“ทำงานมาตั้งหลายปีทำไมถึงยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งสักที?” คงเป็นคำถามที่มนุษย์วัยทำงานหลายคนต้องเคยถามกับตัวเองมาบ้าง เพราะอาจคิดว่าแค่มีประสบการณ์ในสายงานที่เกี่ยวข้องและผลงานที่จับต้องได้นั่นก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงนอกเหนือจากทักษะเฉพาะทาง เรื่องของ “ลักษณะนิสัย” ที่มีผลต่อการเลื่อนตำแหน่งก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งวันนี้ WorkVenture ได้รวบรวม 8 นิสัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้เตรียมพร้อมกับการเลื่อนตำแหน่งก่อนการประเมินครั้งต่อไปจะมาถึงมาไว้ในที่เดียวกันนี้

1. สอนงานเป็น

เมื่อก้าวเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการสอนงานให้เป็นนั้นสำคัญอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแค่เข้าใจรายละเอียดของงานว่าต้องทำอะไรเท่านั้น แต่คุณต้องรู้วิธีรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เพื่อที่จะสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับเพื่อนร่วมทีมที่เพิ่งเข้ามาใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการสอนงานคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่สามารถฝึกได้ในทุกวันผ่านการแบ่งเวลามาช่วยงานของเพื่อนร่วมงาน แต่คุณต้องไม่ลืมที่จะตั้งใจทำงานของตัวเองให้ดีขึ้นด้วย เพื่อที่จะได้เป็นที่ยอมรับของผู้อื่น

2. จัดการงานได้

ตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่งกว่าเดิม สำหรับคนที่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้ ประเมินว่างานใดที่จะต้องขอความช่วยเหลือเพื่อให้งานนั้นสำเร็จลุล่วง และบริหารเวลาที่มีอย่างจำกัดได้เป็นอย่างดี ย่อมได้เปรียบผู้อื่นในการทำงาน เพราะนอกจากจะจัดการงานของตัวเองได้อย่างเรียบร้อยแล้ว คุณก็ยังสามารถช่วยเหลืองานของเพื่อนร่วมทีมให้เสร็จทันเวลาได้อีกด้วย การจัดการงานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการเลื่อนตำแหน่งเพราะจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการบริหารและจัดการทีมเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่สูงขึ้น

3. พรีเซนต์เป็นเลิศ

ต่อให้คุณจะมีโปรเจ็กต์ที่ดี แต่ถ้าไม่รู้วิธีที่จะนำเสนอมันออกมายังไงให้น่าสนใจ โอกาสที่ผลงานของคุณจะได้แจ้งเกิดก็จะน้อยลงตาม แต่คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเพราะการพรีเซนต์ให้เป็นเลิศนั้นเป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนให้ชำนาญได้ด้วย 5 เทคนิคการพูดพรีเซนต์ยังไงให้คนซื้อจาก Harvard Business Review 

• สไลด์น้อย ตัวอักษรน้อย มีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะนอกจากจะช่วยให้การพรีเซนต์ของคุณกระชับและตรงประเด็นแล้ว ยังสามารถทำให้ผู้ฟังจดจ่อกับการพูดของคุณได้มากขึ้น

• ใช้รูปภาพแทน Bullet Points มีงานวิจัยเผยว่าหลังได้รับข้อมูลมาแล้วสักระยะหนึ่ง มนุษย์เราจะสามารถจดจำข้อมูลประเภทรูปภาพได้มากถึง 65% ในขณะที่ข้อความจะอยู่ที่ 10% เท่านั้น

• อย่ามองข้ามการใช้โทนเสียงและจังหวะการพูด เพราะสิ่งนี้จะช่วยดึงดูดให้ผู้ฟังตั้งใจฟังในสิ่งที่คุณกำลังถ่ายทอดอยู่ อีกทั้งการใช้โทนเสียงที่แตกต่างกันยังทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่าตรงไหนที่คุณต้องการอยากจะเน้นย้ำกับพวกเขา

• สร้างจุดเด่นให้ผู้ฟังรู้สึก “ว้าว” เพราะการสอดแทรกประสบการณ์ที่น่าประทับใจเข้ามาระหว่างการพรีเซนต์จะเป็นการสร้างความทรงจำที่ดีให้กับผู้ฟังและสามารถตรึงใจพวกเขาได้ในเวลาเดียวกัน

• ฝึกแล้วฝึกอีก เพราะยิ่งคุณฝึกซ้อมและปรับปรุงการพรีเซนต์ของคุณมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งนำเสนอได้อย่างเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น นำไปสู่การพรีเซนต์เป็นเลิศจนหัวหน้างานจะต้องซื้อไอเดียของคุณเลยทีเดียว

4. มีความเป็นผู้นำสูง

การเป็นผู้นำไม่ใช่สิ่งที่จำกัดอยู่เพียงแค่คนที่เป็นหัวหน้าเท่านั้น แต่พนักงานทั่วไปก็สามารถมีความเป็นผู้นำได้ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณกล้าตัดสินใจในเรื่องสำคัญต่าง ๆ กล้าที่จะริเริ่มคิดและลงมือทำสิ่งใหม่ ทั้งยังช่วยให้มีความกระตือรือร้นในการทำงานและการแก้ปัญหา คนที่มีความเป็นผู้นำจึงมักเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งสูง เพราะพวกเขาสามารถก้าวขึ้นไปเป็นผู้กำหนดทิศทางของทีมและองค์กรให้เติบโตอย่างมีคุณภาพได้ 

5. มีทักษะและความสามารถโดดเด่น

ความสามารถเป็นหนึ่งในใบเบิกทางที่จำเป็นสำหรับการเลื่อนตำแหน่ง และการที่คุณขัดเกลาทักษะที่จำเป็นต่อตำแหน่งและองค์กรให้โดดเด่นกว่าผู้อื่นได้ นั่นหมายความว่าโอกาสที่หัวหน้างานจะเล็งเห็นศักยภาพของคุณก็มีมากขึ้น เพราะพวกเขาจะเห็นความเป็นไปได้มากมายที่คุณจะนำความรู้และความสามารถนี้ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาองค์กร รวมถึงถ่ายทอดให้กับพนักงานใหม่ในอนาคต ดังนั้นการฝึกฝนทักษะและพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่เก่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนนำไปสู่การเลื่อนตำแหน่ง

6. ขยันและทุ่มเทกับการทำงาน

เบื้องหลังความสำเร็จในการเลื่อนตำแหน่งของใครหลายคนมักเกิดจากหยาดเหงื่อแห่งความทุ่มเทพยายาม ไม่เพียงแต่เรื่องของการพัฒนาทักษะที่จำเป็นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความรอบคอบและใส่ใจในคุณภาพของงาน และการมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ฝ่าฟันอุปสรรคที่ขวางหน้า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ การที่คุณเป็นคนที่ขยันและทุ่มเทให้กับการงานจึงเป็นหนึ่งในเครื่องการันตีว่าคุณจะสามารถตอบรับความคาดหวังขององค์กรได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคตจนมีโอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง
 

7. มองโลกในแง่ดี

กายพร้อมแล้ว ใจเองก็ต้องพร้อมด้วยเช่นกัน เพราะการที่จะได้เลื่อนตำแหน่งนั้นคุณจะต้องมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของคุณมากเพียงพอไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี ซึ่งการมองโลกในแง่ดีจะทำให้คุณมองเห็นปลายทางของความสำเร็จชัดเจนกว่าผู้อื่น ทำให้คุณไม่รู้สึกท้อแท้ในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากแค่ไหนก็ตาม การมองโลกในแง่ดีจึงเป็นเหมือนพลังใจที่จะทำให้คุณก้าวเดินไปต่อไปได้อย่างมั่นคงเพื่อเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ ในการทำงานและได้รับการเลื่อนตำแหน่งในที่สุด 

8. เป็นแบบอย่างที่ดี

เมื่อก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น สิ่งที่คุณจะต้องรับผิดชอบจะไม่ได้มีเพียงเรื่องงานอย่างเดียว แต่จะรวมถึงเรื่องคนด้วย ทีมคงไม่อาจประสบความสำเร็จได้หากไร้ต้นแบบที่ดีให้ดำเนินรอยตาม ดังนั้นการที่คุณมีความตั้งใจ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมายอย่างสม่ำเสมอ และเคารพกฎระเบียบขององค์กรจะช่วยสร้างแรงกระตุ้นเชิงบวกให้กับสภาพวาดล้อมในการทำงาน อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองให้กับเพื่อนร่วมงานอีกด้วย ดังนั้นคนที่มีลักษณะของการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่นจนเกิดการพัฒนาแบบองค์รวมได้ จึงมีโอกาสสูงที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง

ปัจจัยในการเลื่อนตำแหน่งไม่ได้พิจารณาเพียงแค่ผลงานและประสบการณ์ของพนักงานเท่านั้น แต่รวมไปถึงลักษณะนิสัยที่สำคัญที่จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับองค์กรและเอื้อประโยชน์ให้กับเพื่อนร่วมงานในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถฝึกฝนได้ผ่านการตั้งใจทำงานร่วมกับผู้อื่น เพียงเท่านี้เมื่อถึงการประเมินเลื่อนตำแหน่งครั้งต่อไปคุณก็จะมีคุณสมบัติที่เพรียบพร้อมมากขึ้นจนอาจเข้าตาหัวหน้างานให้เลือกคุณมาทำงานในตำแหน่งที่สูงขึ้นก็เป็นได้