ข่าวสารใหม่ๆ | 8 November 2022

รู้จัก “บางจากฯ” มุมมองใหม่ ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านนวัตกรรมและพลังงาน


“บางจากฯ“ หรือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าภาพของบางจากฯ ในความคิดของใครหลาย ๆ คนคงดูเป็นคุณลุงผู้สูงวัยนิด ๆ เป็นคนดี มีความขยัน ซื่อสัตย์ ตั้งใจทำงาน พร้อมที่จะทำอะไรต่าง ๆ ที่ขอให้ทำแล้วชีวิตของทุกคนดีขึ้น แต่เชื่อไหมว่าท่ามกลางกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางจากฯ ได้ฝ่าคลื่นลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมาอย่างมากมาย ทั้งในทางธุรกิจและวิธีคิด ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้วันนี้ บางจากฯ เป็นที่รู้จักในฐานะกลุ่มบริษัทผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านนวัตกรรมและพลังงาน ด้วยการทำงานแบบ Agility สนับสนุนพนักงานที่เก่งและมีศักยภาพนำเทคโนโลยีเข้าไปในระบบเพื่ออำนวยความสะดวกของผู้คน พร้อมกับการทำงานที่ฉับไวทันเหตุการณ์

โดยบางจากฯ ได้ส่งเสริมให้พนักงานนําเอาความรู้ที่ได้จากการฝึกอบรมดิจิทัลเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม RPA, Power BI, และ Power App มาใช้ในงาน ผ่านการจัด Digital Contest ภายในองค์กร เพื่อให้พนักงานได้มีพื้นที่ในการเรียนรู้และทดลองใช้นวัตกรรมจริง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในงานของตนเอง โดยตลอดการแข่งขันจะมีฝ่ายไอทีคอย Coaching อย่างสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ หรือ BiiC ขึ้น เพื่อรองรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมสีเขียวในองค์กรและรองรับแผนระยะยาวสำหรับการลงทุนในสตาร์ทอัพ โดยบางจากฯ นับเป็นบริษัทไทยรายแรก ๆ ที่ส่งพนักงานของ BiiC ไปทำงานที่ Silicon Valley เพื่อร่วมงานกับสตาร์ทอัพต่าง ๆ ทั่วโลกในสหรัฐฯ ทำหน้าที่เสาะหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงของโลกที่เป็นแหล่งกำเนิดหรือต้นน้ำเลย ยิ่งไปกว่านั้นบางจากฯ ยังมีเป้าหมายที่จะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ มีการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพให้ดูทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาของสถานีบริการที่มีความโดดเด่น (Unique Design Station: Innovation) หรืออาคารสำนักงานใหญ่ ที่มีชื่อว่า M Tower ที่ได้รับใบรับรองแห่งอาคารสีเขียวระดับนานาชาติ หรือใบรับรอง LEED (Leadership in Energy and Environmental Design: LEED) ของสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council : USGBC) ในขณะเดียวกันวัฒนธรรมขององค์กรและวิธีการทำงานก็เสริมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ และให้ความสำคัญกับนวัตกรรม ทำให้พนักงานมีส่วนร่วมในการสร้างธุรกิจของบริษัท เช่น วินโนหนี้ แพลตฟอร์มให้บริการเช่ามอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์กร "The Intrapreneur - ปั้นคนในให้เป็นเถ้าแก่" สนับสนุนให้พนักงานนำหลัก design thinking มาใช้ในการคิดออกแบบ และสามารถขยายมาสู่การตั้งบริษัท Start-up ภายใต้กลุ่มบางจากฯ ได้ในที่สุด

ในปัจจุบัน บริษัท บางจากฯ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่

1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery ที่ทันสมัย และปรับเป็น Niche Products Refinery เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ low emission

2) กลุ่มธุรกิจการตลาด มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ Non – oil ผ่านธุรกิจต่าง ๆ เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio และ EV charger เป็นต้น

3) กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผ่านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของ บมจ. บีซีพีจี และรุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่

4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และกำลังขยายธุรกิจสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง

5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และมีสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เป็นผู้ลงทุน Corporate Venture Capital เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศน์สำหรับนวัตกรรมสีเขียว ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพเพื่อโลกที่สวยงาม

การทำงานในบางจากฯ

บางจากฯ มีการทำ Digital Transformation ภายในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรมในช่วง 3-4 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ทั่วโลกจะเผชิญกับสถานการณ์โควิด ทำให้มีการเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าและกลายเป็นว่าโควิดช่วยกระตุ้นให้ Digital Transformation เกิดได้เร็วขึ้น ช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้คนให้หันมาลองใช้งานสิ่งใหม่ ๆ มากขึ้นโดยดิจิทัลเทคโนโลยีเหล่านี้มีประโยชน์ในหลายมุม เช่น การหันมาใช้ e-signature ซึ่งเป็นส่วนช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน ลดการใช้กระดาษ พอเริ่มใช้ในองค์กรกันจนชินก็ขยายไปที่คู่ค้า การพัฒนาบริการ cashless payment ในสถานีบริการด้วยเช่นกันเพื่อลดการสัมผัส การปรับอุณหภูมิอาคารสำนักงานให้สอดคล้องกับสภาพอากาศภายนอกด้วยเซนเซอร์ ช่วยให้การใช้พลังงานต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ด้วย เรียกได้ว่าเทคโนโลยีช่วยประหยัดพลังงานและยังทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

โดยบนเส้นทางของ Digital Organization และ Digital Business Transformation มีเป้าหมายหลักคือ การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงาน จาก Automation ต่อยอดไปสู่ Hyper Automation คือการทำงานระหว่าง Automation ที่เชื่อมโยงกันด้วยเทคโนโลยี Machine Learning และ AI เปรียบเหมือนมีคนช่วยคิดเพิ่มเติม จากเดิมที่แค่นำเทคโนโลยีมาช่วยทำงานแทนคน ในงานที่มีขั้นตอนรูปแบบซ้ำ ๆ ก็สามารถตัดสินใจบางอย่างจากข้อมูลที่รวบรวมไว้ได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นอีก

ซึ่งการทำงานในบางจากฯ จะทำให้ทุกคนรวมถึงเหล่าคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสมากมายที่จะได้ลงมือสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่าเพื่อโลกแล้ว ยังสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเอง พร้อมกับการเปิดรับสกิลใหม่ ๆ ได้อีกด้วย ที่นี่ยังคงต้องการนักวิเคราะห์  นักวิจัย นักเคมี และ อื่น ๆ อีกหลายตำแหน่ง เพื่อเข้ามาร่วมพัฒนาบางจากฯ สู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยั่งยืนกับการทำงานใน Happy Workplace ที่เชื่อว่านี่น่าจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน แล้วคุณแหละ พร้อมที่จะมาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่นี้ไปกับ บางจากฯ  รึยัง?