
ตอบอย่างไรดีกับคำถาม “มีอะไรจะถามไหม?”
เมื่อคุณสมัครงาน สิ่งที่คุณจะต้องเจอก็คือกระบวนการสัมภาษณ์งานเพราะที่ทำงานใหม่ของคุณยังไม่รู้จักคุณดี ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์งานจึงเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน ด้วยความที่รูปแบบการสัมภาษณ์งานก็จะคล้ายๆ กัน เช่นเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัว และจบลงด้วยคำถามปิดบางอย่างเพื่อให้รู้ว่าการสัมภาษณ์สิ้นสุดลงแล้ว
หนึ่งในคำถามที่หลายคนมักเจอก็คือ “มีอะไรจะถามไหม?” สำหรับบางคนแล้ว คำถามนี้เป็นถามที่ยากพอสมควร เพราะก่อนจะมาสัมภาษณ์ก็ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทและตำแหน่งงานมาเป็นอย่างดี จนไม่รู้จะถามอะไรต่อ WorkVenture ได้รวบรวมคำถามที่จะทำให้การสัมภาษณ์คุณเป็นไปด้วยดีและเป็นที่น่าประทับใจของกรรมการ
1. ความท้าทายของตำแหน่งนี้มีอะไรบ้าง
เนื่องจากคนที่สัมภาษณ์คุณอาจจะเป็นหัวหน้างานในตำแหน่งนี้อยู่ พวกเขาจะรู้ว่าในการทำงานตำแหน่งนี้จะต้องเจอกับอะไรบ้างในแต่ละวัน และอะไรคือสิ่งที่ท้าทาย ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับคุณ เพราะคุณจะได้มองเห็นตัวเองในอนาคตว่าคุณกำลังจะต้องเจอกับอะไร แล้วถ้าเป็นคุณ คุณจะรับมือกับความท้าทายนี้อย่างไร
2. โอกาสเติบโตของตำแหน่งนี้เป็นอย่างไร
การทำงานใดก็ตาม คุณต้องมองหาหนทางเติบโตในการทำงานที่ชัดเจน เพราะการเติบโตที่ชัดเจนจะทำให้คุณเองมองเห็นเป้าหมายว่าคุณจะมีอนาคตในอีก 3 ปี หรือ 5 ปี อย่างไร การเลื่อนขั้นที่ชัดเจนจะทำให้คุณมีแรงใจในการทำงานมากขึ้น รวมทั้งยังได้รับบทบาทใหม่ๆ มากขึ้น
3. วัฒนธรรมขององค์กรนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรมากที่สุด
แต่ละองค์กรมีสไตล์การทำงานที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นหากจะต้องเข้าไปทำงานในที่ๆ ใหม่ คำถามลักษณะนี้จะช่วยให้คุณประเมินตัวเองได้ว่าคุณจะทำงานที่นี่ได้ไหม ซึ่งการที่คุณสมัครงานในตำแหน่งหนึ่งๆ คุณย่อมต้องมีคุณสมบัติที่ครบถ้วนจนถูกเรียกสัมภาษณ์ แต่ว่าทักษะอาจจะไม่ใช่ทุกอย่างที่ทำให้คุณทำงานหนึ่งได้นานๆ วัฒนธรรมองค์กรก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาเช่นเดียวกัน
4. ทีมที่กำลังจะเข้าไปทำงานมีกี่คน
คำถามนี้สำคัญมากสำหรับคนที่กำลังจะทำงานในตำแหน่งหัวหน้างาน เพราะคุณอาจจะต้องเข้ามาดูแลคนจำนวนหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันหากคุณสมัครงานในตำแหน่งทั่วไป คำถามนี้ก็ยังแสดงให้เห็นว่าคุณกระตือรือล้นที่จะทำงานเป็นทีม หรือชอบทำงานคนเดียวได้เช่นเดียวกัน
5. วิสัยทัศน์ของ CEO อีก 5 ปี เป็นอย่างไร
ปกติอาจจะได้ยินคำถามทำนองว่า “คุณมองตัวเองในอีก 5 ปีอย่างไร” เป็นคำถามที่ผู้สัมภาษณ์เองต้องการรู้ว่าคุณวางแผนชีวิตการทำงานไว้อย่างไร ซึ่งในทางกลับกันคุณก็สามารถถามคำถามนี้กับผู้สัมภาษณ์ได้เหมือนกัน เพราะคุณเองก็จะได้ประเมินถึงความเติบโตขององค์กรได้เช่นกัน
6. อยากให้ไปเรียนรู้อะไรมาเพิ่ม
การสัมภาษณ์งานคุณควรแสดงความกระตือรือล้นว่าคุณเป็นผู้สมัครที่พร้อมจะทำงานในตำแหน่งนี้จริงๆ คุณอาจจะไม่รู้ว่างานในตำแหน่งนี้มีอะไรเป็นพิเศษที่คุณอาจจะต้องใช้ทุกวัน ซึ่งคุณก็ควรที่จะเตรียมตัวให้ดีก่อนที่จะได้เริ่มงาน
7. จากการสัมภาษณ์ครั้งนี้มีอะไรให้ปรับปรุงไหม
ในการสัมภาษณ์งานทุกครั้ง ผู้สัมภาษณ์งานก็เปลี่ยนไปตามที่ๆ เราไปสัมภาษณ์ ดังนั้นผู้สัมภาษณ์แต่ละคนก็จะมองเห็นสิ่งที่เราควรพัฒนามากขึ้น นอกจากนี้คำถามนี้ยังแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่พร้อมจะรับคำวิจารณ์ได้ด้วย
การสัมภาษณ์ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในการหางาน ซึ่งการสัมภาษณ์งานไม่ได้เป็นช่วงเวลาที่บริษัทจะทำความรู้จักกับผู้สัมภาษณ์เพียงฝ่ายเดียว แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับบริษัทด้วย ซึ่งหากช่วงเวลานี้คุณสัมผัสได้ว่ามุมมองของคุณไม่ตรงตรงกับบริษัท คุณก็อาจจะได้มองหางานใหม่ได้ก่อนที่จะตอบตกลงทำงาน