลิต ไปจนถึงการวางแผนเดินเครื่องโรงไฟฟ้า เพื่อให้ไฟฟ้าส่งถึงผู้ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง มั่นคง และอยู่ในต้นทุนที่เหมาะสม
เมื่อระบบพลังงานเริ่มซับซ้อนขึ้นจากสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มสูงขึ้น นัทตัดสินใจต่อยอดความรู้ด้วยการศึกษาต่อสาขา Electronic and Electrical Engineering ที่ University of Strathclyde ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและเทคโนโลยีพลังงานยุคใหม่
นัทเล่าให้ฟังว่า หลักสูตรที่เขาเรียน “เข้มข้นและท้าทายกว่าที่เคยเจอ” โดยเฉพาะรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ระบบไฟฟ้าอย่าง Advanced Power & Energy Systems, Power System Economics และ Wind Energy & Distributed Energy Resources รวมไปถึงประสบการณ์การทำโปรเจกต์จริงในชั้นเรียนทำให้เขาได้มองเห็นภาพรวมของระบบไฟฟ้าในแบบที่ลึกขึ้นและใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงในหลายประเทศที่มีการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาทำงานที่ EGAT นัทรู้สึกได้ว่าความรู้จากการเรียนต่อมีคุณค่ามากในการทำงาน โดยเขาได้นำความรู้จากห้องเรียนและประสบการณ์จากโปรเจกต์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้จริงกับระบบไฟฟ้าไทย ตั้งแต่การรองรับพลังงานหมุนเวียนที่มีความไม่แน่นอนสูงขึ้น ไปจนถึงการออกแบบระบบให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สามารถรักษาความต่อเนื่องในการผลิตไฟฟ้าได้แม้ในสภาวะที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถเสนอแนวทางใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ระบบไฟฟ้าของไทยพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด โดยไม่ละเลยความมั่นคงและความน่าเชื่อถือของระบบ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของงานนี้
นัทย้ำว่า โอกาสในการเรียนต่อครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ EGAT ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของคนอย่างจริงจัง สำหรับนัท การมีส่วนร่วมในภารกิจดูแลความมั่นคงของระบบไฟฟ้าของประเทศคือความภาคภูมิใจที่ทำให้ทุกวันของการทำงานมีความหมาย และเป็นเหตุผลที่เขาอยากชวนคนรุ่นใหม่ให้ลองเปิดใจมอง EGAT เป็นพื้นที่ที่ให้ทั้งความมั่นคง โอกาส และความหมายของการทำงานในระยะยาว
“EGAT เป็นที่ที่ช่วยผลักดันให้เราเติบโต และทำให้งานที่ทำทุกวันมีความหมายทั้งต่อตัวเราเองและสังคม”

และสุดท้าย สปาย–รัชชานนท์ ชาญหัตถกิจ ผู้ที่เริ่มทำงานที่ EGAT ทันทีหลังเรียนจบ เส้นทางของสปายเริ่มจากงานด้าน Smart Grid และ Microgrid ในกองวางแผนพัฒนาระบบไฟฟ้ารูปแบบใหม่ ซึ่งได้ทำงานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ พร้อมทั้งได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพพนักงานมากมาย ที่เปิดโอกาสให้เขานำเสนอผลงานต่อผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อพัฒนาแนวคิดเชิงระบบของพลังงานยุคใหม่
ต่อมา สปายได้ย้ายไปทำงานกับทีม PMO Elexa ซึ่งรับผิดชอบการพัฒนาธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้า ทำตั้งแต่การหารือธุรกิจ ประสานงานภาคสนาม ไปจนถึงการวางแผนขยายสถานี ถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาเติบโตทั้งทักษะด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ
ก่อนเดินทางไปเรียนต่อ สปายได้ร่วมงานด้านการคาดการณ์พลังงานหมุนเวียน (RE Forecast) ซึ่งทำให้เห็นความสำคัญของข้อมูลขั้นสูงต่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อในสาขา Energy Systems and Data Analytics ที่ University College London (UCL) ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นการผสมผสานความรู้ด้านพลังงาน วิศวกรรม และวิทยาศาสตร์ข้อมูลเข้าด้วยกัน
การเรียนต่อครั้งนี้ท้าทายมาก ทั้งเนื้อหาเฉพาะทางด้านระบบพลังงานและการประมวลผลข้อมูลเชิงลึก รวมถึงการทำวิจัยด้านการคาดการณ์การใช้พลังงานของยานยนต์ไฟฟ้า แต่สปายบอกว่าทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีเพราะ EGAT สนับสนุนเต็มที่ ทั้งทุนการศึกษา ค่าครองชีพ คำปรึกษาทางวิชาการ และเครือข่ายพนักงาน EGAT ที่เรียนในลอนดอนร่วมกัน
หลังจากกลับมา เขาได้ย้ายสังกัดมาที่กองพยากรณ์การใช้ไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้าและได้รับมอบหมายให้ทำงานด้าน EV Forecasting ซึ่งตรงกับประเด็นที่เขาทำวิจัย
ในต่างประเทศ โดยทำแบบจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประเมินผลกระทบของยานยนต์ไฟฟ้าต่อระบบไฟฟ้า และกำหนดแนวทางที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงและรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต องค์ความรู้ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากต่างประเทศทำให้เขาสามารถผลักดันโครงการใหม่ ๆ ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“การทำงานที่ EGAT เหมือนได้อยู่ในมหาวิทยาลัยใหญ่แห่งการทำงาน ที่มีทั้งวิชาบังคับและวิชาเลือกหลากหลายให้เรียนรู้ ได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา และยังมีโอกาสทำงานกับองค์กรที่มีความ Unique ที่สร้าง Impact ต่อประเทศ และทำ “…เพื่อประชาชน…” ได้จริง”
ปลดล็อคศักยภาพเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
มาร่วมเติมพลังงานแห่งอนาคต และจุดพลังศักยภาพในตัวคุณให้ชัดขึ้นกว่าเดิม ผ่านสภาพแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้ เติบโต และค้นหาทางเดินของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะเราเชื่อว่าทุกคนมีพลังบางอย่างที่มีความหมาย และเมื่อได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม พลังนั้นจะค่อย ๆ เด่นชัดขึ้นจนกลายเป็นแรงสำคัญที่สร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริงทั้งต่อตัวคุณ งานที่คุณทำ และสังคมที่คุณอยู่ร่วมด้วย
ที่ EGAT เราอยากให้คุณได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ พัฒนาทักษะที่สนใจ และนำประสบการณ์ที่สั่งสมมาใช้ในจังหวะที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นมาจากเส้นทางแบบใด หรือกำลังมองหาทิศทางใหม่ที่มีความหมายมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาที่ทำงานที่ให้ทั้งความมั่นคง โอกาส และความตั้งใจที่จะเดินเคียงข้างกัน ที่นี่พร้อมเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นที่คุณก้าวเข้ามาได้อย่างมั่นใจ
ปลดล็อกพลังในตัวคุณ และร่วมเปลี่ยนพลังนั้นให้ขับเคลื่อนสังคมและประเทศอย่างยั่งยืนไปด้วยกัน
มาร่วมสร้างวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าด้วยพลังของเรา… ไปด้วยกัน ที่นี่


