
เลิกพ่น แล้วเริ่มฟัง — บทเรียนจาก Dale Carnegie ที่คนสมัครงานยุคนี้ควรรู้
Highlight
- Dale Carnegie ผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยสัมพันธ์ระดับโลก เชื่อว่า “การฟัง” คือกุญแจสำคัญของการสื่อสาร
- การสัมภาษณ์งานไม่ใช่เวทีขายของ แต่คือบทสนทนาเชิงเข้าใจ
- ทักษะการฟังช่วยให้ผู้สมัครโดดเด่นในยุคที่ทุกคนอยากเป็นผู้พูด
- คนที่ฟังเป็น คือคนที่เข้าใจสิ่งที่องค์กรต้องการ และแสดงออกได้อย่างตรงจุด
- งานวิจัยจาก Forbes ชี้ว่า 74% ของ HR รู้สึกว่าผู้สมัคร ‘พูดมากเกินไป’ และ ‘ไม่เข้าใจคำถามจริงๆ’
ยุคนี้ การพูดเก่งอาจไม่พอ: จุดเปลี่ยนของการสัมภาษณ์งาน
ในโลกของการสมัครงานที่การแข่งขันเข้มข้น การมีเรซูเม่สวย ประสบการณ์แน่น หรือการพูดคล่องแคล่วเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถการันตี "งานในฝัน" ได้อีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อการสัมภาษณ์งานไม่ใช่การพูดเพื่อขายตัวเองอย่างเดียว แต่คือ "การฟังและเข้าใจ" อย่างแท้จริง
สมมุติว่าคุณชื่อพลอย เพิ่งจบด้าน Marketing กำลังสัมภาษณ์กับบริษัท Tech Startup... คุณเล่าทุกอย่างอย่างลื่นไหลทั้งโปรเจกต์ รางวัล ประสบการณ์ทำงานพาร์ทไทม์ แต่ HR กลับรู้สึกว่า “พลอยไม่เข้าใจว่าบริษัทต้องการอะไรเลย” เพราะเธอพูดแต่เรื่องตัวเอง
บทความนี้จึงอยากพาคุณย้อนกลับไปยังแนวคิดของ Dale Carnegie นักเขียนและนักพูดในตำนาน ผู้เขียนหนังสือ How to Win Friends and Influence People หนึ่งในตำราการสื่อสารที่เปลี่ยนชีวิตคนทั่วโลก พร้อมแสดงให้เห็นว่าทำไม "ทักษะการฟัง" จึงเป็น soft skill ที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่อยากแตกต่างและน่าจดจำในการสัมภาษณ์งาน
Dale Carnegie คือใคร? และทำไมคำสอนของเขาถึงยังทรงพลังจนถึงวันนี้
Dale Carnegie (1888–1955) คือผู้บุกเบิกแนวคิดการพัฒนาตนเองด้านมนุษยสัมพันธ์ การพูดในที่สาธารณะ และการโน้มน้าวใจคน ซึ่งกลายเป็นรากฐานของการฝึกอบรม Soft Skill ทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน
เขาคือผู้เขียนหนังสือระดับตำนาน How to Win Friends and Influence People ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1936 และมียอดขายมากกว่า 30 ล้านเล่มทั่วโลก ถูกแปลเป็นหลายสิบภาษา และยังคงได้รับความนิยมในหลักสูตรฝึกอบรมขององค์กรชั้นนำอย่าง IBM, AT&T, Microsoft, Coca-Cola และแม้แต่สถาบันราชการของสหรัฐฯ
Carnegie ไม่ได้เพียงพูดถึงการพูดให้เก่ง แต่เน้นหนักไปที่ “การฟังอย่างตั้งใจ” ซึ่งเขามองว่าเป็นรากฐานของความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นในโลกของธุรกิจหรือชีวิตส่วนตัว
“Be a good listener. Encourage others to talk about themselves.”
หนึ่งในแนวคิดอมตะของเขาคือ:
“You can make more friends in two months by becoming interested in other people than you can in two years by trying to get other people interested in you.”
หรือในความหมายง่ายๆ ว่า:
"ถ้าอยากให้คนสนใจเรา... ก็เริ่มจากสนใจเขาก่อน"
ปัจจุบัน Dale Carnegie Training มีการสอนในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก ทั้งในรูปแบบอบรมและออนไลน์ โดยเฉพาะในกลุ่มพนักงานองค์กรที่ต้องการพัฒนา Soft Skill เพื่อความก้าวหน้าในการทำงาน
สัมภาษณ์งาน = เวทีขายของ? หรือพื้นที่แห่งความเข้าใจ?
เคยไหม? ไปสัมภาษณ์งานแล้วรู้สึกว่า “เราพูดดีมาก”
- เราเล่าครบหมดทั้งโปรเจกต์
- ประกาศนียบัตรใด ๆ ก็ไม่หลุด
- ประสบการณ์ทุกบรรทัดถูกเล่าเหมือนคลิป TikTok ความยาว 3 นาที
แต่สุดท้าย... ไม่ได้งาน
บางครั้ง ปัญหาอาจไม่ใช่ว่า “พูดไม่ดี” แต่เป็นเพราะ “พูดมากเกินไป” และที่แย่กว่านั้นคือ... “ไม่ได้ฟัง”
การพูดเยอะ = การยิงลูกปืนแบบสุ่ม
การฟังดี = การยิงตรงเป้า เพราะเข้าใจเป้าหมายแล้ว
หลายคนเข้าใจผิดว่า การสัมภาษณ์คือการโชว์ของ แต่จริงๆ แล้วคือการแลกเปลี่ยนความเข้าใจ ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้อยากรู้ว่าคุณทำอะไรมาเท่านั้น เขาอยากรู้ว่า “คุณเข้าใจเขาแค่ไหน
และจุดเริ่มต้นของ “ความเข้าใจ” ไม่ใช่การพูด… แต่คือ “การฟัง”
จากบทความของ Harvard Business Review กล่าวว่า “Deep Listening” คือทักษะสำคัญที่ช่วยให้เกิดการสร้างสัมพันธ์เชิงลึก และทำให้การสื่อสารมีความหมายมากขึ้น
คนที่ฟัง คือคนที่น่าคุยต่อ
ลองนึกภาพผู้สมัครที่:
- ฟังอย่างตั้งใจ
- จดโน้ต
- ถามกลับด้วยคำถามที่ลึกและตรงประเด็น
คนแบบนี้ไม่ได้แค่ฟังเพื่อรอคิวพูด แต่กำลังฟังเพื่อ "เข้าใจ" — เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังสื่อ เข้าใจบริบท และเข้าใจว่าตัวเองควรตอบสนองอย่างไร
ฟังแบบนี้แหละ ที่แสดงถึงความใส่ใจและทักษะการเรียนรู้ที่ลึกกว่าการท่องจำ
คือการฟังอย่างมีคุณภาพ (active listening)
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ งานวิจัยพบว่า เมื่อเราฟังอย่างตั้งใจ สมองของคู่สนทนาจะหลั่ง Oxytocin — ฮอร์โมนที่เชื่อมโยงกับ “ความไว้ใจ” และ “ความผูกพัน”
ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ connection ที่แท้จริง
เพราะผู้สมัครที่ “ฟังเป็น” ไม่ได้แค่เก็บข้อมูล
แต่กำลังจับใจความของบทสนทนาเพื่อเข้าใจว่า…
- องค์กรนี้ต้องการอะไร
- ทีมนี้กำลังเผชิญกับความท้าทายแบบไหน
- และตัวเขาจะช่วยเติมเต็มตรงไหนได้จริง
และนั่นแหละ…คือสิ่งที่องค์กรต้องการ
ไม่ใช่คนที่พูดเก่งที่สุด
แต่คือคนที่ เข้าใจสิ่งที่ควรทำ และเข้าไปทำตรงจุดนั้นได้จริง
ทักษะการฟัง: Soft Skill ที่กลายเป็น Superpower
ทักษะการฟัง ไม่ใช่แค่ทักษะทางสังคม แต่คือเครื่องมือของคนที่รู้จักคิดอย่างเป็นระบบ รู้จักวางกลยุทธ์ และรู้จักสร้างสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ เช่น
- มันช่วยให้คุณ "เข้าใจคำถาม" อย่างแท้จริง
- มันทำให้คุณ "ตอบได้ตรงจุด" และไม่หลุดธีม
- มันแสดงถึง "ความเคารพและความตั้งใจ" ต่อคู่สนทนา
- มันเปลี่ยนคุณเป็น “คนที่น่าร่วมงานด้วย”
- มันช่วยให้คุณ "รู้ว่าองค์กรต้องการอะไร" ก่อนที่คุณจะเริ่มพูดด้วยซ้ำ
เปรียบเทียบง่ายๆ:
- คนที่ฟังดี = นักวิเคราะห์
- คนที่พูดดี = นักเล่าเรื่อง
- คนที่ทำทั้งสองได้ = ผู้นำที่น่าเชื่อถือ
Satya Nadella (CEO ของ Microsoft) เคยกล่าวว่า การฟังคือเหตุผลที่เขา “เข้าใจพนักงาน” และเปลี่ยน Microsoft จากองค์กรเทคโนโลยี เป็นองค์กรที่เข้าใจผู้คน
สรุป: สัมภาษณ์งานครั้งหน้า จะพูดหรือจะฟัง?
เมื่อคุณเข้าสัมภาษณ์งานครั้งต่อไป ลองถามตัวเองว่า:
- “ฉันฟังมากพอจะเข้าใจสิ่งที่เขาต้องการไหม?”
- “ฉันอยากเข้าใจบริษัทนี้แค่ไหน?”
แล้วค่อยตัดสินใจว่า...
คุณจะเป็น “นกแก้ว” ที่พรั่งพรูทุกอย่างใส่บริษัท หรือเป็น “หมาป่า” ที่ฟังลึกจนบริษัทอยากรู้จักคุณมากขึ้น?
ก่อนเข้าสัมภาษณ์ ลองฝึกตัวเองโดยไม่พูดเลย 10 นาที แล้วจดทุกอย่างที่อีกฝ่ายพูดให้ได้มากที่สุด หรือเตรียมคำถามปลายเปิด เช่น:
“จากมุมมองของคุณ ความท้าทายของทีมนี้ตอนนี้คืออะไรครับ?”
คำถามแบบนี้ไม่เพียงแต่ให้ Insight แต่ยังแสดงว่าคุณคือคนที่ “ฟัง” เป็น