
สงครามแย่งคนเก่ง... สู้ด้วย ‘เงิน’ อย่างเดียวไม่เคยพอ
คุณกำลังนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศ แล้วได้รับแจ้งข่าวว่า Talent ระดับหัวกะทิที่คุณเพิ่งยื่น Offer ให้ไป เขาปฏิเสธข้อเสนอของคุณ แล้วเลือกไปร่วมงานกับคู่แข่งที่ดูผิวเผินแล้วข้อเสนอแทบไม่ต่างกัน... ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? คุณเคยลองตั้งคำถามกับตัวเองบ้างไหม? หรืออาจจะแย่กว่านั้น คือ Talent ที่เก่งกาจในทีมของคุณกำลังจะลาออก ทั้งๆ ที่คุณก็พยายามอย่างเต็มที่ในการ สรรหาคนเก่ง และได้ปรับขึ้นเงินเดือนให้เขาไปแล้ว... คุณเคยเจอสถานการณ์เหล่านี้ที่ชวนให้ปวดหัวกับการแก้ ปัญหาจ้างคน หรือไม่? หากคำตอบคือ "ใช่" แสดงว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับ ปัญหาจ้างคน ที่ซับซ้อน และเป็นส่วนหนึ่งของ สงครามแย่งคนเก่ง ที่นับวันยิ่งทวีความดุเดือดอย่างแท้จริง
คุณแน่ใจหรือว่า Offer ของคุณ 'ใช่' สำหรับพวกเขา? หลายครั้งที่ผู้บริหารและฝ่ายบุคคล (HR) ยังคงเชื่อมั่นอย่างสุดใจว่า การแก้ ปัญหาจ้างคน และการ สรรหาคนเก่ง ในสมรภูมิอันดุเดือดของ สงครามแย่งคนเก่ง นี้คือการแข่งขันด้านการเสนอเงินเดือนและโบนัสให้สูงที่สุด ใครจ่ายมากกว่า Talent คนเก่งก็จะเลือกผู้นั้น แต่ลองคิดดูสิครับ... นี่คือแนวคิดที่ล้าสมัยและอาจนำพาองค์กรของคุณไปสู่ความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดในระยะยาว เพราะแท้จริงแล้ว เงินเดือนอย่างเดียวไม่เคยเพียงพอที่จะจ้างคนเก่งได้ตลอดไป
ลองหยุด! และถามตัวเองอย่างจริงจัง:
- ต้นทุนของการ 'สรรหาคนเก่ง' ที่สูญเปล่า: คุณใช้ทรัพยากร (ทั้งเวลาและเงิน) ไปเท่าไหร่แล้วกับการ สรรหาคนเก่ง แต่สุดท้ายก็ยังวนลูปกับ ปัญหาจ้างคน เดิมๆ ที่ต้องเริ่มใหม่เสมอ? นี่คือต้นทุนแฝงที่ทำให้การแก้ ปัญหาจ้างคน ยากขึ้นไปอีก
- องค์ประกอบใน Offer Package ที่มองข้าม: Offer Package ที่คุณยื่นไปนั้น มีองค์ประกอบอะไรบ้างนอกเหนือจากเงินเดือนและโบนัสที่แสดงถึง "คุณค่า" อื่นๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตพวกเขาหรือไม่?
- ความต้องการที่แท้จริงของ Talent: คุณเคยมีกระบวนการที่ชัดเจนในการสำรวจอย่างจริงจังไหมว่า Talent ในอุตสาหกรรมของคุณ รวมถึงพนักงานปัจจุบันของคุณเองนั้น มองหาอะไรในองค์กร นอกเหนือจากตัวเลขทางการเงิน?
- "เสน่ห์" ของ Offer ที่คุณมี: ปัญหาจ้างคน ที่คุณเผชิญอยู่ อาจมีสาเหตุมาจาก Offer ของคุณยัง "ขาดเสน่ห์" หรือ "ไม่น่าสนใจพอ" จริงๆ ในสายตาของ Talent ที่มีตัวเลือกมากมาย นี่คือจุดที่ สวัสดิการพนักงาน เข้ามามีบทบาทสำคัญ
หากคุณยังไม่มั่นใจในการแก้ปัญหา ปัญหาจ้างคน หรือยังมองไม่เห็นภาพความเชื่อมโยงระหว่างปัญหานี้กับ สวัสดิการพนักงาน และกลยุทธ์ Total Rewards ที่องค์กรของคุณนำเสนอ บทความนี้จะเป็นคู่มือสำคัญที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์สถานการณ์ขององค์กรอย่างลึกซึ้ง เพื่อวางแผนและลงมือแก้ปัญหาการ สรรหาคนเก่ง ได้อย่างเป็นรูปธรรม
การสร้าง Employer Branding ที่แข็งแกร่ง คือหัวใจสำคัญที่จะทำให้องค์กรของคุณโดดเด่นท่ามกลางการแข่งขันเพื่อแย่งชิงบุคลากรคุณภาพ การสื่อสารจุดแข็งและคุณค่าที่แท้จริงขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจ หรือโอกาสในการเติบโต จะช่วยดึงดูดผู้สมัครงานที่มีทัศนคติและคุณสมบัติที่ตรงกับองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหา ปัญหาจ้างคน ในระยะยาว และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันได้อย่างแท้จริง
เจาะลึกรากเหง้าของ 'ปัญหาจ้างคน': เมื่อ Offer ของคุณ 'ไม่ตอบโจทย์ชีวิต' ในทุกมิติ
ปัญหาจ้างคน ที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่การหาคนไม่มีคุณสมบัติ แต่คือการที่องค์กรไม่สามารถสร้าง "คุณค่าโดยรวม" (Holistic Value Proposition) ที่แข็งแกร่งพอจะชนะใจ Talent ในสงครามแย่งคนเก่งได้ และนี่คือจุดเปลี่ยนที่องค์กรต้องก้าวข้าม "การจ่ายเงิน" ไปสู่การสร้าง "ประสบการณ์" ผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า Total Rewards และ Competitive Benefits ที่ทำให้ข้อเสนอของคุณโดดเด่นและน่าดึงดูดใจอย่างแท้จริง เพราะการ สรรหาคนเก่ง ในยุคนี้ ไม่ใช่แค่การเสนอ สวัสดิการพนักงาน พื้นฐานอีกต่อไป แต่คือการออกแบบประสบการณ์ทั้งหมดที่ 'ตอบโจทย์ชีวิต' ของพวกเขาอย่างแท้จริง Talent ที่เก่งกาจมองไกลกว่าแค่ตัวเลขเงินเดือน พวกเขาประเมิน 'มูลค่าที่แท้จริง' ที่จะได้รับตลอดการทำงาน และหากองค์กรของคุณยังคงสู้ด้วยอาวุธเก่าๆ โดยละเลยมิติเหล่านี้ ปัญหาจ้างคน ก็จะตามมาหลอกหลอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้:
- โอกาสในการเติบโตและพัฒนาตนเองอย่างก้าวกระโดด: Talent ที่มีความสามารถมักจะโหยหาความท้าทาย ต้องการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ พวกเขาต้องการรู้สึกว่ากำลังเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้รับความท้าทายที่เหมาะสม ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากผู้มีประสบการณ์ และเห็นเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพที่ชัดเจนภายในองค์กร หาก Offer หรือองค์กรที่คุณเสนอขาดโอกาสเหล่านี้ นั่นคือสัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเจอปัญหา สรรหาคนเก่ง ที่ไม่อยากมาอยู่ต่อ นี่คือ ปัญหาจ้างคน ที่แท้จริงของการขาดโอกาส
- ความยืดหยุ่นและการบริหารสมดุลชีวิตที่ลงตัว (Work-Life Harmony): ในยุคที่ความเครียดจากการทำงานกลายเป็นเรื่องใหญ่ และเทคโนโลยีช่วยให้การทำงานนอกออฟฟิศเป็นไปได้จริง สวัสดิการพนักงาน ที่ตอบโจทย์เรื่องความยืดหยุ่น เช่น นโยบาย WFH/Hybrid ที่ชัดเจน, ชั่วโมงการทำงานที่ยืดหยุ่นตามความรับผิดชอบ (ไม่ใช่แค่เวลาเข้าออก) หรือวันลาที่เพียงพอต่อการดูแลชีวิตส่วนตัว คือสิ่งที่ Talent มองหาอย่างยิ่ง หาก Offer ของคุณยังเป็นไปในรูปแบบเดิมๆ และขาด สวัสดิการพนักงาน ด้านความยืดหยุ่น คุณก็มีแนวโน้มที่จะเจอกับ ปัญหาจ้างคน ที่คนเก่งปฏิเสธคุณได้ง่ายๆ
- วัฒนธรรมองค์กรที่สร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุน: Nobody wants to work in a toxic environment. Talent ต้องการทำงานในที่ที่พวกเขารู้สึกได้รับการยอมรับ ให้คุณค่าในความคิดเห็นของพวกเขา มีเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลือเกื้อกูล และมีผู้นำที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจ วัฒนธรรมองค์กรที่ Toxic หรือสภาพแวดล้อมที่กดดัน คือ ปัญหาจ้างคน ที่ร้ายแรงที่สุด ที่อาจทำให้ Talent ที่ดีที่สุดของคุณลาออกไปอย่างรวดเร็ว
- สุขภาพกายใจที่แข็งแรงและการดูแลความเป็นอยู่ที่ดี (Holistic Wellbeing): Talent ในยุคนี้ให้ความสำคัญกับสุขภาพองค์รวมเป็นอย่างมาก การที่องค์กรมี สวัสดิการพนักงาน ที่ครอบคลุมด้านสุขภาพร่างกาย (ประกันสุขภาพที่แข็งแกร่ง, โปรแกรมส่งเสริมการออกกำลังกาย) และสุขภาพจิต (บริการให้คำปรึกษา, โปรแกรมจัดการความเครียด) แสดงให้เห็นว่าองค์กรนั้นแคร์พวกเขาอย่างแท้จริง สวัสดิการพนักงาน เหล่านี้ไม่เพียงช่วยแก้ ปัญหาจ้างคน ที่เกิดจากการขาดการดูแล แต่ยังช่วยให้พนักงานที่มีอยู่รู้สึกผูกพันและอยากทำงานในองค์กรคุณต่อไป
- ความหมายของงานและโอกาสในการมีส่วนร่วม: พนักงานยุคใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะ Talent ต้องการรู้สึกว่างานที่ทำนั้นมีความหมาย ไม่ใช่แค่ทำไปวันๆ แต่ต้องการสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่กว่า สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญ หรือทำงานในโปรเจกต์ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง การที่องค์กรเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ทำเช่นนั้น เป็นแรงจูงใจที่ทรงพลังยิ่งกว่าเงินเดือน และช่วยลด ปัญหาจ้างคน ในระยะยาว
Total Rewards และ Competitive Benefits เป็นเหมือน “หมัดเด็ด”
1.Total Rewards: กลไกสำคัญในการ สรรหาคนเก่ง และเอาชนะ สงครามแย่งคนเก่ง อย่างมีระบบ
หากคุณกำลังประสบกับ ปัญหาจ้างคน และต้องการ สรรหาคนเก่ง ใน สงครามแย่งคนเก่ง คุณต้องเปลี่ยนกรอบความคิด จากการมองแค่ "เงินเดือน" มาเป็นการบริหารจัดการ Total Rewards ทั้งระบบ Total Rewards คือมูลค่ารวมที่พนักงานจะได้รับจากองค์กรของคุณ ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบที่ทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยมและจูงใจให้ Talent เลือกคุณ:
- Compensation (ค่าตอบแทน): ค่าตอบแทนที่ดีช่วยดึงดูดคนเก่ง และสร้างความประทับใจแรกได้เสมอ แต่สิ่งที่ทำให้คนอยู่กับองค์กรไปนานๆ ไม่ได้มีแค่เงินเดือนหรือโบนัส — ยังมีอีกหลายปัจจัย เช่น โอกาสเติบโต วัฒนธรรมที่ใช่ และการพัฒนาที่ต่อเนื่อง เพราะการให้คุณค่าไม่ใช่แค่จ่ายให้มาก แต่ต้อง ใส่ใจให้ถูกจุด
- Benefits (สวัสดิการ): สวัสดิการพนักงาน คือส่วนสำคัญที่ทำให้ Total Rewards น่าดึงดูด (ประกันสุขภาพที่ครอบคลุมสำหรับพนักงานและครอบครัว, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มั่นคง, วันลาที่เพียงพอและยืดหยุ่น, สวัสดิการพนักงาน ด้านสุขภาพจิต) การออกแบบ สวัสดิการพนักงาน ที่ตอบโจทย์คือหัวใจในการแก้ ปัญหาจ้างคน และทำให้ สรรหาคนเก่ง ได้สำเร็จ
- Work-Life Effectiveness (ความสมดุลชีวิตการทำงาน): การสนับสนุน Work-Life Balance (นโยบาย WFH/Hybrid, ชั่วโมงทำงานที่ยืดหยุ่น, โปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ) เป็นส่วนสำคัญของ Total Rewards ที่แสดงให้เห็นว่าองค์กรของคุณใส่ใจชีวิตพนักงานอย่างไร การมอบความยืดหยุ่นคือการลด ปัญหาจ้างคน ที่เกิดจากข้อจำกัดเรื่องเวลา
- Performance & Recognition (ผลการปฏิบัติงานและการยอมรับ): ระบบการประเมินที่ชัดเจน, การให้ฟีดแบ็กที่สร้างสรรค์, และการยอมรับผลงานเป็นส่วนสำคัญของ Total Rewards ที่สร้างแรงจูงใจและบอกว่าคุณเห็นคุณค่าในสิ่งที่พนักงานทำ การที่องค์กรเห็นคุณค่าของคุณคือแรงขับเคลื่อนที่สำคัญกว่าเงินในหลายกรณี
- Development & Career Opportunities (การพัฒนาและโอกาสทางอาชีพ): การมอบโอกาสในการ สรรหาคนเก่ง ผ่านการพัฒนา (โปรแกรมอบรม, เส้นทางอาชีพที่ชัดเจน, โครงการ Mentorship) เป็นหัวใจสำคัญของ Total Rewards ที่ทำให้ Talent รู้สึกว่าตนเองกำลังเติบโต และไม่มองหา ปัญหาจ้างคน ที่เกิดจากการไร้การเติบโตในอนาคต
การออกแบบ Total Rewards ให้ครอบคลุมทั้ง 5 องค์ประกอบนี้อย่างสมดุล คือกุญแจสำคัญในการเอาชนะใน สงครามแย่งคนเก่ง และแก้ไข ปัญหาจ้างคน อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถ สรรหาคนเก่ง ได้สำเร็จ
2.Competitive Benefits: สร้างอาวุธพิเศษ เพื่อเอาชนะ สงครามแย่งคนเก่ง
ใน สงครามแย่งคนเก่ง การมี Competitive Benefits ที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง คือกลยุทธ์ที่ทำให้คุณชนะและแก้ไข ปัญหาจ้างคน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Competitive Benefits คือ สวัสดิการพนักงาน ที่นอกเหนือไปจากมาตรฐาน และสร้างความประทับใจอย่างแท้จริง นี่คือตัวอย่าง Competitive Benefits ที่ Talent มองหา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการ สรรหาคนเก่ง ที่ทรงพลัง:
- ความยืดหยุ่นไร้ขีดจำกัด: นโยบาย Competitive Benefits เช่น การอนุญาตให้ทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) หรือการกำหนดเวลาทำงานด้วยตนเองอย่างแท้จริง คือสิ่งที่ Talent มองหามากที่สุดในการ สรรหาคนเก่ง พวกเขามองว่านี่คือการแก้ ปัญหาจ้างคน ในมุมของสมดุลชีวิต
- สวัสดิการ Wellbeing ที่รอบด้าน: สวัสดิการพนักงาน ที่เหนือกว่าประกันสุขภาพปกติ เช่น งบประมาณส่วนบุคคลเพื่อกิจกรรมสุขภาพที่หลากหลาย (ฟิตเนส, โยคะ, ทำสมาธิ, นวดบำบัด) หรือการเข้าถึงบริการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตอย่างสะดวก เป็น Competitive Benefits ที่แสดงถึงความใส่ใจอย่างแท้จริง และช่วยแก้ ปัญหาจ้างคน จากความเครียดสะสม
- งบประมาณเพื่อการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด: สวัสดิการพนักงาน ที่ให้งบประมาณในการไปอบรมคอร์สออนไลน์ ซื้อหนังสือ หรือแม้แต่เข้ามหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาตนเองอย่างอิสระ นี่คือ Competitive Benefits ที่ Talent ผู้รักการเรียนรู้ต้องการเพื่อการเติบโตในการ สรรหาคนเก่ง
- วันลาที่ใจป้ำ และมากกว่ามาตรฐาน: การให้วันลาที่มากกว่ามาตรฐาน เช่น วันลาพักร้อนสูงตั้งแต่เริ่มงาน หรือวันลาไม่จำกัดสำหรับบางตำแหน่ง เป็นกลยุทธ์สำคัญที่แสดงถึงความไว้วางใจในตัวพนักงาน ช่วยให้พวกเขาสมดุลชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันเพื่อดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ (Talent) การปรับใช้วันลาที่ยืดหยุ่นให้เข้ากับวัฒนธรรมและลักษณะงานของแต่ละองค์กร จะช่วยเสริมสร้างความผูกพันและประสิทธิภาพในการทำงานให้พนักงานมีความสุขและทุ่มเทให้กับองค์กรมากยิ่งขึ้น
- สวัสดิการสำหรับครอบครัวยุคใหม่: สวัสดิการพนักงาน ที่ขยายความคุ้มครองไปถึงคู่ชีวิต (ทุกรูปแบบ), พ่อแม่, หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง เป็น Competitive Benefits ที่แสดงให้เห็นถึงความทันสมัยและความครอบคลุมในการดูแลพนักงาน
การมี Competitive Benefits ที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกับ Total Rewards ของคุณ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ไข ปัญหาจ้างคน และทำให้คุณ สรรหาคนเก่ง ได้สำเร็จ
ลงมือแก้ปัญหาจ้างคน: แผนกลยุทธ์ Total Rewards และ Competitive Benefits
นี่คือขั้นตอนที่คุณสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อแก้ ปัญหาจ้างคน และ สรรหาคนเก่ง ได้จริง ด้วยการบริหาร Total Rewards และ Competitive Benefits:
ขั้นตอนที่ 1: วิเคราะห์ปัญหาจ้างคนของคุณให้ถึงแก่น
- ทำความเข้าใจปัญหาของตัวเอง: ถามตัวเองอย่างจริงจังว่า ปัญหาจ้างคน ที่แท้จริงของคุณคืออะไร? อัตราการรับ Offer คุณต่ำเกินไปหรือไม่? Candidate ที่เข้ามาไม่มีคุณภาพ? Talent เก่งๆ ลาออกบ่อยเพราะขาด สวัสดิการพนักงาน ที่ตอบโจทย์?
- รวบรวมข้อมูลภาคสนาม: สัมภาษณ์พนักงานที่ลาออก (Exit Interview) อย่างจริงจัง เพื่อทำความเข้าใจว่าพวกเขาลาออกเพราะเหตุผลใด (เน้นเรื่อง สวัสดิการพนักงาน และ Total Rewards) สำรวจความคิดเห็นของพนักงานปัจจุบันเกี่ยวกับ สวัสดิการพนักงาน และ Total Rewards ที่ได้รับ ว่ามีอะไรที่ขาดหายไป หรืออยากให้ปรับปรุง
- จับตาดูคู่แข่งใน สงครามแย่งคนเก่ง: ศึกษาข้อเสนอ Total Rewards และ Competitive Benefits ของบริษัทที่ สรรหาคนเก่ง ได้ดีกว่าคุณ อะไรคือ สวัสดิการพนักงาน ที่พวกเขาภูมิใจนำเสนอ?
ขั้นตอนที่ 2: กำหนดกลยุทธ์ Total Rewards และ Competitive Benefits ที่ใช่
- นิยาม EVP (Employee Value Proposition) ที่ชัดเจน: คุณต้องการให้ Talent รู้สึก "ว้าว" กับอะไรในองค์กรของคุณ? สวัสดิการพนักงาน ใดที่จะสื่อถึง "คุณค่า" ของการทำงานกับคุณได้ดีที่สุด?
- เลือก Competitive Benefits ที่สร้างความแตกต่าง: จากข้อมูลที่ได้ใน Step 1 อะไรคือ Competitive Benefits หรือ สวัสดิการพนักงาน ที่จะสร้างผลกระทบสูงสุด และทำให้คุณโดดเด่นในการ สรรหาคนเก่ง และแก้ ปัญหาจ้างคน? เน้น สวัสดิการพนักงาน ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและงบประมาณขององค์กร
- วางแผนงบประมาณอย่างมีกลยุทธ์: การลงทุนใน Total Rewards โดยเฉพาะ Competitive Benefits ไม่ใช่แค่ค่าใช้จ่าย แต่คือการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าในการ สรรหาคนเก่ง และลดต้นทุนจาก ปัญหาจ้างคน กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมและสามารถบริหารจัดการได้
ขั้นตอนที่ 3: ออกแบบและนำเสนอ Total Rewards Package ที่ "ใช่" จริงๆ
- สร้างโครงสร้าง Total Rewards ที่สมดุล: จัดสรรทรัพยากรให้ครอบคลุมทั้ง 5 องค์ประกอบของ Total Rewards ให้ดี และเน้น Competitive Benefits ที่คุณเลือกไว้
- รายละเอียด สวัสดิการพนักงาน ที่จับต้องได้: จัดทำเอกสารรายละเอียดของ สวัสดิการพนักงาน แต่ละรายการให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และสื่อถึงคุณค่าที่จะได้รับ
ขั้นตอนที่ 4: สื่อสารคุณค่าของ Total Rewards อย่างมีพลัง
- ภายในองค์กร: พนักงานปัจจุบันต้องเข้าใจ Total Rewards และ สวัสดิการพนักงาน ที่พวกเขาได้รับ เพื่อเพิ่มความผูกพัน และอาจกลายเป็น Brand Ambassador ที่ช่วยในการ สรรหาคนเก่ง
- ภายนอกองค์กร: การสื่อสาร Total Rewards โดยเฉพาะ Competitive Benefits ต้องทำอย่างชัดเจนและน่าสนใจ ในประกาศรับสมัครงาน เว็บไซต์บริษัท หรือระหว่างการสัมภาษณ์ ต้องทำให้ผู้สมัครเห็นคุณค่าที่แท้จริงของการมาร่วมงานกับคุณ ซึ่งจะช่วยลด ปัญหาจ้างคน ได้มาก และทำให้คุณ สรรหาคนเก่ง ได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนที่ 5: ติดตาม ประเมิน และปรับปรุงอย่างไม่หยุดยั้ง
- วัดผลลัพธ์: กำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน (KPIs) เพื่อประเมินประสิทธิภาพของ Total Rewards และ Competitive Benefits (เช่น อัตราการรับ Offer, ระยะเวลาเฉลี่ยในการ สรรหาคนเก่ง, อัตราการลาออกของ Talent, คะแนนความพึงพอใจของพนักงานต่อ สวัสดิการพนักงาน)
- วนลูปแห่งการปรับปรุง: สงครามแย่งคนเก่ง มีพลวัตเสมอ ตลาดแรงงาน ความต้องการของ Talent และเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป คุณต้องหมั่นทบทวนและปรับปรุง Total Rewards และ Competitive Benefits ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ยังคงสามารถแก้ไข ปัญหาจ้างคน และ สรรหาคนเก่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากองค์กรของคุณยังเผชิญกับความท้าทายในการ จ้างคน ท่ามกลาง “สงครามแย่งคนเก่ง” ที่ดุเดือด ถึงเวลาแล้วที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์จากการใช้ “เงิน” เพียงอย่างเดียว มาเป็นการสร้าง Total Rewards ที่ครบวงจร และ Competitive Benefits ที่เหนือกว่าคู่แข่งจริง ๆ
การเข้าใจรากเหง้าของปัญหาจ้างคนและวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของ Talent เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้องค์กรโดดเด่น ด้วยการวางแผนและออกแบบ สวัสดิการพนักงาน อย่างมีกลยุทธ์ พร้อมทั้งเสริมด้วย Employee Engagement Survey ที่ช่วยให้คุณได้รับอินไซต์ที่แท้จริงจากพนักงาน
WorkVenture จะเป็นพันธมิตรที่สำคัญ ช่วยเสริมสร้าง Employer Branding และนำเทคโนโลยีอัจฉริยะมาจับคู่ผู้สมัครที่เหมาะสม พร้อมทั้งส่งต่อคุณค่าที่แท้จริงให้กับ Talent ภายในองค์กร
เปลี่ยนวิธีคิด สร้างความได้เปรียบในการดึงดูดและรักษาบุคลากรคุณภาพไว้กับองค์กรของคุณ ด้วยการลงทุนในคุณค่าจากภายในและการสร้าง Total Rewards ที่ตอบโจทย์อย่างครบถ้วน