​สำหรับนิสิตนักศึกษา การฝึกงานถือเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะทำให้คุณได้พัฒนาทักษะและหาความรู้ผ่านการทำงานจริง ซึ่งในประเทศไทยมีบริษัทอยู่มากมาย ทำให้หลายคนไม่รู้จะเริ่มหางานจากตรงไหน การหาที่ฝึกงานในยุคนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องพิจารณาหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ระยะเวลาของการฝึกงาน วิธีการเดินทาง หรือที่อยู่อาศัย การฝึกงานก็เหมือนเป็นการทดลองว่าตัวเราจะสามารถทำงานนี้ในอนาคตได้มั้ย งานนี้เหมาะกับเราจริงๆหรือไม่ สำหรับคนที่รู้ว่าอยากทำอะไรแต่ไม่รู้ว่า จะเลือกบริษัทยังไง เตรียมตัวสัมภาษณ์ยังไง และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง WorkVenture มีคำแนะนำมาให้น้อง ๆ ที่อยากหาที่ฝึกงานที่ใช่ และเหมาะสมกับตัวเองมาฝาก

1. การเลือกบริษัท

การเลือกบริษัทก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่นักศึกษาจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการหางานโดยเริ่มจากการเลือกบริษัทก่อน จะช่วยให้คุณมีโอกาสได้ร่วมกับองค์กรที่คุณพึงพอใจ และรู้ว่าคุณเหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กรหรือไม่ โดยเริ่มจากการศึกษาลักษณะการทำงานของบริษัท ความก้าวหน้าทางอาชีพ หรือบริษัทสนับสนุน Work-life balance มั้ย สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจเลือกที่ฝึกงานที่เหมาะกับตัวคุณได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การหาบริษัทที่จะฝึกงาน สามารถเริ่มหาได้จาก

• ผู้มีประสบการณ์แนะนำ : การที่ได้รับคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ถือเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง เพราะพวกเขามีประสบการณ์ในการร่วมงานกับบริษัทที่หลากหลายมาก่อน โดยคุณสามารถ สอบถามข้อมูลเบื่องต้นของบริษัทที่คุณสนใจจากพวกเขาได้ 

• ค้นหาจากเว็บไซต์หางาน : ปัจจุบันมีเว็บไซต์ชั้นนำเพื่อช่วยในการหางานมากมาย โดยบริษัทหลาย ๆ บริษัทมีการเปิดรับสมัครนักศึกษาฝึกงานผ่านเว็บไซต์เหล่านี้ ซึ่งการหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ จะช่วยให้คุณทราบข้อมูลเบื้องต้นของตำแหน่งที่ฝึกงาน และอ่านรีวิวจากผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อนได้ 

• ค้นหาจากเว็บไซต์ของบริษัทที่คุณสนใจ : หลาย ๆ บริษัทมีการประกาศรับสมัครนักศึกษาฝึกงาน ผ่านเว็บไซต์หรือเพจของทางบริษัทเอง หากคุณมีความสนใจที่จะร่วมงานกับบริษัทไหน คุณสามารถหาข้อมูลตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร และข้อมูลของบริษัทผ่านช่องทางนี้ได้

2. การเตรียมตัวสัมภาษณ์งาน

หลังจากที่เราได้รับเลือกจากทางบริษัทแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการนัดสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นโอกาสที่คุณสามารถดึงดูดความสนใจ และแสดงความสามารถด้านต่าง ๆ ให้กับ HR ได้รับรู้ โดยการสัมภาษณ์นั้นสำคัญกับนักศึกษาฝึกงานเป็นอย่างมาก เพราะตัดสินได้เลยว่า เราจะได้มีโอกาสเข้าไปฝึกงานในบริษัทหรือไม่ การตอบคำถามแต่ละคำถามนั้น เป็นการแสดงถึงทัศนคติของผู้สมัคร ทั้งในเรื่องของการทำงานและชีวิตส่วนตัว ว่าคุณเหมาะจะเป็นส่วนหนึ่งกับองค์กรมั้ย

• เตรียมพร้อมตั้งแต่บุคลิกภาพและการแต่งกาย : ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนต่างก็ต้องมองภาพลักษณ์และบุคลิกของผู้สมัครเป็นอันดับแรก การแต่งกายเป็นหนึ่งในการสร้างความประทับใจแรกพบ นั่นหมายความว่า ถ้าการแต่งกายไม่ดี มักจะส่งผลให้บุคลิกดูไม่สง่าผ่าเผยไปด้วย เราอาจไม่ผ่านหรือไม่ได้รับคะแนนความประทับใจจากผู้สัมภาษณ์งานก็เป็นได้

• เวลานัดหมาย : เรื่องการนัดหมายสำคัญมากสำหรับการนัดสัมภาษณ์ บริษัทส่วนใหญ่เข้มงวดกับเรื่องการตรงต่อเวลามาก ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะมีนัดสัมภาษณ์งานแบบ online หรือ onsite ควรไปถึงก่อนเวลา เพื่อเตรียมความพร้อม 

• ข้อมูลของบริษัทและแผนกที่ลงสมัครไป : คุณควรศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของบริษัท ข้อมูลสายงาน และตำแหน่งงานที่คุณสมัครไปก่อนการนัดสัมภาษณ์งาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณมีความเข้าใจในสายงาน และลักษณะการทำงานของบริษัท เช่น เมื่อคุณลงสมัครแผนกการตลาด คุณต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับแบบทดสอบต่าง ๆ ที่ HR จะถามคุณ อาจจะเป็นการทดสอบไหวพริบและความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับการสัมภาษณ์ก็คือ ภาษาที่ใช้ควรเป็นภาษาที่สุภาพ หากว่าคุณสมัครกับบริษัทต่างชาติ คุณจำเป็นต้องเตรียมการแนะนำตัว และการตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษไปด้วย

3. การเตรียมเอกสารสมัครงาน

การเตรียมเอกสารเพื่อไปสัมภาษณ์งานก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ที่สื่อถึงการเตรียมความพร้อมของผู้สมัคร และสามารถแสดงถึงความใส่ใจของคุณที่มีต่อบริษัท เอกสารที่ควรเตรียมไปสำหรับการสัมภาษณ์ ยกตัวอย่างเช่น เรซูเม่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และอื่น ๆ นอกจากนี้จะดีมาก หากคุณเตรียมตัวอย่างผลงานที่เกี่ยวข้องหรือ ผลงานที่โดดเด่นของคุณ ไปแสดงให้ HR เห็นระหว่างการสัมภาษณ์ เพราะจะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีประสบการณ์ในการทำงานนั้นมาก่อนจริง ๆ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางบริษัทว่าต้องการเอกสารอะไรเพิ่มเติมบ้าง ในวันนัดสัมภาษณ์งาน ควรจะเช็กลิสต์ให้ครบ และจัดเรียงให้เรียบร้อย 

เมื่อคุณมีนัดสัมภาษณ์ฝึกงาน แต่คุณยังไม่มั่นใจว่าคุณพร้อมรับมือกับการสัมภาษณ์ได้ดีหรือยัง คุณสามารถนำคำแนะนำข้างต้นไปใช้ เพื่อช่วยในการเตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน จะได้ไม่พลาดโอกาสในการได้ร่วมงานกับบริษัทที่คุณสนใจ และอย่าลืมว่าการฝึกงานคือก้าวแรกในการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นการได้ร่วมงานกับองค์กรที่คุณใฝ่ฝัน ถือเป็นการเริ่มต้นและโอกาสที่ดีของคุณ

​