การเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่งถือว่าเป็นทักษะที่คนรุ่นใหม่ได้ยินและพูดถึงกันมาก แต่ความจริงไม่เพียงแต่คนรุ่นใหม่เท่านั้น คนทำงานในทุกรุ่นก็จำเป็นที่จะต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมออย่างไม่หยุดนิ่ง เพราะว่าโลกทุกวันมีข้อมูลข่าวสารมาแลกเปลี่ยนกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีองค์ความรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ เมื่อวานเราใช้ความรู้อย่างหนึ่งทำงาน วันนี้ก็มีเทคนิคใหม่ ๆ เกิดขึ้นในโลกออนไลน์แล้ว ซึ่งอาจจะเวิร์คกว่าวิธีของเรามาก ถ้าเราไม่ตามให้ทันภายในหนึ่งปี รับรองเลยว่าเราอาจจะตามไม่ทันได้ แต่ตัดกลับมาที่ความเป็นจริงที่ว่าคนทำงานอย่างเรา ๆ ต้องเดินทางไปทำงานทุกวัน แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียนรู้ได้ตลอดเวลาจริงไหม 

ดังนั้นคงจะดีไม่น้อยเลย ถ้าเราได้ทำงานในองค์กรที่มีเป้าหมายในการช่วยพนักงานให้ได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ อยู่เสมอ อย่างที่ WorkVenture รู้มาก็ต้องนี่ สหพัฒน์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นองค์กรใหญ่ของประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 80 ปี มีผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมีติดเอาไว้ และที่สำคัญสหพัฒน์เพิ่งได้รับรางวัล Top 50 Employers in Thailand 2023  ไปปีล่าสุด การันตีความเป็นนายจ้างที่ดีในมุมมองของคนทำงานรุ่นใหม่ ซึ่ง สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรไทยก็เปิดพื้นที่ให้กับคนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็นและสามารถเติบโตได้เช่นเดียวกัน ที่นี่มีความมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ให้กับพนักงานผ่านการสร้างคอร์สเรียนที่มีมาตรฐาน มีการเชิญอาจารย์มาสอนอย่างเข้มข้น และมีการสอบวัดความรู้เพื่อแสดงความรู้ ความสามารถหลังจากการเรียนด้วยซึ่งพนักงานบอกว่าประทับใจมาก ๆ จะเป็นยังไงไปดูกันเลย

สหพัฒน์ ชื่อนี้เก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ
บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักกันในชื่อสหพัฒน์ เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าหลายหลากประเภท ที่ทุกคนรู้จักกันดีและต้องมีติดบ้านก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารอย่างมาม่า น้ำแร่มองต์เฟลอ ผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนอย่างผงซักฟอก น้ำยาล้างจานรวมไปถึงของใช้หลายอย่างอีกมากมาย ที่นี่มีจุดเด่นคือนอกจากจะเป็นผู้ผลิตเองแล้ว ยังเป็นผู้จัดจำหน่ายครบวงจรเลย ทำให้พนักงานมีโอกาสในการเรียนการทำงานได้หลากหลายขั้นตอน ที่สำคัญ สหพัฒน์ เน้นการทำงานอย่างมีคุณธรรม หมายถึงพนักงานจะต้องทำงานโดยยึดหลักการที่ถูกต้อง เพราะจะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน และสหพัฒน์ก็เน้นเรื่องการเรียนรู้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สหพัฒน์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะพนักงานที่เก่งและดีจะยิ่งช่วยให้บริษัทเติบโตได้อย่างน่าภูมิใจ ที่นี่จึงสนับสนุนเรื่องของการเรียนรู้อย่างตลอดชีวิต เพื่อให้พนักงานหลังวัยเรียนอย่างเรา ๆ ได้กลับไปมีโอกาสในการเรียนกับอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่ง ได้เข้าไปเรียนรู้อย่างเข้มข้นจากผู้รู้จริง และลงมือปฏิบัติอย่างสนุกสนาน

หลักสูตรการเรียนรู้ด้านการตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
สหพัฒน์ กำหนดทิศทางการเรียนรู้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากหลักสูตรการตลาด เพราะการตลาดทุกวันนี้ปรับมาสู่รูปแบบออนไลน์อย่างลึกซึ้ง องค์กรต่าง ๆ จึงต้องการที่จะก้าวตามให้ทันโลก และที่สหพัฒน์เช่นกัน แม้ว่าผลิตภัณฑ์ของที่นี่จะมีความแข็งแกร่ง ติดตลาด แต่เรื่องของการตลาดก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะยังมีผลิตภัณฑ์อีกมากมายที่จะต้องพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยเหมาะกับโลกปัจจุบันก็สำคัญ ยิ่งโลกทุกวันนี้เป็นโลกของเทคโนโลยี ความรู้ด้านการตลาดก็ปรับเปลี่ยนมาในรูปแบบของการทำออนไลน์มากขึ้น เราอาจจะรู้สึกว่าเราสามารถทำการตลาดในรูปแบบเดิมได้ แต่ในความจริงนั้น ถ้ามีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในโลกออนไลน์เกิดขึ้นมา และดังเป็นพลุแตก ก็อาจจะชนะสินค้าของเราได้ นอกจากนี้การสร้างปากต่อปากในโลกออนไลน์ก็จะทำให้สินค้าของเรามียอดขายมากขึ้น ความรู้ด้านการตลาดจึงมีความสำคัญมาก

สหพัฒน์ จึงได้เริ่มการจัดอบรม Marketing Development Program ขึ้น เพื่อเพิ่มประสบการณ์การในเรียนรู้ให้กับพนักงาน โดยได้ร่วมมือกับอาจารย์จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยจะเป็นการอบรมทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง แต่เป็น 30 ชั่วโมงที่อัดแน่น เพราะวิทยากรที่เชิญมาแต่ละท่านล้วนแล้วแต่เป็นผู้รู้จริงในทฤษฎีเหล่านั้น พนักงานสามารถสอบถามข้อสงสัยและจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน การเรียนเป็นแบบ Personalized learning คือพนักงานสามารถกำหนดเป้าหมายและความสนใจของตัวเองได้ จัดสรรเวลาไม่ให้กระทบกับงานของตัวเองแล้วมาเรียนได้เลย เริ่มทำเป็นปีแรก แต่ผลตอบรับดีเกินคาด

หลักสูตรนี้จะเป็นการปูพื้นฐานเกี่ยวกับการตลาดให้พนักงานทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เริ่มตั้งแต่ความสำคัญของแบรนด์กันเลยทีเดียว แล้วจะค่อย ๆ ไต่ระดับไปถึงเรื่องการวางตำแหน่งและภาพลักษณ์ของแบรนด์ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับกลุ่มลูกค้า และจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการของเครื่องมือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับช่องทางการตลาดที่หลากหลาย กลุ่มผู้ใช้ที่แตกต่างกัน และการควบคุมช่องทางการตลาด เรื่องพวกนี้ หากเราได้เรียนรู้อย่างถูกวิธีก็จะทำให้เรามีทักษะในการแก้ปัญหาวิธีการคิดที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของการสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่านการใช้เครื่องมือต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงผู้ที่เรียนจะได้ทำโมเดลการตลาดและ Insight ทางการตลาดต่าง ๆ จากกูรูที่รู้จริง เมื่อเรียนจบแล้วพนักงานสามารถนำไปปรับให้เข้ากับผลิตภัณฑ์ในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ได้เลย พนักงานที่นี่ยังบอกว่าการได้รับความรู้โดยตรงจากนักวิชาการที่มีงานวิจัยทำให้เห็นแนวทางในการพัฒนาการตลาดให้กับสินค้าได้มากขึ้น

ลืมบอกไปว่าโครงการนี้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนเข้ามาร่วมเรียนรู้กันได้ ขอเพียงมีใจรักที่จะเรียนรู้ ไม่จำเป็นต้องทำงานในสายการตลาดก็ได้ เพราะสหพัฒน์ตั้งใจจะเป็นพื้นสำหรับการเรียนรู้อย่างแท้จริงให้กับพนักงานทุกคน

นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสหพัฒน์ที่ต้องการสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้เพื่อให้องค์กรมีพนักงานที่เก่งคู่กับการเป็นคนที่มีคุณธรรม การสร้างหลักสูตรการเรียนมาตรฐานและเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถเรียนในขณะที่ทำงานปกติได้นั้น ทำให้พนักงานยังมีเวลาไปพักผ่อนหลังเลิกงานได้ตามปกติ และยังสามารถนำความรู้มาใช้กับงานได้โดยตรง ทำให้งานเสร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเรียนแบบออนไซต์ยังช่วยให้พนักงานเรียนรู้ได้อย่างตื่นตัว เป็นอย่างไรกันบ้างกับความใส่ใจที่ สหพัฒน์ มีให้กับพนักงาน ถ้าอยากเป็นคนที่เก่งขึ้น ๆ ในองค์กรที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากก็ต้องที่สหพัฒน์ สมัครเลยที่นี่