ขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบ

กำหนดทิศทางและควบคุมการร่างแบบของโครงการอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ของบริษัท พร้อมเตรียมแผนการรับมือเบื้องต้นกับปัญหาด้านอาคาร และสามารถพัฒนาปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแบบให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบ ศึกษาแผนแม่บทและความรู้ทางกฎหมายด้านอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง  เพื่อให้การดูแลรักษาสภาพแต่ละโครงการนั้นมีความพร้อมสามารถส่งมอบคุณค่าของแบรนด์แก่ลูกค้าได้ตลอดเวลา และมีประสิทธิภาพสูงสุด

ลักษณะงานของตำแหน่ง Property Project Management Specialist ในด้านต่าง ๆ

ด้านการบริหารและวางแผนโครงการพัฒนา

1. จัดทำแผนงานโครงการ (Project Plan) รวมถึงงบประมาณและทรัพยากรที่ต้องใช้

2. พัฒนาแบบร่าง project brief และ concept design สำหรับโครงการใหม่หรือปรับปรุงโครงการเดิมให้ดีขึ้นและเหมาะสม

3. ควบคุมให้โครงการสอดคล้องกับเป้าหมายบริษัท สอดคล้องกับแบรนด์ และกลุ่มเป้าหมาย

4. จัดทำและดูแลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการ เช่น แผนงาน ตารางเวลา รายงานสถานะ กรอบเวลา งบประมาณ ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

5. ตรวจหน้างานเพื่อติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบให้ตรงกับแบบและ specifications

6. กำหนดมาตรฐานและมาตรการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเพื่อความปลอดภัย ใช้งานสะดวก และจัดทำพัฒนาแผนการบำรุงรักษาระยะยาว สื่อสารภายในให้รับทราบและดูแลโครงการปรับปรุงตามความจำเป็น

ด้านการติดตามความคืบหน้าและบริหารความเสี่ยงของโครงการ

1. ควบคุมและติดตามให้โครงการเป็นไปตามแผนที่กำหนด

2. สามารถบริหารจัดการความเสี่ยง และวางแผนแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ได้

3. ติดตามและรายงานความคืบหน้าของโครงการให้ผู้บริหารและผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบเป็นระยะ ๆ

4. วางแผนจัดการความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

5. ระบุและประเมินความเสี่ยงของโครงการ

6. ศึกษาและวิเคราะห์ศักยภาพของอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่บริษัทบริหารอยู่ และเสนอแผนปรับปรุง

ด้านการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการก่อสร้าง

1. วิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับปัญหา สาเหตุ แนวทางการแก้ไขการปรับปรุง รวมทั้งวางแผนการซ่อมบำรุงโครงการอย่างเป็นระบบ โดยกำหนดแนวทางการดำเนินงานของทีม Property Mangement 

2. ประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องภายใน, วิศวกร, ผู้รับเหมา, และคู่ค้าผู้รับจ้าง เพื่อให้งานก่อสร้างดำเนินงานให้สวยงามและเป็นมิตรของพื้นที่

3. กำหนดอัตลักษณ์สถาปัตยกรรมของแต่ละแบรนด์ โดยทำงานร่วมกับ Graphic Designer และ/ หรือ ผู้ออกแบบภายนอก

4. จัดเก็บแบบและตัวอย่างวัสดุเพื่อใช้เป็นมาตรฐานสถาปัตยกรรมทั่วไป

ด้านการบริหารสัญญาและข้อกฎหมาย

1. ควบคุมให้สถาปัตยกรรมของแบรนด์ REDD, ARYU, และ iPLACE สอดคล้องกับกฎหมาย ข้อกำหนดและมาตรฐาน โดยดำรงไว้ซึ่ง Design Concept

2. ตรวจสอบสัญญาต่าง ๆ เช่น สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง, สัญญาผู้รับเหมา

3. ตรวจสอบให้โครงการเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

ด้านการดำเนินงานร่วมกับทีม Sourcing 

1. ให้คำปรึกษาและวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับปัญหา หาสาเหตุ แนวทางการปรับปรุง การจัดซื้อจัดจ้าง วัสดุและบริการ 

2. แนะนำการทำงานและประสานงานต่อกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการตามนโยบายได้หรืองานที่เสร็จช้ากว่ากำหนด

3. ตรวจสอบ PO และ สัญญา

4. จัดทำการฝึกทบทวนเรื่อง compliance และผลประโยชน์ทับซ้อนต่าง ๆ ทุกครึ่งปี เพื่อพัฒนาทีมงานให้มีความพร้อมในการทำงานตามนโยบายจัดซื้อของบริษัท