1. ทักษะการสื่อสารที่ดี

“เก่ง แต่สื่อสารไม่เป็น” คุณลองคิดสิว่าจะแย่แค่ไหน หากคุณเป็นคนมีความสามารถ แต่ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะแสดงไอเดีย และอธิบายให้คนอื่นๆเข้าใจได้ เพราะมันเท่ากับว่า ไอเดียของคุณเหล่านั้น ไม่ได้ถูกถ่ายทอดและนำไปใช้จริง ในเรื่องของการสื่อสารสามารถพัฒนากันได้ คุณอาจเริ่มจากการฝึกพูดหน้ากระจก ถัดมาก็ลองอัดคลิปวิดีโอเพื่อเอามาดูว่าเวลาพูดคุณมีท่าทาง น้ำเสียง และการใช้คำอย่างไร ส่งสารได้ครบถ้วนมั้ย จากนั้นจึงลองพูดเล่าเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนคุณฟังแล้ววิเคราะห์ว่าคุณควรปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้าง คราวหน้าถ้าคุณไปสัมภาษณ์งานอีกครั้ง ลองบอก HR ไปสิว่าคุณชอบพูดคุยกับผู้คน และมีทักษะการสื่อสารดีขนาดไหน

2. ทักษะด้านภาษา

เห็นได้ชัดว่าทักษะภาษาได้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญอันดับต้นๆในการทำงาน ทั้งนี้ก็เพราะหลายบริษัทจำเป็นต้องใช้ในการประสานงาน การพูดได้สองภาษาหรือหลายภาษาช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ หรือช่วยให้คุณหางานในระดับสากลได้ดีขึ้นและยังช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ๆ

การเข้าใจได้หลายภาษามากขึ้นจะช่วยให้คุณเข้าใจตลาดโลกได้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเข้าใจความต้องการของลูกค้า ผู้จัดหาสินค้าและบริการ และคู่ค้าจากนานาชาติด้วย การที่คุณสามารถพูดคุยได้โดยตรงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดซึ่งอาจเป็นบทเรียนราคาแพง ช่วยปรับปรุงความถูกต้องแม่นยำ และประหยัดค่าแปลภาษาด้วย

3. ทักษะการทำงานใต้ความกดดัน

ว่ากันว่าหนุ่มสาว Gen Y - Z ความอดทนต่ำ แต่ก็พิสูจน์มานักต่อนักแล้วว่าไม่ว่าจะ Gen Y หรือจะ baby boomers ถ้าจะความอดทนต่ำ หรือทำงานภายใต้ความกดดันไม่ได้ ก็ไม่ได้ขึ้นกับ Generation แต่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลซะมากกว่า เหล่า HR หลายบริษัทเลยไม่ได้มีอคติเรื่องนี้กับคนรุ่นใหม่แต่ถึงคุณจะไม่ได้ถูกมองลบตั้งแต่แรก แต่ก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะยังไงซะ ทักษะนี้ก็เป็นสิ่งที่คุณควรจะมีอยู่ดี คุณต้องตั้งสติให้ดีว่า การทำงานทุกอย่างล้วนมีความยากง่ายสลับกันไป และต้องมีความคาดหวังจากคนรอบข้างอยู่แล้ว ดังนั้นทำมันให้ดีที่สุด และยืดหยุ่นพอที่จะปรับปรุงแก้ไข มันให้ดีขึ้น และทุกครั้งที่คุณไปสัมภาษณ์งานอย่าลืมบอก HR ไปหลายๆครั้งว่าคุณเป็นคนที่มีทักษะด้านความอดทนเป็นเลิศด้วย

4. ทักษะด้านความรับผิดชอบ

เรื่องความรับผิดชอบ นี่มันช่างไม่เข้าใคร ออกใครจริงๆ เพราะเป็นทักษะที่ทุกคนควรจะมี เพื่อดำเนินงานใดๆก็ตามให้เสร็จสิ้น ดังนั้นเราคงไม่ต้องบอกอะไรคุณมาก เพราะถ้าคุณไม่มีความรับผิดชอบ คุณก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่ยังเป็นชีวิตส่วนตัวของคุณด้วย ดังนั้นทักษะนี้คือสิ่งที่คุณต้องไปฝึกต่อด้วยตัวของคุณเอง

5. ทักษะด้านทีมเวิร์ค

ถ้าคุณยังจำสมัยมัธยมต้นได้ คุณจะจำได้ว่ามีเพื่อนเด็กแว่นคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่หน้าห้องติดกระดาน และเอาแต่จดเนื้อหาตามที่ครูสอน ดูตั้งใจเรียนกว่าเพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ แต่จะว่าไป คุณไม่ค่อยเห็นว่าเขาจะสุงสิงกับใครสักเท่าไหร่ แถมยังชอบทำงานคนเดียว และมองว่างานกลุ่มคือภาระอีก พอวันนึงคุณก็ได้พบว่า แม้งานกลุ่ม(ที่เขาทำคนเดียว)จะได้คะแนนเยอะขนาดไหน แต่เขาก็สูญเสียพลังงานและเพื่อนร่วมสร้างไอเดียสร้างสรรค์ไปหลายคน แค่คิดคุณก็เบ้ปาก มองบนใส่เขาแล้ว เรื่องนี้เลยให้ข้อคิดกลายๆกับคุณว่า การเป็นคนเก่งนั้นดี แต่การเป็นคนเก่งที่มีทีมเวิร์ค ทำงานร่วมกับคนอื่นได้ นั้นดีกว่าเยอะ (อย่างน้อยก็ทุ่นแรงไปหลายเท่า)

6. ทักษะการเรียนรู้เร็ว

แม้ว่าทักษะการเรียนรู้เร็ว จะเป็นพรสวรรค์มากกว่าการฝึกฝน แต่คุณก็สามารถสร้างทักษะนี้ขึ้นมาได้ด้วยตัวคุณเอง โดยอาจเริ่มต้นด้วยการหมั่นนั่งสมาธิบ่อยๆ เพราะการมีสมาธิจะทำให้คุณสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้ดี และส่งผลให้คุณเรียนรู้เร็วอีกด้วย

7.ทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

ข้อนี้อาจยากสักหน่อย เพราะจะขึ้นอยู่กับไหวพริบของแต่ละคน แต่ทั้งนี้คุณอาจหมั่นจำลองสิ่งต่างๆ ในชีวิต ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น คุณจะแก้ไขอย่างไร แล้วฝึกวิเคราะห์ปัญหาอยู่บ่อยครั้ง หรือวิธีที่ง่ายที่สุด ที่ WorkVenture อยากจะแนะนำคุณ นั่นก็คือการออกไปผจญภัย ไปเที่ยวยังที่ต่างๆ เพราะจะทำให้คุณเห็นโลกกว้างขึ้น และได้เรียนรู้ความหลากหลายของคนด้วย แน่นอนว่ามันช่วยได้ดีเวลาที่คุณต้องพบเจอปัญหาในชีวิตจริง

8. ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์

การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณเป็นคนกว้างขวาง และโอกาสต่างๆที่คุณจะได้พบเจอก็ล้วนมาจากการทำความรู้จักกับคนอื่นทั้งนั้น อย่าโลกสวยไปเลย เพราะคุณก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้งว่า คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี ไปได้ไกลกว่าคนที่จำกัดตัวเองอยู่กับสังคมเดียว

9. ทักษะด้านความกระตือรือร้น

ความกระตือรือร้นคือทักษะที่สามารถสร้างกันได้ โดยเริ่มจากการมี “แรงบันดาลใจ” ซึ่งการจะมีแรงบันดาลใจได้นั้น คุณต้องมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน ดังนั้นคุณต้องหาแล้วล่ะ ว่าเป้าหมายในชีวิตของคุณคืออะไร จากนั้นก็สร้างแรงบันดาลใจ และหาแรงบันดาลใจต่างๆ มากระตุ้นให้คุณกระตือรือร้นต่อการทำงาน อย่าปล่อยให้ตัวคุณเองหมดไฟในการทำงานง่ายๆ

10. ทักษะ Multitasking

แม้ผู้คนจะพูดกันอยู่บ่อยครั้งว่าการมุ่งมั่น และทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งแบบจริงจังเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่มันคงจะดีกว่าหากคุณสามารถทำหลายๆสิ่งให้ดีไปพร้อมกันด้วย เพราะจะทำให้คุณดูเป็นคนที่มีความสามารถหลายอย่าง หรืออย่างน้อยที่สุดคุณก็จะเป็นคนที่มีประสบการณ์หลายด้าน (เอาไปเป็นพอร์ตหรือพูดอวดใครต่อใคร ว่าคุณเคยทำอันนู้นอันนี้มา ก็ดูดีไม่น้อย)

11. ทักษะการมีใจรักงาน

เป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทต่างๆ คาดหวังว่าคุณจะรักงาน(พอๆกับที่รักบริษัทของเขา) เพราะพวกเขารู้กันดีว่า คนที่รักในเนื้องาน ย่อมทำมันได้ดีกว่าคนที่ทำส่งๆ ไปโดยที่ไม่ได้รักในการทำงานนั้นๆ ดังนั้นจำให้ดีว่าทุกครั้งที่คุณไปสัมภาษณ์งานลองพูดว่าคุณรักงานในตำแหน่งนั้นมากขนาดไหน อย่างน้อย HR จะสนใจคุณไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากทักษะทั้ง 11 ทักษะนี้จะช่วยให้คุณได้พัฒนาตัวเองให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานแล้ว ทักษะเหล่านี้คุณยังสามารถนำไปใช้ได้เนียนๆเวลาสัมภาษณ์งานด้วย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางวาจา หรือการพูดถึงวิสัยทัศน์และอุปนิสัยส่วนตัวของคุณ เพราะแน่นอนว่าทุกบริษัทย่อมอยากได้พนักงานที่มีทักษะทั้ง 11 ทักษะเหล่านี้กันทั้งนั้น