พนักงานแฮปปี้ = ธุรกิจแฮปปัง - แนวคิดสู่ความสำเร็จของ Richard Branson

เคยแอบคิดไหม... ทำไมบางคนถึงพาธุรกิจตัวเองไปไกลกว่าคนอื่น?

อะไรคือความลับของความสำเร็จที่คนธรรมดาอาจมองข้าม?

วันนี้ WorkVenture ได้ร่วมมือกับ Young Business Guide 

จะพาคุณไปเจาะลึกแนวคิดของ Richard Branson

เจ้าพ่อธุรกิจระดับโลก ผู้ปั้น Virgin Empire และ นักธุรกิจระดับโลกที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดจากสูตรตายตัว

แต่เริ่มจากวิธีคิดที่ “ไม่เหมือนใคร”

และพิสูจน์ให้เห็นว่า "ใส่ใจคนให้มากกว่าแผนธุรกิจ" อาจเป็นคำตอบที่หลายคนมองข้ามก่อนอื่น มารู้จัก Branson กันสักนิด:

• หัวไม่ดี เรียนไม่จบมัธยม
• แต่กลับกลายเป็นมหาเศรษฐีที่สร้างฐานะขึ้นมาด้วยตัวเอง
• เป็นเจ้าของ Virgin Group ที่มีบริษัทกว่า 400 บริษัท พนักงานเกือบ 70,000 คน ใน 35 ประเทศ
• มีทรัพย์สินกว่า 150,000 ล้านบาท

เห็นตัวเลขแล้วอาจจะตาลาย แต่คำถามสำคัญคือเขาบริหารบริษัท 400 บริษัท กับพนักงานกว่า 70,000 คน โดยยังคงคุณภาพบริการที่ดีได้ยังไง?

คำตอบอยู่ที่วิธีคิดของเขานี่แหละ

แนวคิดหลักของ Branson: พนังงานคือหัวใจของธุรกิจ

Branson มีความเชื่อที่ว่า “ดูแลพนักงานให้ดี แล้วธุรกิจจะเติบโตเอง” ฟังดูง่าย แต่ทำไมหลายคนถึงมองข้ามเรื่องนี้ไป

ลองคิดดู ถ้าพนักงานมีความสุข เขาก็จะทำงานด้วยใจ ให้บริการด้วยรอยยิ้ม และสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆให้บริษัท นี่แหละคือกุญแจสู่ความสำเร็จของ Virgin Group

วิธีการดูแลพนังงานแบบ Branson

กฎข้อที่ 1 ไม่สนุกไม่ทำ

“การทำธุรกิจ ต้องทำแล้วสนุก ไม่สนุกอย่าไปทำมัน” – Richard Branson

Branson เชื่อว่า การทำงานควรสนุก ไม่ใช่น่าเบื่อ สร้างบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย ไม่เครียดเกิน

ตัวอย่าง Virgin Atlantic สายการบินในเครือ Virgin Group ในปี 2014 Virgin Atlantic เปิดตัวนโยบายใหม่ที่เรียกว่า “Your Uniform, Your Way”

1. แอร์โฮสเตส บนเครื่องบินสามารถเลือกสวมกางเกงหรือกระโปรงได้ตามสะดวก
2. พนักงานเลือกได้ว่าจะแต่งหรือไม่แต่งเครื่องสำอางก็ได้และไม่จำเป็นต้องทาลิปสีแดง
3. ผู้ชายไว้เคราได้ ถ้าไว้แล้วยังดูเรียบร้อย
4. พนักงานใส่รองเท้าแฟลตได้ ไม่จำเป็นต้องใส่ส้นสูงตลอดเวลา

หรือตัวอย่างใกล้ตัวอย่าง สำนักงานใหญ่ของ Virgin Group

5. พนักงานแต่งชุดไปรเวทได้ทุกวัน ไม่ต้องใส่สูท ชุดทางการ
6. ใส่รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าสบายๆ ได้
7. ไม่มีข้อห้ามเรื่องสีผม ทรงผม หรือการเจาะตามร่างกาย ตราบใดที่ยังดูสุภาพและเหมาะสม

Branson เชื่อว่านโยบายเหล่านี้ช่วยให้พนักงานความเป็นตัวของตัวเองของพนักงานทำให้ส่งผลดีต่อความสุขของพนักงาน ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าในที่สุด

กฎข้อที่ 2: อย่าพูดว่าฉันคือเจ้านาย

การสร้างบรรยากาศที่สนุกและผ่อนคลายนั้นไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรับผิดชอบ Branson ไม่ใช่เจ้านายที่คอยสั่งอย่างเดียว แต่ให้อิสระพนักงานในการตัดสินใจและรับผิดชอบงานของตัวเอง

เขามักพูดว่า “ฝึกพนักงานให้ดีพอที่จะออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ปฏิบัติกับพวกเขาดีพอที่จะทำให้พวกเขาอยากอยู่กับคุณ”

ตัวอย่างการให้อิสระในการตัดสินใจแก่พนักงานใน Virgin Group นโยบาย “Stand Up” ที่ Virgin Hotels:

ซึ่งให้อำนาจพนักงานทุกคนแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ทันที โดยไม่ต้องขอผู้จัดการก่อน เช่น หากลูกค้าไม่ชอบห้องพัก พนักงานตัดสินใจย้ายห้องให้ลูกค้าได้ทันที หรือหากมีปัญหาเล็กน้อย พนักงานก็เสนอส่วนลดหรือของขวัญเล็กๆ น้อยๆ เพื่อชดเชยได้

การให้อิสระและความรับผิดชอบพนักงานแบบนี้ พนักงานชอบ ลูกค้าเลิฟ วินๆทั้งคู่ทั้งบริษัท พนักงาน ลูกค้า

กฎข้อที่ 3: ทุกเสียงมีค่า ทุกไอเดียมีโอกาส

Branson เชื่อว่าทุกคนในบริษัท “มีของ” พอที่จะเปลี่ยนแปลงและสร้างนวัตกรรม ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด เขาจึงสร้างวัฒนธรรมการรับฟังและเปิดรับความคิดเห็นอย่างจริงจัง

1. OPEN DOOR ต่อสายตรงกับ CEO

– Virgin มีนโยบาย “Open Door” ที่ส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับสามารถเข้าพบผู้บริหารได้โดยตรง

– และ Branson ยังชอบเดินเยี่ยมออฟฟิศและคุยกับพนักงานด้วยความเฟรนลี่ไม่ถือตัว

2. นั่งประชุมมันน่าเบื่อ งั้นยืนประชุมเลยล่ะกัน

– การนั่งประชุมมันยืดเยื้อ น่าเบื่อใช่ไหม

– Virgin เลยเน้นประชุมแบบยืน (Stand-up Meeting)

3. โครงการ “Idea Bank”

– Virgin มีระบบรับฟังไอเดียจากพนักงานทุกระดับ เรียกว่า “Idea Bank”

– พนักงานสามารถเสนอไอเดียเพื่อปรับปรุงธุรกิจได้ตลอดเวลา

– ไอเดียที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับรางวัล และsupport จนได้เอาไปใช้จริง

กฎข้อที่ 4: ก้าวไปด้วยกัน โตไปด้วยกัน

Branson เชื่อว่าการพัฒนาศักยภาพของพนักงานไม่ใช่เพียงแค่การฝึกอบรม แต่เป็นการลงทุนในอนาคตของทั้งพนักงานและบริษัท เขาสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องใน Virgin Group

1. Virgin Rotation หากใครอื่นตัวกับการทำงานแผนกเดิมๆ งั้นลองไปทำแผนกอื่นใน Virgroup เลือกทำได้ 400 บริษัทและมีหลายแผนก

– พนักงานเลยสมัครเข้าร่วมโครงการหมุนเวียนงาน ได้ลองทำงานในแผนกอื่นๆ 3-6 เดือน

– ช่วยให้พนักงานได้ค้นพบความชอบและความถนัดใหม่ๆ แก้เบื่อ เติมpassion และskillใหม่ๆ

2. ยิ่งล้มบ่อยยิ่งดี

-Failure Forums เพื่อให้พนักงานได้ shae บทเรียนจากความผิดพลาดและความล้มเหลว

3. Virgin Education Fund

-Virgin มีให้ทุนพนักงานไปพัฒนา skill ใหม่ๆเพื่อพัฒนาตัวเอง

กฎข้อที่ 5: Work-Life Balance มีอยู่จริง

Branson เชื่อว่าการสร้าง Work-Life Balance ไม่ใช่แค่สวัสดิการ แต่เป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ เขาส่งเสริมให้พนักงาน Virgin Group มีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในและนอกที่ทำงาน

1. นโยบายการลาแบบไม่จำกัด (Unlimited Leave Policy):

– บริษัทในเครือ Virgin เช่น Virgin Management ให้พนักงานลาพักร้อนได้ไม่จำกัดจำนวนวัน

– พนักงานสามารถจัดการเวลาของตัวเองได้ โดยมีเงื่อนไขว่างานต้องเสร็จ!

– ผลลัพธ์ดีกว่าที่คาด Productivity เพิ่มขึ้น 15%

2. โปรแกรมสุขภาพกาย-ใจ แบบจัดเต็ม

-มีแพลตฟอร์ม Track การออกกำลังกาย การนอน การกิน

-ทุกวันพุธ มีคลาสโยคะ นวด เวิร์คช็อปโภชนาการ

-โปรแกรมให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตฟรี

3. นโยบาย “Work From Anywhere”

– Virgin ให้อิสระพนักงานในการเลือกสถานที่ทำงาน

– มีการสนับสนุนอุปกรณ์และเทคโนโลยีสำหรับการทำงานทางไกล

– ผลลัพธ์ความพึงพอใจของพนักงานเพิ่มขึ้น 35% และประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 20%

ผลลัพธ์โดยรวมของการดูแลพนักงานแบบ Virgin

• พนักงานลาออกน้อยลง 18% เยอะกว่าค่าเฉลี่ย
• Virgin Group ได้รับการจัดอันดับเป็น Top 10 ใน “Best Places to Work” โดย Glassdoor ติดต่อกัน 5 ปี
• ลูกค้าพอใจกับการบริการขึ้น 22%
• รายได้ต่อพนักงานเพิ่มขึ้น 15%

บางคนอาจมองว่าการสร้าง Work-Life Balance เสียเวลาเปล่าแต่การลงทุนในคุณภาพชีวิตของพนักงานคือการลงทุนในความสำเร็จของธุรกิจนั่นเอง

Key-Concept สำหรับผู้เริ่มต้นธุรกิจ

อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะมีคนคิดว่า ” ฉันไม่ใช่ Virgin จะทำแบบนั้นได้ยังไง” แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าธุรกิจคุณจะเล็กแค่ไหน หรือพึ่งเริ่มทำธุรกิจ ก็เอานำแนวคิดของ Branson มาปรับใช้ได้ในแบบของตัวเอง

1. เริ่มต้นด้วยให้ความสำคัญกับพนักงาน แม้ตอนนี้จะมีพนักงานแค่ 2-3 คน
2. สร้างรากฐานวัฒนธรรมองค์กรที่ดีตั้งแต่เริ่ม เพราะพอองค์กรใหญ่ขึ้น มันจะเปลี่ยนยากมาก

3. มองพนักงานเป็นพาร์ทเนอร์ ไม่ใช่แค่ลูกจ้าง ให้เกียรติและเคารพความคิดเห็นของพวกเขา

    

แนวคิดของ Richard Branson ในการดูแลพนักงานไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่เป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ฉลาดและยั่งยืน เราได้เรียนรู้ว่า 5 กฎเหล็กในการดูแลพนักงานของ Branson ล้วนเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของธุรกิจ อ่านจบแล้วอย่าลืมกลับไปลงมือทำด้วยนะ อาจเป็นการจัดประชุมแบบยืน หรือเริ่ม Project เล็กๆ พัฒนา passion , skill

การเปลี่ยนแปลงเริ่มจากเล็กๆ แต่ส่งผลใหญ่ในระยะยาว เมื่อคุณเริ่มดูแลพนักงานให้ดีขึ้น พนักงานก็จะดูแลธุรกิจได้ดีกว่าเจ้าของ เหมือน Richard Branson และอาณาจักร Virgin Group

หากคุณคือคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลในการสร้างธุรกิจ สนใจโลกของ Startup หรือมองหาพาร์ตเนอร์ในการจัดกิจกรรมดี ๆ ให้กับองค์กร

ลองแวะไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ youngbusinessguide.com