ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในองค์กรที่ได้รับความสนใจจากผู้สมัครงานอย่างท่วมท้น ตั้งแต่ ‘กรุงไทย’ ชูวัฒนธรรมการทำงานแบบ ‘กล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำ’ ที่มีจุดเด่น 3 ส่วน คือ  

• Teamwork & Learning มีบรรยากาศการทำงานที่เน้นความเป็นทีม ร่วมกันคิด และรับฟังความคิดเห็นกันและกัน และสนับสนุนให้พนักงานทำตามฝัน เช่น โครงการ Hackathon ที่ให้โอกาสพนักงานได้แสดงความสามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยธนาคารสนับสนุนเงินทุน และส่งไปเรียนรู้เพิ่มเติมที่ต่างประเทศ

• Flexible Work สามารถเลือกเวลาทำงานแบบยืดหยุ่นได้ และมีที่ทำงานที่ออกแบบตามเสียงโหวตของแต่ละแผนก อีกทั้งยังมี Co-working Space ที่ทำงานที่ทันสมัยเพื่อรองรับการทำงานของพนักงาน 

• Technology ธนาคารมี ONE Krungthai Application สำหรับอำนวยความสะดวกในการทำงาน และรับสวัสดิการต่างๆ อัพเดทข่าวสาร สแกนเข้า-ออกงานแทนบัตรพนักงาน เรียนคอร์สออนไลน์ ร่วมกิจกรรม ก็ได้รับ Coin และนำ Coin ไป Redeem แลกรับของรางวัล 

และยังขึ้นชื่อด้านการให้ความสำคัญกับบุคลากรมาเป็นอันดับหนึ่ง การันตีด้วยรางวัลด้านการบริหารคนยอดเยี่ยมจากหลายหลายสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ยิ่งทำให้ ‘กรุงไทย’ เป็นองค์กรที่ถูกถามถึงเป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

บทความนี้ WorkVenture จึงรวบรวม 8 คำถามคาใจ และล้วงลึกคำตอบมาให้คลายสงสัยแบบครบถ้วน ถ้าหากใครที่สนใจร่วมงานกับ ‘ธนาคารกรุงไทย’ แต่ยังมีข้อข้องใจ รีบอ่านบทความนี้ประกอบการตัดสินใจด่วนเลย!

1) ทำงานธนาคารกรุงไทย น่าสนใจยังไง 

การทำงานที่นี่ คุณจะได้พบกับความท้าทาย การเติบโต และการพัฒนาแบบไม่หยุดนิ่ง เพราะที่กรุงไทย นอกจากจะเปิดรับทุกเพศทุกวัยแล้ว เค้ายังเน้นให้พนักงานได้แสดงออกอย่างเป็นตัวเองเต็มที่ โดยเปิดเวทีให้คนรุ่นใหม่ได้โชว์ความสามารถ เช่น โครงการ Hackathon ฯลฯ อีกทั้งยังมี ONE Krungthai Application ที่ช่วยให้การทำงานสะดวก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การค้นข้อมูลข่าวสารของธนาคารได้ทันที ใช้สแกน QR Code เข้า-ออกงานแทนบัตรพนักงาน ฯลฯ และยังสามารถใช้สวัสดิการต่างๆ เช่น เบิกค่ารักษาพยาบาล อบรมออนไลน์ ทำกิจกรรมเพื่อแลกของรางวัล บอกเลยว่าทำงานที่นี่ ..สนุกกว่าที่ไหนแน่นอน!

2) วัฒนธรรมองค์กรของธนาคารกรุงไทยเรื่องใด ที่คนรุ่นใหม่ต้องตกหลุมรัก

ที่เราปลื้มที่สุดก็คือ กรุงไทยเปิดโอกาสให้คน‘ทุกเพศทุกวัย’เข้ามาร่วมงานได้ และยังรับฟังทุกความเห็นเพื่อสนับสนุนการทำงานแบบ Team Work ขั้นสุด! อีกทั้งยังใส่ใจกับความต้องการของคน Gen Y / Gen Z ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน จึงปรับให้มีพื้นที่การทำงานที่หลากหลาย และเวลาการทำงานที่เลือกได้ถึง 3 ช่วงเวลาเลยล่ะ

3) โอกาสเติบโตมากน้อยแค่ไหนและมี KPI วัดผลงานอย่างไร

กรุงไทยเป็น Performance-driven organization เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนแสดงความคิดเห็น สามารถเติบโตและก้าวหน้าโดยได้รับค่าตอบแทนและเลื่อนขั้นตามความสามารถ ซึ่งการเติบโตดูที่ผลงานเป็นหลัก ไม่ใช่อายุงาน จึงถือเป็นการส่งเสริมพนักงานตามความสามารถและผลสำเร็จ อีกทั้งวัฒนธรรมองค์กรที่กรุงไทยก็มีความ Dynamic มากขึ้น บางหน่วยงานมีโครงสร้างเป็น Flat Organization มีลำดับขั้นน้อย พนักงานมีโอกาสได้ทำงานหรือนำเสนองานกับผู้บริหารได้โดยตรง ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของคนทำงานยุคใหม่แบบพวกเราเลยล่ะ

4) สวัสดิการของพนักงานธนาคารกรุงไทยเด็ดตรงไหน

เด็ดตรงที่นอกจากจะได้ทั้งเงินเดือน โบนัส  เงินตอบแทนพิเศษฯ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แล้วยังมีลาพักผ่อน ลาป่วย ลากิจ สวัสดิการรักษาพยาบาล บริการห้องกายภาพ ห้องฟิตเนส และบ้านพักสวัสดิการที่เชียงใหม่ ชะอำ บางแสน รวมถึง สวัสดิการเงินกู้ยืมบ้านและรถ ดอกเบี้ยพิเศษด้วย บอกเลยว่า ทำงานที่นี่เซฟไปได้เยอะเลย คุ้มมาก!

5) สถานที่ทำงานว้าวแค่ไหน 

บอกเลยว่า สถานที่ทำงานไม่จำเจแบบที่อื่น เพราะนอกจากโต๊ะทำงานส่วนตัว ที่พนักงานมีส่วนในการโหวตเลือกรูปแบบโต๊ะทำงานได้เองแล้ว ภายในออฟฟิศยังมีการ Renovate ให้เป็นไปตามลักษณะงาน และความต้องการของหน่วยงานนั้นๆ ด้วย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด หรือถ้าเบื่อนั่งโต๊ะ ยังมี Co-working Space สุดโมเดิร์นทั้งการตกแต่งและอุปกรณ์ล้ำสมัย ให้พนักงานทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้ เพียงจองผ่าน ONE Krungthai Application

6) เวลาในการทำงานล่ะ ต้องเป๊ะๆ เลยมั้ย

ไม่ขนาดนั้น ที่กรุงไทย เวลางานยืดหยุ่นสุดๆ โดยพนักงานสามารถเลือกเข้างานได้ตามความสะดวกจาก 3 ช่วงเวลา คือ 7.45-16.45 น., 8.00-17.00 น. และ 8.30-17.30 น. แถมมาพร้อมกับรูปแบบการทำงานแบบ Flexible Workplace คือ พิจารณาจากลักษณะงานและความเหมาะสมของแต่ละแผนกเป็นหลัก ยืดหยุ่นสูงจนรู้สึกว่า การทำงานที่กรุงไทยไม่เครียดหรือน่าเบื่อเหมือนธนาคารทั่วไปเลยล่ะ!

7) พนักงานส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นไหนและมีลักษณะใด

พนักงานที่นี่มีทุกเพศทุกวัย และมีความหลากหลายสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ Gen Y ที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้ก้าวทันโลกเสมอ ถ้าคุณได้มาทำงานที่กรุงไทย  รับรองว่าได้เจอเพื่อนร่วมงานที่มีความสามารถ ที่พร้อมให้คำปรึกษา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแน่นอน

8) คอนเซปต์ ‘กล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำ’ มีผลดีต่อพนักงานอย่างไรบ้าง 

กล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำ คือ การปรับเปลี่ยนองค์กรในหลายๆ ด้านทั้งด้านเทคโนโลยี โครงสร้างและวัฒนธรรมองค์กร ระบบการทำงาน และการพัฒนาบุคลากร เพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ที่ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจุดที่ส่งผลดีต่อพนักงานอย่างพวกเราที่สุด ก็คือ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กรให้คล่องตัว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น พร้อมทั้งปรับเปลี่ยน Mindset ของพนักงานให้พร้อมที่จะเรียนรู้พัฒนาตนเอง มีการพัฒนาคนเพื่อ reskill upskill และเพิ่มทักษะด้านดิจิทัล และที่สำคัญยังมีออฟฟิศที่ทันสมัย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานแบบใหม่มากขึ้นด้วย  ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้กรุงไทยกลายเป็น Best Place to Work ที่คนเก่าก็ทำงานอย่างไร้แรงกดดัน และคนใหม่ก็ทะยานทะลุขีดจำกัดได้เกินฝัน! อีกทั้งยังภาคภูมิใจที่ได้ทำงานในบริษัทที่มีความมั่นคงสูง มีชื่อเสียง และมีภาพลักษณ์ทันสมัย จะยิ่งทำให้เราผูกพันกับองค์กร  แล้วกล้าพูด กล้าแชร์ประสบการณ์การทำงาน และมั่นใจที่จะแนะนำเพื่อนหรือคนรู้จักมาร่วมเติบโตไปด้วยกัน ได้เลย

อ่านถึงตรงนี้ ใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับกรุงไทย ก็คงได้คำตอบให้หายคาใจกันไปได้มากเลยทีเดียวนะครับ แล้วก็ถึงเวลาของการตัดสินใจแล้วล่ะ ว่าคุณจะกล้าเปลี่ยนเพื่อก้าวนำไปสู่ความเหนือกว่ากับกรุงไทยหรือเปล่า? ถ้ากล้าแล้วล่ะก็ รีบเข้าไปเช็คตำแหน่งงานที่สนใจ แล้วส่งใบสมัครมาด่วนๆ เลยที่นี่