การทำงานในปัจจุบันนี้ ทักษะและประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่คุณจำเป็นต้องมี เพราะไม่ว่าคุณจะทำอาชีพไหนหรือตำแหน่งอะไร เงินเดือนที่ได้รับมักจะแปรผันตามความสามารถของคุณ ซึ่งหมายความว่า หากคุณต้องการเลื่อนตำแหน่งในการทำงาน หรือต้องการได้รับค่าตอบแทนที่เพิ่มมากขึ้น คุณต้อง “พัฒนาตัวเอง” เพื่อให้คุณมีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ มาอ่านกันเถอะว่า ควรจะพัฒนาตัวเองอย่างไรเพื่อช่วยให้ได้เลื่อนตำแหน่ง และได้รับเงินเดือนที่เพิ่มมากขึ้น

1. สำรวจตำแหน่งงานที่เราสนใจว่าต้องใช้ทักษะด้านอะไรบ้างในการทำงาน

ทุกตำแหน่งงานต้องมีคุณสมบัติเฉพาะ ด้านความชำนาญเฉพาะทาง (Hard Skills)  และทักษะทางสังคมต่าง ๆ (Soft Skills) เช่น ความสามารถในการบริหาร การพูดโน้มนาว หรือการเจรจาต่อรอง เป็นต้น หากคุณต้องการก้าวไปสู่ตำแหน่งในการทำงานที่สูงขึ้น สิ่งที่ต้องทำคือ พิจารณาดูว่าตำแหน่งนั้นจำเป็นต้องมีคุณบัติในด้านไหนบ้าง หลังจากนั้นเริ่มหาประสบการณ์และความรู้ที่จำเป็นในการทำงาน โดยคุณต้องวางเป้าหมายให้ชัดเจนว่าก้าวต่อไปของคุณคือตำแหน่งอะไร 

หลังจากที่รู้แล้วว่าตำแหน่งที่คุณต้องการจะก้าวหน้าในอาชีพการงานคือตำแหน่งอะไร คุณจำเป็นต้องสำรวจตัวเองว่าคุณมีสิ่งเหล่านี้หรือไม่ 

• ทักษะด้านความชำนาญเฉพาะทางและทักษะทางสังคม

• ประสบการณ์ในการทำงานในตำแหน่งนั้น หรือตำแหน่งที่ใกล้เคียง

• คุณสมบัติต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงานในตำแหน่งนั้น

สิ่งไหนที่ยังขาดอยู่ โดยหาให้ได้ว่าจุดเด่นและจุดด้อยของคุณคืออะไร เมื่อรู้แล้วก้าวต่อไปคือคุณจะทำอย่างไรได้บ้างเพื่อให้ไปให้ถึงจุดหมายที่ต้องการ

2. เพิ่มพูนความรู้และทักษะในด้านที่ขาด

วิธีการที่จะก้าวไปสู่ตำแหน่งที่ต้องการคือ การรู้จักเรียนรู้และพัฒนาคุณสมบัติที่คุณขาด บางตำแหน่งต้องการให้มีอายุงานหรือระยะเวลาในการทำงานขั้นต่ำ 3-5 ปีขึ้นไป คุณก็ต้องรอเวลาที่เหมาะสม แต่ระหว่างนั้นก็ให้สะสมประสบการณ์ในการทำงานไปเรื่อย ๆ บางตำแหน่งต้องการความสามารถทางภาษาคุณก็ต้องเริ่มฝึกฝนตัวเองเพื่อเพิ่มพูน ทักษะทางภาษา หรือบางตำแหน่งต้องการพิสูจน์ผลงานในงานที่ทำอยู่ คุณก็ต้องพิสูจน์ด้วยการทำงานชิ้นนั้นให้ออกมาให้ดีที่สุด โดยการทำสิ่งเหล่านี้คุณจำเป็นต้องหาโอกาสในการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ซึ่งคุณสามารถเริ่มจากการ

• หาคอร์สสัมมนาหรือฝึกอบรม เพื่อพัฒนาทักษะต่าง ๆ

• อ่านหนังสือเพื่อเพิ่มความรู้

• ศึกษาหาความรู้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น  YouTube หรือ Website

3. พูดคุยกับหัวหน้างานเพื่อหาทิศทางการพัฒนาตนเองและผลงาน

อีกสิ่งที่ควรทำคือ ต้องวางแผนร่วมกันกับทีมและหัวหน้างานเพื่อสร้าง Career Path หรือเส้นทางความก้าวหน้าของตำแหน่งงานที่ทำ อะไรบ้างที่คุณควรจะต้องทำ และจำเป็นต้องพัฒนาตัวเอง เพราะการทำงานโดยไม่ได้ปรึกษากับบริษัท อาจจะทำให้บริษัทวาง career path ที่ไม่ตรงกับความต้องการของคุณ ดังนั้นอย่ากลัวที่จะพูดคุยเรื่องความก้าวหน้าของงาน เพราะนี่เป็นหนทางที่จะทำให้ก้าวไปในสายอาชีพได้ตรงตามเป้าหมายที่คุณต้องการ และบริษัทเองย่อมได้รับผลประโยชน์จากการพูดคุย

4. วางแผนพัฒนาตนเองและกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน

หากคุณคาดหวังความก้าวหน้าในอาชีพการงาน คุณควรวางแผนในการพัฒนาตนเองและผลงานโดยลงมือพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ด้านที่จำเป็นต้องพัฒนา นอกจากนี้คุณควรกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงานทั้งเป้าหมายระยะสั้นและเป้าหมายระยะยาว เพราะการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณมีแรงกระตุ้นเพื่อพิชิตเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น

• การกำหนดเป้าหมายระยะสั้นในการทำงาน โดยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าภายใน 5 เดือน หรือ 1 ปีฉันจะเลื่อนตำแหน่งงานให้ได้ ซึ่งการจดโน้ตสิ่งเหล่านี้ไว้ในจุดต่าง ๆ ที่คุณสามารถมองเห็นได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน หน้ากระจก หรือในรถ จะทำให้คุณไม่ลืมว่าคุณมีเป้าหมายอะไรในการทำงาน

• การกำหนดเป้าหมายระยะยาว เป็นประโยชน์อย่างมากในการทำงานเพราะจะช่วยให้คุณไม่หลุดโฟกัสจากเป้าหมายหลัก ๆ ในชีวิตของคุณ นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้คุณรู้อยู่เสมอว่าอะไรที่คุณต้องทำให้สำเร็จบ้าง และจะทำอย่างไรเพื่อพาตนเองไปถึงเป้าหมายในการทำงาน

ซึ่งสิ่งที่คุณทำอาจจะใช้เวลาเป็นปี หรือหลายปีเพื่อให้ตัวคุณมีคุณสมบัติและทักษะที่เหมาะกับตำแหน่งนั้น แต่เชื่อเถอะว่าความทุ่มเทของคุณคุ้มค่าแน่นอน เพราะมีแต่คนที่ตั้งใจและพยายามอย่างต่อเนื่องถึงจะพาตัวเองไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ คนที่ขาดเป้าหมายและขาดความพยายามก็ยากที่จะไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

5. ทุ่มเทกับการทำงานให้เต็มที่ และช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานเมื่อมีโอกาส

การที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานนั้น การพยายามมากกว่าคนอื่นก็เท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสพิสูจน์ความสามรถให้ทุกคนได้เห็น โดยการแสดงให้เห็นว่าตัวคุณทำอะไรได้ และคุณทุ่มเทกับการทำงานแค่ไหน จะทำให้หัวหน้างานเห็นศักยภาพในการทำงานของคุณ และผลักดันให้คุณมีโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพมากกว่าคนอื่น ๆ โดยคุณสามารถเริ่มจากการ ทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณทุ่มเทกับการทำงาน เช่น

•  การแชร์ไอเดียใหม่ ๆ หรือแนวคิดที่ช่วยต่อยอดงานให้พัฒนามากกว่าเดิม หากไอเดียร์ที่คุณแชร์ไปสามารถสร้างผลงานได้ คุณก็จะได้รับผลตอบรับที่ดีและมีโอกาสก้าวหน้า

• ช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานเมื่อมีโอกาส เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองระหว่างการทำงานทำงาน เพราะไม่มีใครสามารถทำงานสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวการมีเพื่อนที่ดีจะยิ่งทำให้งานมีผลประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งยังได้รับความไว้ใจและความเชื่อมั่นจากหัวหน้างาน

หากต้องการความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น คุณควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนตั้งแต่วันนี้ นอกจากนั้นควรหมั่นตรวจสอบความพร้อมของตนเอง คอยหาจุดดีและจุดด้อย เพื่อพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอยู่เสมอ แม้เป้าหมายเรื่องตำแหน่งการงานจะยังไปไม่ถึงหรืออาจไปถึงช้าแต่ความสามารถของคุณที่ค่อย ๆ สะสมมานั้น จะมีมากขึ้นจนคุณกลายเป็นคนที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมอีกคนหนึ่งเลยทีเดียว