What's new | 9 April 2024

อะไร? ที่ทำให้ PTT เป็นอันดับ 1 ของบริษัทสัญชาติไทย ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด

เป็นองค์กรยักษ์ใหญ่ที่คนไทยทุกคนต้องรู้จักอย่างแน่นอนกับ ปตท. บริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานและปิโตรเคมีอย่างครบวงจรในฐานะ ‘บริษัทพลังงานแห่งชาติ’ มายาวนานกว่า 45 ปี ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Powering Life with Future Energy and Beyond’ มุ่งตอบโจทย์การเจริญเติบโตสู่ธุรกิจพลังงานอนาคต และธุรกิจใหม่ที่ไปไกลกว่าพลังงาน ผสานกับความคิดที่ต้องดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน และไม่ทำร้ายโลก อีกทั้งยังเป็นบริษัทที่โดดเด่นในเรื่องการให้ความสำคัญกับการบริหารและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วย

ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน ปตท. ได้ปรับกลยุทธ์การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้ Fit in กับพนักงานส่วนใหญ่ที่เป็น Gen Y และ Gen Z  เพื่อส่งมอบคุณค่าและสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน เน้นวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และการเปิดใจยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง ทำให้ไม่มีปัญหาระหว่างคนต่างเจน และที่สำคัญ ปตท. ยังเป็นบริษัทแรก ๆ ที่ ‘ส่งเสริมความหลากหลายในกลุ่มพนักงาน’ ให้ความเท่าเทียมกับทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา อายุ ภูมิลำเนา ฯลฯ โดยมองที่ความสามารถเป็นหลักอย่างไม่มีปิดกั้น รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนสามารถโยกย้ายสายงานภายในบริษัทได้ เพื่อให้พนักงานทุกคนได้เติบโตและได้ทำงานที่เหมาะสมกับตัวเอง  

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ล่าสุด ปตท. ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 2 บริษัทที่คนทำงานรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2567 และถือเป็น ‘อันดับหนึ่ง’ ของ บริษัทสัญชาติไทยเลยทีเดียว วันนี้ WorkVenture จะพาคุณไปวิเคราะห์แบบเจาะลึกว่า อะไร? ที่ทำให้ ปตท. ยืนหยัดอยู่กลางหัวใจคนทำงานรุ่นใหม่ได้อย่างยาวนานขนาดนี้

 


 

ประวัติองค์กร กว่า 45 ปี ที่ ปตท. เปลี่ยนวิกฤติ สู่ธุรกิจที่เป็นรากฐานอันยั่งยืนของสังคมไทย

การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท. ถูกจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2521 เพื่อแก้วิกฤตการณ์น้ำมันขาดแคลน โดยมีภารกิจเพื่อจัดหาน้ำมันให้เพียงพอต่อการใช้งานของคนในประเทศ และดำเนินธุรกิจหลักด้านปิโตรเลียมและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับปิโตรเลียมต่อไป 

ในปี 2544 ด้วยสภาวะการแข่งขันที่สูงขึ้น รัฐบาลได้เล็งเห็นความจำเป็นในการเพิ่มบทบาทของภาคเอกชนในกิจการพลังงาน ในวันที่ 25 กันยายน ปีเดียวกัน คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบให้แปลงสภาพการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และจัดตั้งบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยให้ภาครัฐคงสัดส่วนการถือหุ้นใน ปตท. ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 และให้ ปตท. คงสถานะเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติ

ในวันที่ 1 ตุลาคม 2544 การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจึงได้แปลงสภาพเป็นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 20,000 ล้านบาท และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2544 โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คงสภาพรัฐวิสาหกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานมาจนถึงปัจจุบัน ปตท. ได้ดำเนินกิจการมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 45 ปีแล้ว

 


โลเคชั่นและการเดินทาง ออฟฟิศติดถนนวิภาวดี เดินทางง่าย แถมสะดวกสบายด้วย BTS-MRT EV Bus และรถรับส่งพนักงาน

เป็นถึงองค์กรใหญ่ยักษ์ระดับประเทศขนาดนี้ ไม่ต้องกังวลเลยว่า ออฟฟิศ ปตท. จะมีปัญหาเรื่องการเดินทางลำบาก เพราะ สำนักงานใหญ่ ปตท. เค้าตั้งอยู่ริมถนนวิภาวดีเลยล่ะ สามารถเดินทางมาได้สบาย ๆ ด้วยรถโดยสารส่วนตัว และไม่ต้องกลัวจะไม่มีที่จอดด้วยนะ เพราะที่นี่มีที่จอดเพียงพอสำหรับพนักงานทุกคน

ส่วนถ้าใครชอบเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ บอกเลยว่า สะดวกกว่าไปอีก! เพราะมีรถเมล์หลายสายผ่านถึงหน้าประตู ปตท. เลยทีเดียว และยังสามารถโดยสารรถไฟฟ้ามาลงที่ BTS สถานีห้าแยกลาดพร้าว หรือ MRT สถานีพหลโยธิน ได้ด้วย และที่โดนใจที่สุด! ก็คือ เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา Skywalk และทางเดินระดับพื้นดินมีหลังคาคลุม เชื่อมจาก BTS - MRT ถึง ปตท. สำนักงานใหญ่โดยตรง ได้เปิดให้ใช้แล้ว! อำนวยความสะดวกให้คนที่สัญจรรถสาธารณะได้เดินชิล ๆ ไปทำงานแบบไม่ร้อนอย่างนี้ ...ได้ใจพนักงานเมืองร้อนไปเลย

ส่วนถ้าใครชอบเดินทางฟรี สวัสดิการนี้ต้องว้าวแน่ เพราะ ตั้งแต่เวลา 07.00 - 20.00 น. ปตท. มี PTT Group EV Bus คอยรับ-ส่ง ระหว่างศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์และ BTS/MRT จตุจักร อีกทั้ง มีบริการรถรับส่งพนักงานไป-กลับ ปตท. สำนักงานใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่หลักหลายจุดด้วยนะ เรียกได้ว่า เป็นสวัสดิการที่ประหยัดด้วย รักษ์โลกด้วย เลิศจริงไรจริง

 


 

จุดเช็คอินใกล้ออฟฟิศ แหล่ง ช้อป-ชม-ชิล ครบครัน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ถ้าได้มาทำงานที่ ปตท. ก็สามารถใช้ชีวิตในแบบที่ใจฝันได้แน่นอน! เพราะคุณจะได้ทำงานอยู่ในทำเลทองที่รายล้อมไปด้วยแหล่ง Hangout และสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งใน กทม.!

เริ่มตั้งแต่ห้าง Central Ladprao ที่เพียงแค่เดินข้าม Skywalk ไม่ถึง 500 ม. คุณก็จะได้พบกับห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่เป็นอันดับต้นของประเทศ ที่มีครบตั้งแต่แหล่งช้อปปิ้ง ร้านคาเฟ่ ร้านบุพเฟ่ต์ โรงหนัง และซูเปอร์มาร์เก็ต แบบ All in One ในที่เดียว ส่วนถ้าใครชอบออกกำลังกาย ปตท. ก็ใกล้กับสวนรถไฟที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับออกกำลังกายครบครัน ทั้งขี่จักรยาน จ๊อกกิ้ง และเต้นแอโรบิก ยังมี สวนโมกข์ สำหรับผู้ที่สนใจการนั่งสมาธิ ฝึก Mindfulness และยังสามารถมา Hangout ยามค่ำคืนที่ร้านนั่งชิลที่มีอยู่แน่นขนัดรอบห้าแยกลาดพร้าวได้อีกด้วยนะ บอกเลยว่า มาทำงานที่ ปตท. คุณจะได้ใช้ชีวิตทั้งสะดวก และทั้งครบครัน ฟินได้ทุกไลฟ์สไตล์เลยล่ะ  

 


 

สวัสดิการโดนใจ ดูแลอย่างจริงจัง ทั้งคุณและครอบครัว 

เรื่องสวัสดิการ บอกเลยว่า ปตท. ไม่น้อยหน้าใครแน่นอน! 

เพราะที่นี่ให้ความสำคัญกับการดูแลชีวิตของพนักงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายที่เกษียณ โดยจัดเตรียมสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ มากมายที่ตอบโจทย์พนักงานทุกคน 

นอกจากสวัสดิการพื้นฐาน ส่วนลดค่าน้ำมัน และค่าเช่าบ้านสำหรับการปฏิบัติงานนอกสถานที่หรือต่างประเทศแล้ว ที่นี่ยังมี ‘ระบบสวัสดิการถูกใจ ’ หรือ Flexi Benefit โดยสวัสดิการบางตัวที่พนักงานไม่ได้ใช้ ก็สามารถเลือกนำมาเบิกเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่นทดแทนได้ เช่น ค่าเรียนรู้ และ พัฒนาตนเอง อุปกรณ์กีฬา อาหารเพื่อสุขภาพ 

ไม่เพียงเท่านั้น ปตท. ยังใส่ใจเรื่องสุขภาพของพนักงานเป็นที่สุด โดยจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการดูแลสุขภาพให้พนักงานอย่างครบครัน ตั้งแต่ 

  • สถานพยาบาล ปตท. ที่มีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลชั้นนำมาให้บริการ โดยให้สิทธิทั้งพนักงาน และครอบครัวเข้าใช้บริการได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

  • ศูนย์สุขภาพ ปตท. ที่มีทั้งฟิตเนส สระว่ายน้ำ โรงยิม ห้องนวดให้พนักงานไปใช้บริการ

  • โครงการสุขใจดี ที่เปิดให้สามารถขอคำปรึกษาปัญหาสุขภาพใจกับจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยา ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ตลอด อีกทั้งยังจัดให้มีการอบรมแก่หัวหน้างาน เพื่อเสริมทักษะผู้นำให้เข้าใจวิธีการดูแลสุขภาพใจของทีมงานด้วย

อีกทั้ง ปตท. ยังมีสวัสดิการอื่น ๆ ที่ดูแลไปถึงครอบครัวของพนักงานอีกด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น 

  • ประกันสุขภาพ ให้บิดา มารดา และคู่สมรส จนถึงอายุ 80 ปี และบุตรจนถึงอายุ 20 ปี

  • PTT Day Care สถานที่สำหรับดูแลบุตรในที่ทำงาน 

  • เงินช่วยเหลือการศึกษาบุตร และทุนการศึกษาบุตรที่เรียนดี

 


 

รูปแบบการทำงาน รวม 3 ดี : งานดี ชีวิตดี องค์กรดี พนักงานทำงานแบบแฮปปี้ที่ ปตท.

เพราะ ‘ความสุข’ จะทำให้พนักงานสร้างสรรค์งานที่มีคุณภาพได้มากกว่า ปตท. เล็งเห็นถึงความสำคัญของสิ่งนี้ จึงจัดให้มีรูปแบบการทำงานที่ช่วยให้พนักงานบาลานซ์การทำงานกับการใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการเฉพาะบุคคลได้ เช่น 

  •  ให้พนักงานเลือกวัน Work from anywhere ได้สัปดาห์ละ 1 วัน

  •  ให้พนักงานเลือกเวลาเข้างานได้ ตั้งแต่ 7.00 น. จนถึง 10.00 น. และออกงานได้ เมื่อทำงานจนครบ 8 ชั่วโมง และสามารถลงเวลาเข้า-ออกงานผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้เลย

  • ให้พนักงานแจ้งลางาน และเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ เช่น Phone Directory Slip เงินเดือน Provident Fund  ผ่าน Mobile Application ทางโทรศัพท์มือถือได้ 

  • ให้พนักงานเลือกคอร์สอบรมที่สนใจได้ตลอดเวลาผ่าน LMS Application

  • จัดให้มีพื้นที่ We Space เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพนักงานที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเข้าใช้ทำงานที่สำนักงานใหญ่ได้

นอกจากนี้ ปตท. ยังเน้นให้พนักงานสื่อสารแบบสองทาง รวบรวมความคิดเห็นต่าง ๆ ของพนักงานมาใช้ปรับปรุงระบบงาน และสวัสดิการสำหรับพนักงานอยู่อย่างต่อเนื่อง 

  • มีแบบสอบถามความคิดเห็นพนักงานเพื่อประเมินสถานะความสุขขององค์กร (Happinometer) 

  • มีระบบแจ้งเรื่องร้องเรียนปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่เป็นธรรมอันเกิดจากการทำงาน เพื่อให้องค์กรได้รับทราบปัญหา และเร่งแก้ไขก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ต่อไป

 


โอกาสในการสร้างศักยภาพ และการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยโปรแกรมพัฒนาศักยภาพที่หลากหลาย

‘การเติบโตขององค์กรขึ้นอยู่กับพนักงานที่มีคุณภาพ’ จากความเชื่อมั่นนี้ทำให้ ปตท. ส่งเสริมให้พนักงานมีความรู้และทักษะที่จำเป็น ผ่านแผนพัฒนาบุคลากร คอร์สเรียน และทุนการศึกษาต่าง ๆ เช่น

  • แผนพัฒนาสายอาชีพพนักงานเฉพาะบุคคล เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น 

  • จัดให้มีการเรียนรู้นอกห้องเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีทั้งการอบรมแบบ classroom และ virtual classroom เพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเรียนรู้แบบ real-time มีโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวความคิด และประสบการณ์กับผู้เข้าอบรม ผ่านการใช้ VDO conference

  • การเรียนรู้ผ่านกิจกรรม role play แบบออนไลน์ และ board game

  • สื่อการเรียนเพื่อตอบสนองการเรียนรู้แบบ anywhere anytime และ life long learning ทั้ง online learning แหล่งเรียนรู้ที่คัดสรรจากภายนอก หรือจะเป็น PTT E-library (E-book, e-magazine, magazine, book) ให้พนักงานสามารถค้นหา จอง ยืม รวมทั้งอ่านหนังสือออนไลน์ ได้ทุกที่ ทุกเวลา และ podcast เนื้อหาหลากหลายจากทั้งในและนอกองค์กร  

  • ทุนการศึกษา เพื่อให้พนักงานได้เรียนรู้ต่อยอดตนเอง เช่น ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท เช่น International Scholarship Program (ISP) และ Employee Scholarship Program (ESP)

  • โครงการที่ให้พนักงานสมัครเข้าร่วมเพื่อคัดเลือก และส่งไปทำงานที่มีความท้าทาย เช่น โครงการ Young People to Global (YP2G) เป็นโครงการพัฒนารูปแบบพิเศษในเชิงกว้าง และโครงการ The Frontier ในโครงการพัฒนารูปแบบพิเศษในเชิงลึก 

เรียกได้ว่ามีมากมายหลากหลายทุนการศึกษาและโครงการ ให้พนักงานได้เลือกเข้าร่วมตามความต้องการของตัวเองกันเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของค่าตอบแทนก็ไม่ต้องห่วงเลย คุ้มค่ากับผลงานและความสามารถแน่นอน! เพราะ ปตท. มีการเปรียบเทียบและปรับปรุงค่าตอบแทนกับบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นประจำทุกปี ทำให้ค่าตอบแทนของ ปตท. ทั้งเงินเดือน และโบนัส จัดอยู่ในระดับชั้นนำของประเทศ และเป็นไปตามผลการดำเนินงานอย่างแท้จริง

 


 

วัฒนธรรมองค์กร SPIRIT รากฐานสำคัญที่หล่อหลอมตัวตน คน ปตท.

ด้วยความมุ่งหมายที่จะทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป ปตท. จึงกำหนดค่านิยม SPIRIT เพื่อสร้างพฤติกรรมและวิถีการทำงานร่วมกัน ช่วยหล่อหลอมให้พนักงาน ปตท. เป็นคนเก่ง คนดี และมีความรับผิดชอบต่อองค์กรและสังคมภายนอก

โดยค่านิยมองค์กรทั้ง 6 ตัว สื่อถึง
S : Synergy ผสานพลัง สร้างพันธมิตร
P : Performance Excellence สร้างความเป็นเลิศ
I : Innovation สร้างการเติบโตด้วยนวัตกรรม 
R : Responsibility for Society สร้างสรรค์สังคม และสิ่งแวดล้อม
I : Integrity & Ethics สร้างพลังความดี
T : Trust & Respect สร้างความเชื่อมั่น และไว้ใจ 

 


 



ซึ่ง ปตท. ได้มีการจัดกิจกรรมเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรอยู่เสมอ เช่น การสร้างผู้บริหารและผู้นำให้เป็นต้นแบบที่ดี ผ่านการถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้บริหารระดับสูง กิจกรรมเสริมสร้างแนวคิดเชิงนวัตกรรม ส่งเสริมให้พนักงานร่วมเสนอไอเดียใหม่ ๆ การจัดตั้งชมรม เช่น ชมรมพลังไทยใจอาสา เพื่อให้พนักงานและบุคคลทั่วไปสามารถร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม เช่น กิจกรรมเย็บคุณช้างจับมือเพื่อผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง กิจกรรม “ปตท. จุดพลังชีวิต พลิกผืนป่า” 1 ต้นกล้า สู่ป่าล้านที่ 2 โครงการนวัตกรรมสร้างรอยยิ้ม กลุ่ม ปตท. เป็นต้น เพื่อให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการ ทำประโยชน์เพื่อสังคม การรณรงค์ให้พนักงาน “งดรับ-ให้ของขวัญในทุกเทศกาล” ตามนโยบาย No Gift Policy เพื่อสร้างมาตรฐานที่ดีในการปฏิบัติงานอย่างโปร่งใสและปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียมกัน เป็นต้น



 

Future energy and Beyond เปิดจักรวาลธุรกิจใหม่ ปตท. เพื่อโลกที่น่าอยู่กว่าเดิม

นอกจากธุรกิจด้านการจัดหาพลังงานที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้ว ปตท. ยังมีการดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ ‘Powering life with future energy and beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิตด้วยพลังแห่งอนาคต’ ชูแนวคิดการดำเนินธุรกิจในแบบฉบับไม่ทำร้ายโลก ผ่านธุรกิจใหม่  2 กลุ่มใหญ่ คือ 
Future Energy : ธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต 
ธุรกิจ EV และแบตเตอรี่ โดยจัดตั้ง บริษัท อรุณ พลัส จำกัด เป็น EV Flagship ของกลุ่ม ปตท.  มีเป้าหมายเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศไทยในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า ผ่านการดำเนินงานของบริษัทลูกอย่าง เช่น ให้บริการเช่ายานยนต์ไฟฟ้า ผ่าน Application EVme, ให้บริการสถานีอัดประจุสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ศักยภาพนอกสถานีบริการ, ให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ เป็นต้น
Beyond : ธุรกิจอื่นที่ช่วยสนับสนุนการขับเคลื่อนชีวิตของผู้คน นอกเหนือธุรกิจพลังงาน
ทั้งอุปกรณ์การแพทย์ ผลิตยารักษามะเร็ง สร้างโรงงานผลิตอาหาร Plant-Based พร้อมพัฒนาอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ AI คลาวด์เซอร์วิส และโดรน เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนประเทศไปสู่เวทีโลกอย่างยั่งยืน
 
จากวิสัยทัศน์ใหม่ และแผนธุรกิจใหม่ ของ ปตท. ที่ตอบโจทย์ความต้องการโลกอนาคตชัดเจนขนาดนี้แล้ว ก็คาดการณ์ได้เลยว่า ปตท. จะเป็นธุรกิจที่เติบโตยั่งยืนอยู่คู่สังคมและโลกใบนี้ไปได้อีกยาวนานเลย ใครมองหาความมั่นคงแล้วล่ะก็ ปตท. มีให้คุณแบบเต็มแม็กซ์เลยล่ะ

 

อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนคงจะได้รู้จัก ปตท. ในมุมที่ทั้งกว้างและลึกขึ้นแล้ว และก็คงจะบางอ้อถึงเหตุผลที่ ปตท. ได้รับรางวัล Top50 Companies in Thailand 2024  แล้วใช่มั้ย? ด้วยความโดดเด่นรอบด้าน ตั้งแต่วัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง บรรยากาศการทำงานที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ สวัสดิการสุดคุ้มค่า วิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลทันโลก และโครงการเพื่อสังคมตลอด 45 ปี ทำให้ ปตท. ควรค่าเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งมากที่สุด! อย่ารอช้าที่จะเติบโตอย่างยังยืนไปด้วยกัน ที่นี่