Resume ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะปัจจุบันการแข่งขันสูงมาก มีแต่คนที่เหมาะสมกว่าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ถูกเลือก แล้วจะทำยังไงให้ Resume เพอเฟ็กต์ นั่นมันก็ไม่ใช่ว่าจะง่าย การจะเป็นคนที่ HR ของบริษัทในฝันหมายปองได้นั้น ต้องมีอะไรที่ Charming กว่าคนอื่นที่คุณมั่นใจว่านี่แหละเป็นข้อได้เปรียบที่อยากจะดึงออกมาให้คนที่อ่าน Resume ของคุณนั้นสะดุดตาจนต้องเก็บคุณเป็นตัวเลือกในใจของเขา

 

ถึงแม้ว่าการเขียนจะแตกต่างกันออกไปด้วยประสบการณ์ที่แตกต่างของแต่ละคน แต่คุณมีสิ่งที่เลี่ยงได้ และไม่ควรปล่อยปะละเลยช่องโหว่นั้น นั่นก็คือข้อมูลที่ไม่ควรเขียน ถ้าคุณยังไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ หล่ะก็ อย่าใส่อะไรพวกนี้ลงไปใน resume เด็ดขาด! เช็คให้ดีก่อนสมัครงาน ยิ้มเข้าไว้.. เพราะวันนี้ WorkVenture จะมาแนะนำการทำ Resume ดีๆ ด้วยการลบสิ่งกีดขวาง หรือนังมารร้าย เหล่านี้ออกจาก Resume คุณ!!

 

วัตถุประสงค์ของการสมัครงาน

หลายคนชอบใส่วัตถุประสงค์ว่าทำไมถึงเขียน Resume นี้มา แต่ แต่ แต่..  อย่าลืมสิ วัตถุประสงค์ที่คุณเขียน Resume นี้ขึ้นมา คือคุณอยากได้งาน!! ดังนั้นไม่ต้องบรรยาย ใครๆ เค้าก็รู้ว่าคุณเขียน Resume มาเพราะหางาน เปลืองเนื้อที่ใน Resume เปล่าๆ 

 

ประสบการณ์การทำงานที่ไม่เกี่ยวข้อง

คุณอาจจะเคยเป็นนางแบบบนปกนิตยสารชื่อดัง แต่ตอนนี้คุณผันตัวเองมาสมัครงานการตลาด คุณไม่จำเป็นต้องใส่อาชีพนางแบบที่คุณทำมาใน Resume หรอก เพราะมันไม่เกี่ยวข้องกับงานนี้ และยังทำให้ดูขาดความเป็นมืออาชีพในการทำ Resume ด้วย แต่ถ้าคุณไม่มีประสบการณ์การทำงานที่เกี่ยวข้องกับสายงานที่กำลังสมัครอยู่ ก็ลองดูเคล็ดลับให้ได้งานแม้มีประสบการณ์ไม่ตรง นี่อาจจะช่วยให้ Resume ของคุณน่าสนใจมากขึ้นนะ

 

ข้อมูลส่วนตัวที่มากเกินไป

ข้อมูลส่วนตัวทั้งหลาย ไม่ว่าคุณจะหย่าร้างมากี่ครั้ง นับถือกี่ศาสนา หรือว่าคุณชอบกินบุฟเฟ่ จนน้ำหนักขึ้นเท่าไหน ตัดมันออกไปจาก Resume คุณได้เลย ไม่มี HR คนไหน สะดุดใจกับเรื่องแบบนี้แล้วเชิญคุณเข้าทำงานหรอก เก็บเนื้อที่บน Resume ของคุณ ไว้ใส่ประสบการณ์การทำงานดีกว่า

 

 

บ้านเลขที่พร้อมรหัสไปรษณีย์

นี่มันยุคไหนกันแล้วคะ นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ก็มาแล้ว ใครๆ ก็มีอีเมลล์กันแล้ว ดังนั้นลดเนื้อที่ 2 บรรทัดใน Resume ของคุณลง ด้วยการเอาที่อยู่ออกจาก Resume เถอะค่ะ เพราะถ้า HR เขาอยากรู้ว่าคุณเดินทางไปทำงานอย่างไรก็คงถามตอนสัมภาษณ์ไม่มีใครนั่งหาบ้านเลขที่แล้ว

 

หมายเลขโทรศัพท์มากกว่าหนึ่งเบอร์

คุณเคยรู้สึกรำคาญเพื่อนที่มีหลายๆ เบอร์ และคุณก็งงทุกครั้งว่าจะโทรเบอร์ไหนมั้ย นั่นแหละ เหมือนกัน HR ก็คงรู้สึกแบบนั้น ดังนั้นใส่แค่เบอร์เดียวก็พอ นอกจากจะช่วยให้คนรอบข้างไม่รำคาญแล้วยังช่วยให้คุณดูน่าไว้ใจเพราะถ้ามีเบอร์เดียวติดต่อได้ก็คือจบไม่ต้องมานั่งหาหลายเบอร์ 

 

งานอดิเรกที่ดูไม่เกี่ยวข้องกับงาน

ไม่มี HR คนไหนอยากรู้อยากเห็นหรอกว่า งานอดิเรกของคุณคืออะไร คุณชอบทีมฟุตบอลอะไร กระทั่งชอบทำอะไรตอนว่าง ดังนั้นไม่ต้องกรอกมันลงใน Resume หรอกค่ะ แต่หากคุณคิดว่างานอดิเรกของคุณ มันสามารถทำให้ HR รู้สึกว่าคุณน่าสนใจ เช่น คุณสมัครงานตำแหน่งนักเขียน และงานอดิเรกของคุณคือการเขียนบล็อกส่วนตัว คุณอาจเขียนงานอดิเรกของคุณลงใน จดหมายนำ หรือ Cover letter แทน Resume ก็ได้

 

ลบคำพูดที่ดูเว่อร์จน HR จับได้

จากผลสำรวจได้แสดงให้เห็นว่า HR กว่า 42% รู้ว่า ผู้สมัครมักจะโม้เกินจริงใน Resume  ดังนั้นเวลาจะโม้ กรุณาโม้ให้เนียน ไม่ใช่เพิ่งเรียนจบมา แต่ประสบการณ์การทำงานยาวเหยียด แหม!! มันช่างขัดกับความเป็นจริง เป็นเรื่องน่าอับอายใน Resume ไปสะงั้น! ดังนั้นก่อนจะเขียนอะไรต้องนึกถึงความเป็นจริงว่าคนอ่านเขาคาดหวังจะเห็นพัฒนาการจากสิ่งที่คุณโม้ไว้ ถ้าโม้แล้วไม่ได้มี Skill นั้นจริง ก็อย่าเขียนลงไปเด็ดขาด

 

คำอธิบายประสบการณ์ที่เยิ่นเย้อ

ตัวหนังสือเบียดเสียดเยอะเกินไป สร้างความหมองใจและสายตาให้กับ HR ได้ ดังนั้นลดข้อมูลที่ไม่จำเป็นใน Resume ออกสักนิด แค่นี้ก็ทำให้ Resume ของคุณน่าอ่านมากขึ้นแล้ว

 

ประสบการณ์ทำงานแบบละเอียดเป็นข้อย่อยๆ

อย่ามีหลาย bullets เกินไป การมี bullets หลายๆ อัน มันรกตา คุณควรจะสรุปออกมาสั้นๆ แทน จะทำให้ Resume ของคุณดูดีขึ้นเยอะ

 

ระยะเวลาระหว่างเปลี่ยนงานที่นานเกินไป

ไม่ควรให้ Resume ของคุณ มีช่องว่างชวนฉงนว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทำไมคุณไม่มีงานทำ ? เพราะ HR จะเผลอคิดว่า นี่คุณไม่ผ่านโปร ถูกไล่ออก หรืออะไร ทำไมคุณเว้นว่างได้ขนาดนั้น ดังนั้นช่วงที่คุณเบื่อโลกการทำงาน อยากพักสัก 1 ปี คุณอาจจะใช้เวลาว่างๆ นี้ ไปทำงานอาสา และกิจกรรมเพื่อสังคมบางอย่าง อย่างน้อยก็ทำให้ Resume คุณดูดีขึ้นมากว่าการอยู่เฉยๆ หรือหากคุณอยากลาพักยาวๆจากงาน ลองสร้างโอกาสให้ตัวเองด้วยการออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เผื่อคุณจะเกิดไอเดียเพิ่มขึ้นด้วย

 

“เอกสารอ้างอิงสามารถขอได้ตลอดเวลา”

ใส่มาทำไม ? ในเมื่อคุณควรรู้อยู่แล้วว่าคุณควรเตรียมเอกสารอะไรให้พร้อมตั้งแต่สมัครงานแล้ว ไม่ใช่รอให้ HR มาเรียก ลบออกจาก Resume คุณเถอะ!

 

จัดรูปหน้า Resume ไม่คงที่

คุณควรทำให้ Resume ของคุณมีรูปแบบเดียวกันทั้งหมด เช่น ใช้ฟ้อนต์ตัวอักษรเดียวกัน ระดับคำ และลักษณะการพรีเซ้นเหมือนกันอย่างสม่ำเสมอ

 

การใช้ภาษาที่ผิดหลักไวยากรณ์

การสะกดคำ การใช้คำเชื่อม ประโยครูปแบบต่างๆ ฯลฯ คุณควรจะแม่นยำเรื่องพวกนี้ให้หมด การใช้ภาษาถูกหลักไวยกรณ์ ไม่ว่า Resume ของคุณจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ก็ทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพได้เสมอ

 

เปลี่ยนชื่อ e-mail ที่ดูแอ๊บแบ๊วหรือสุดซ่าส์ซะ

ว่ากันว่า ชื่ออีเมลล์คือความผิดพลาดของอดีตมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น [email protected] หรือ [email protected] ดังนั้นพึงระวังให้ดี คุณควรตั้งชื่ออีเมลล์ที่ดูดี โดยอาจเป็นชื่อนามสกุลของคุณก็ได้ แค่นี้ก็เอาใส่ใน Resume ของคุณได้แบบไม่เคอะเขินแล้ว

 

คำที่เป็นภาษาพูด

ภาษาพูด ศัพท์วัยรุ่นต่างๆ ลืมไปได้เลย! ภาษาที่คุณควรใช้ใน Resume คือภาษาทางการเท่านั้น​ และควรเขียนให้ชัดเจน กระชับ

 

ชื่อเจ้านายคนเก่า

ใส่ไปทำกันนะ ? เทิดทูนเจ้านายของคุณหรอ ? แนะนำว่าอย่าใส่ใน Resume เลย ตัดออกๆ เริ่มใหม่ๆ

 

ลิงค์ Social Media ของคุณ

นี่แหละ ภัยอันตราย!! ถ้าทาง HR ไม่ได้ขอ ก็อย่าใส่ใน Resume เลย เพราะบางครั้งคุณสาดสีสาดโคลนลง Facebook  พอเวลาผ่านมา คุณก็ลืมไปว่าเคยโพสต์อะไรไว้ และแน่นอนว่าบางโพสต์ก็เป็นสาธารณะด้วยสิ ดังนั้นพึงระวังให้ดี นอกเสียจาก Facebook ของคุณนั้นสะอาดหมดจด เต็มไปด้วยทัศนคติดีๆ อันนั้นใส่ลง Resume ได้ค่ะ ไม่ว่ากัน

 

ประสบการณ์ย้อนหลังเกิน 15 ปี

คุณไม่ควรใส่ประสบการณ์ต่างๆ เกิน 15 ปีย้อนหลัง เช่น ตอนนี้คุณอายุ 40 ปี นับถอยหลังไป 15 ปี แล้วใส่ประสบการณ์แค่นั้นพอ ไม่ต้องลากยาวหรอกว่าตอนมัธยม หรือมหาวิทยาลัยคุณทำอะไรมาบ้าง จำไว้นะคะ ยาวไป ไม่อ่าน… เรื่องจริงของ Resume ค่ะ

 

รายละเอียดเงินเดือนเก่าที่เคยได้

ทำไมหน่ะหรอ ? เดี๋ยวจะต่อรองไม่ได้ไงหล่ะ ดังนั้นไม่ต้องใส่รายละเอียดเงินเดือนเก่าคุณลงใน Resume เลย เพราะไม่มีใครอยากรู้เรื่องเงินเดือนที่เก่า ถ้าคุณจะใส่เพื่อให้ที่ทำงานใหม่รู้สึกว่าที่เดิมคุณได้เยอะแล้ว ที่ใหม่ต้องจ่ายมากกว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด ถ้างานดีเงินดีคุณจะลาออกทำไม นั่นคือสิ่งที่น่าคิดมากกว่า

 

อย่าโชว์ความไร้รสนิยมของคุณด้วยการใช้ฟ้อนต์ล้าสมัย

ฟ้อนต์ที่ใช้ควรทันสมัย สวยงาม เป็นระเบียบ ดูดี ไม่แฟนซีเกินไปค่ะ WorkVenture แนะนำว่า ใช้ฟ้อนต์ตระกูล Sans Serif ที่ดูน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ ไม่หวือหวาแต่ไม่จมแน่นอน แถมยังเป็นฟ้อนต์ที่สามารถใช้ได้ในหลายงานอีกด้วย​

 

เหตุผลที่ลาออกจากบริษัทก่อน

ไม่ต้องไปบอกเค้าใน Resume หรอก ว่าคุณหน่ะ ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงานมา หรือมีปัญหากับเจ้านาย ชู่ววว.. เก็บเงียบเอาไว้ดีกว่า

 

GPA

ไม่ว่าจะได้เกียรตินิยม หรือผลการเรียนดีเด่นขนาดไหน ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์การทำงานมาแล้วหลายปี ไม่ต้องใส่เกรดเฉลี่ยลงใน Resume ของคุณหรอก ใครแคร์หล่ะ เค้าแคร์กันแค่ว่าคุณทำงานเป็นแค่ไหนต่างหาก
 

รูปเซลฟี่ของคุณ

Resume ที่ดี ไม่ควรแปะรูป เพราะคุณไม่ได้สมัครแคสติ้งภาพยนตร์ หรือพริตตี้อะไรแนวนี้ ดังนั้นโชว์สกิลและประสบการณ์การทำงานของคุณดีกว่า ถึงแม้ว่าคุณจะสวยหรือหล่อขนาดไหนก็ตาม เก็บหน้าตาของคุณไว้ภูมิใจที่อื่นดีกว่า

 

งานที่ทำน้อยกว่า 3 เดือน

Resume ของคุณ กระซิบมาว่า ไม่อยากให้คุณใส่ว่า คุณทำงานมาน้อยกว่า 3 เดือน ดังนั้นถ้าไม่ถึง 1 ปี คุณควรหักห้ามใจในการใส่ตำแหน่งงานนั้นๆ ลงใน Resume ดีกว่า เพราะมันทำให้คุณดูเป็นคนไม่สู้งาน นอกจากคุณมีเหตุผลที่ดีพอ 

 

แต่คุณควรใช้ตัวเลขระบุความสำเร็จ

อย่ากล่าวลอยๆ ว่าคุณทำงานอะไรสำเร็จไปบ้าง แต่ใน Resume ของคุณควรระบุตัวเลขแบบชี้ชัดไปเลย เช่น คุณทำให้ยอดขายบริษัทมากขึ้นกว่าเดิม 15% เมื่อคุณทำงาน เป็นต้น

เป็นไงคะ ไม่ยาก ไม่วุ่นวายเลยสำหรับเคล็ดลับการทำให้ Resume ของคุณดูดี แค่เฉดหัวเจ้าสิ่งพวกนี้ออกไป Resume ของคุณก็จะดูดี ไฮโซขึ้นเป็นกอง ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ

และหากเตรียม Resume เสร็จแล้วลองอ่านคำถามที่ HR ชอบถามคุณ แล้วไปเตรียมตัวกันล่วงหน้าตามนี้เลย

---