ในช่วงเวลานี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด สำหรับใครหลายๆคน ไม่เว้นแม้กระทั่งบริษัทและองค์กรชั้นนำทั่วโลก ต่างต้องหาวิธีรับมือกับปัญหาโรคระบาดที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่โลกเคยมีมา ซึ่งไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ ในเมื่อทุกคนยังต้องทำงานและใช้ชีวิตต่อไป จะต้องทำอย่างไรให้กิจกรรมทุกอย่างดำเนินต่อไปได้ ดังนั้นจึงได้เห็นปรากฎการณ์ ที่องค์กรต่างๆ หาแนวทางการรับมือ เปลี่ยนแปลง ปรับตัว สร้างวัฒนธรรมองค์กรใหม่ เพื่อนำไปสู่ความปกติใหม่ ที่หลายคนรู้จักในชื่อของ “ชีวิตวิถีใหม่” หรือ New normal

Working from home

การทำงานจากที่บ้าน เป็นแนวทางที่หลายองค์กรนำไปปฎิบัติ จากการล็อคดาวน์ในหลายพื้นที่ ทำให้ผู้คนไม่สามารถออกมาทำงานได้ แต่ธุรกิจยังต้องดำเนินต่อไป หลายธุรกิจจึงต้องปรับตัว โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้าช่วย เช่น โปรแกรม remote desktop เพื่อสามารถเข้าถึงข้อมูล เสมือนอยู่ที่ทำงาน อย่างโปรแกรม Teamviewer หรือ Cisco VPN อีกทั้งยังมีโปรแกรมที่สามารถสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมงานผ่านโปรแกรม Slack,Skype หรือแม้กระทั่ง Line desktop ก็สามารถใช้ในการสื่อสารและรับส่งข้อมูลได้อย่างดี ทำให้ทุกคนสามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา

ลดวันทำ เพิ่มวันหยุด

บริษัทชั้นนำอย่าง Microsoft ในประเทศญี่ปุ่น ให้พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ในช่วงปลายปีที่มา ได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมากจากพนักงานและพบว่าประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น จากการทดสอบของ University of Auckland และ Auckland University of Technology พบว่าพนักงาน อาจต้องทำงานทำงานหนัก เมื่อต้องทำงานสี่วันต่อสัปดาห์แต่ ว่าพวกเขารู้สึกเครียดน้อยลงและรู้สึกว่ามีความสมดุลที่ดีขึ้นระหว่างการทำงานกับส่วนที่เหลือของชีวิตในสัปดาห์การทำงานที่สั้นลง

ลดการประชุม สัมมนาแบบเผชิญหน้า

ในช่วงเวลาที่การระบาดของโลกยังไม่สิ้นสุด การประชุมหรือสัมมนาที่รวมผู้คนจำนวนมากไว้ ในระยะเวลาที่ยาวนาน อาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ หลายองค์กรจึงเลือกใช้การประชุมออนไลน์ หรือ E-meeting ผ่านโปรแกรมต่างๆเช่น Zoom, Microsoft Team และ WebEx ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลาย ทั้งในภาคธุรกิจ องค์กรต่างๆ หรือแม้กระทั่งใช้ทดแทนการสัมมนาหรืองานอีเว้นท์ที่มีผู้ร่วมจำนวนมาก จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับองค์กร

การฝึกอบรมออนไลน์

หลายบริษัทเลือกการฝึกออนไลน์ แทนการฝึกอบรบแบบเก่า ในช่วงล็อคดาวน์ เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ในช่วงที่ไม่สามารถออกมาทำงานได้อย่างปกติ ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่สำหรับการฝึกอบรมขององค์กรต่างๆ ที่จะมีการใช้การเรียนการสอนออนไลน์มากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้องค์กร สามารถประหยัดต้นทุนในการฝึกอบรมของพนักงานอีกด้วย

ทัศนคติที่เปลี่ยนไปกับสุขภาพและสุขอนามัย

ก่อนหน้าการเกิดโรคระบาด เรื่อง สุขภาพและสุขอนามัยของพนักงาน อาจเรื่องรองๆ จากประเด็นอื่น แต่หลังจากเหตุการระบาดของ Covid-19 ทำให้องค์กรต้องกลับมาคิดทบทวนอีกครั้ง ถึงมาตรการสุขอนามัยภายในบริษัท ทั้งการนำมาตรการ เว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) การป้องกันการแพร่กระจายของโรค  รวมถึงระบบการประกันระบบสุขภาพพนักงาน ซึ่งอาจต้องมีการเพิ่มเติมการประกันความเสี่ยงที่เกิดจากโรคระบาดอีกด้วย