Pamika Akudom |Company tours | 14 October 2022

ถอดบทเรียนพลิกเกมของสยามพิวรรธน์ สู่กลยุทธ์ Above the Ocean ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน บนกลยุทธ์ที่อยู่เหนือความเปลี่ยนแปลง


สยามพิวรรธน์ดำเนินธุรกิจอยู่คู่กับประเทศไทยมายาวนานกว่า 63 ปี ผ่านวิกฤติมาทุกรูปแบบ โดยเฉพาะย่านสยามซึ่งเป็นสมรภูมิทางการค้าและสมรภูมิทุกชนิด แต่สามารถนำพาธุรกิจของคู่ค้าและร้านค้าทั้งหมดให้ผ่านพ้นทุกวิกฤตด้วยดีมาได้ทุกยุคสมัย ในช่วงสถานการณ์โควิดสยามพิวรรธน์เองก็ได้รับผลกระทบมากมายไม่ต่างจากธุรกิจอื่นๆ แต่แน่นอนว่าประสบการณ์ที่สั่งสมมาได้กลายเป็นอาวุธครบมือที่นำพาธุรกิจให้ก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้มาได้อย่างสง่างามอีกครั้งหนึ่ง

การที่ผู้บริหารจะต้องประคับประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นทุกสถานการณ์เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่การพลิกเกมธุรกิจให้ก้าวไปสู่อนาคตได้เป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งกว่า แม่ทัพใหญ่แห่งกลุ่มสยามพิวรรธน์ ชฎาทิพ จูตระกูล ได้พิสูจน์ฝีมือในฐานะผู้นำที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่วิกฤติก็สามารถพลิกฟื้นทำกำไรให้กลับมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าวิกฤติโควิดครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน



นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เจ้าของและผู้บริหารโครงการที่มีชื่อเสียงระดับโลก อาทิ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ หนึ่งในพันธมิตรเจ้าของไอคอนสยาม และสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดเผยว่า

โควิดที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์กลับมองว่าเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ และได้ใช้ประสบการณ์ที่สั่งสมมาจากวิกฤตครั้งก่อนๆ ผนวกกับการตัดสินใจปรับตัวปรับองค์กรอย่างรวดเร็วทำให้สามารถรับมือครั้งนี้ได้ ส่งผลให้ผลประกอบการใน 9 เดือนแรกของปี 2565 เติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปี2562 ก่อนสถานการณ์โควิดทั้งๆ ที่ยังไม่มีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามา

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสยามพิวรรธน์ไม่ได้ตั้งเป้าอยากเป็นที่หนึ่งเรื่องของจำนวนศูนย์การค้า และไม่ได้ปรารถนาเป็นที่หนึ่งเรื่องการครองตลาดให้มีพื้นที่ที่มากที่สุด แต่สยามพิวรรธน์กลับใช้กลยุทธ์ Top of Mind 4 ด้านที่นำพาธุรกิจให้ยืนหยัดมาได้เสมอถึงวันนี้ ได้แก่:

ที่หนึ่งในใจผู้คน ไม่ใช่แค่เฉพาะคนไทยแต่เป็นของคนทั้งโลกซึ่งเป้าหมายนี้เป็นจริงได้เมื่อ สยามพารากอนติดอันดับ 6 บน Global Facebook เป็นสถานที่มีผู้เช็คอินมากที่สุดของโลก
และยังเป็นสถานที่ที่มีคนเช็คอินมากที่สุดบน Instagram ทุกศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ได้รับการโหวตจากนักท่องเที่ยวหลายประเทศว่าเป็นศูนย์การค้าที่พวกเขาชื่นชมมากที่สุดตลอดมา

ที่หนึ่งในใจคู่ค้า สยามพิวรรธน์ยึดมั่นในหน้าที่ที่ต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้คู่ค้าร้านค้านับหมื่นรายในศูนย์การค้าประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง มีบทพิสูจน์ว่าสามารถสร้าง traffic โดยรวมในศูนย์การค้าได้มากกว่า 100 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวมากกว่า 25 ล้านคน ส่งผลให้ร้านค้าหลายแบรนด์ที่เปิดสาขากับสยามพิวรรธน์มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และแบรนด์จากต่างประเทศก็มียอดขายติดอันดับ TOP 10 ของโลกเมื่อเปรียบเทียบกับสาขาอื่นๆ

เป็นที่หนึ่งในใจพันธมิตรทางธุรกิจ ศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์ไม่ใช่เพียงแค่ทำหน้าที่ค้าขายแต่ยังทำหน้าที่เป็นเวทีสร้างแบรนด์ สร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรมากมาย จับมือกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนสร้างต้นแบบธุรกิจใหม่ๆ ร่วมกันสร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมายให้แก่ลูกค้าของพันธมิตรต่างๆ ตลอดมา

เป็นที่หนึ่งของโลก เพราะศูนย์การค้าคือแม่เหล็กสำคัญที่เสริมสร้างอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เป็น shopping paradise ที่จะดึงดูดคนทั้งโลก สยามพิวรรธน์จึงมุ่งมั่นสร้างโครงการที่จะแข่งขันกับโครงการใหญ่อื่นๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความยอมรับนับถือในวงการศูนย์การค้าโลกและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย ทุกศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์จึงคว้ารางวัลที่หนึ่งจากองค์กรระดับโลกมากกว่า 40 รางวัลในสาขาต่างๆซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยมีศูนย์การค้าใดในประเทศและในภูมิภาคเอเซียได้รับรางวัลและเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากเช่นนี้

“เราไม่ได้มีศูนย์การค้าในหลายจังหวัดหรือทั่วประเทศแต่เรามีเพียง 4 ศูนย์การค้ากับอีก 1 Luxury Outlet Mall ที่ล้วนได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นที่ 1 ของโลกในสาขาต่างๆ จากองค์กรและสมาคมระดับโลกมากมาย อาทิ ด้านนวัตกรรมและการออกแบบ การปฏิวัติวงการค้าปลีกด้านการตลาดและสร้างประสบการณ์ระดับโลกการเป็นโครงการที่สนับสนุนธุรกิจรายย่อย SME ที่ดีที่สุด การเป็น green Leadership การพัฒนาความยั่งยืน และการสร้างจุดหมายปลายทางที่เป็นที่ปรารถนามากที่สุดของคนทั่วโลก ทั้งหมดนี้ตอกย้ำว่าคนไทยสามารถทำได้ และในวันนี้ผู้พัฒนาศูนย์การค้าในประเทศต่างๆ อยากเดินทางมาเพื่อเรียนรู้จากเรา”

“เป้าหมายในการทำธุรกิจของสยามพิวรรธน์มิใช่เพื่อเรื่องผลตอบแทนเท่านั้น แต่เราต้องสร้างมิตรภาพเหนือกาลเวลากับคู่ค้าและพันธมิตร รางวัลชีวิตของพนักงานของเรา คือ การที่ได้เป็นบ้านหลังที่สองของผู้คนดูแลและเติมเต็มความปรารถนาและประสบการณ์ชีวิตให้แก่ลูกค้าอย่างดีที่สุดในทุกสถานการณ์ และเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างความสำเร็จให้กับคู่ค้าและพันธมิตร
ด้วยกลยุทธ์และพันธสัญญาทั้งสิ้นนี้ ส่งผลให้ 7 ปีที่ผ่านมา สยามพิวรรธน์สามารถสร้างยอดขายเติบโตขึ้น 5 เท่า บริษัทย่อยของเราเติบโตจาก 32 บริษัทขึ้นมาเป็น 48 บริษัท ท่ามกลางวิกฤตโควิดเรายังสามารถเปิดธุรกิจใหม่ Siam Premium Outlets Bangkok ซึ่งเป็น luxury outlet mall แห่งแรกในประเทศไทยในกลางปี 2564 และพัฒนา Digital Platform ใหม่คือ ONESIAM SuperApp สำเร็จได้ภายใน 13 เดือน” นางชฎาทิพ จูตระกูล กล่าว

ความท้าทายภายหลังสถานการณ์โควิดเป็นสิ่งที่หลายองค์กรต่างขบคิดและเผชิญหน้าอยู่เช่นเดียวกับสยามพิวรรธน์ที่วางกลยุทธ์ใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว

ผู้บริหารสยามพิวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อ 10 ปีก่อนสยามพิวรรธน์ได้เล็งเห็นถึงแนวโน้มการถูก disrupt จาก digital evolution จึงปรับกลยุทธ์ให้ทุกศูนย์การค้าสร้างคุณค่าและประสบการณ์ที่แตกต่างแต่โดนใจ สร้าง emotional engagement ด้วยกลยุทธ์ emotional marketing อีกทั้ง ได้เริ่มทำ digital transformation ภายในบริษัทต่อเนื่องมา และสร้าง data bank ข้อมูลทั้งหมดสำเร็จในต้นปี 2022 เมื่อเกิดวิกฤตโควิดจึงพร้อมที่จะรับมือและสร้าง digital platform เพื่อบริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว จากนี้ไปสยามพิวรรธน์จะพลิกเกมใหม่ด้วยแนวคิด Rise above and
beyond คือ การสร้างกลยุทธ์ที่จะก้าวข้ามทุกความสำเร็จที่เคยทำ ได้ก้าวข้ามทุกการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่ว่าจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ดี และท้ายสุดคือ ก้าวข้ามทุกความท้าทายให้ได้

กลยุทธ์ใหม่ของสยามพิวรรธน์ คือ การเปลี่ยนจาก Blue Ocean Strategy ไปสู่ Above the Ocean Strategy ซึ่งก็คือกลยุทธ์ที่อยู่เหนือการเปลี่ยนแปลง โดยถอยตัวเองออกมาและมองธุรกิจในบริบทใหม่ ทำลายกรอบเดิมๆในการทำธุรกิจให้หมดสิ้นไป พร้อมสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆบนคุณค่าที่เป็นต้นทุนของเราอย่างไม่มีข้อจำกัด ดำเนินธุรกิจโดยปราศจากคู่แข่งแต่เปี่ยมไปด้วยพันธมิตร ร่วมกันสร้าง Ecosystem เพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าและยั่งยืนสร้างโลกใหม่ที่ไร้พรมแดน และเปี่ยมด้วยโอกาสหลากหลายมิติ

สิ่งที่สยามพิวรรธน์จะทำต่อไปภายใต้ Above the Ocean Strategy คือ การต่อยอดจากการสร้างคุณค่าไปสู่มูลค่า ด้วยการแบ่งปันประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่ทุกฝ่าย (Sharing Economy) ผ่าน ONESIAM SuperApp และ VIZ COINS ผนึกกำลังกับพันธมิตร (Co-Creation) สร้างประสบการณ์เหนือความคาดหมาย ทั้ง Physical Platform และ Digital Platform เพื่อขยายสู่การรองรับ Global Citizen ร่วมมือเพื่อเติบโตไปด้วยกัน (Collaboration To Win) โดยสร้างระบบนิเวศแห่งความสำเร็จร่วมกับ 50 พันธมิตร 13 อุตสาหกรรมที่ได้เริ่มทำงานร่วมกันแล้ว
สร้างความยั่งยืนผ่านทุกกระบวนการและในทุกธุรกิจที่ดำเนินการ (Sustainable Value In Process) เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันในทุกภาคส่วน ทั้งกับผู้คน สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ สร้างนิยามและบุกเบิกธุรกิจใหม่ทั้งในรูปแบบสินค้าบริการ และแพลตฟอร์มส่งเสริมให้เกิดโอกาสในการมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูและส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นหลังสืบต่อไป

“Above the Ocean Strategy ในแบบสยามพิวรรธน์จะทำให้เราสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนกับทุกภาคส่วน ทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวกสู่สังคมชุมชน สิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำประเทศไทยสู่ความยิ่งใหญ่บนเวทีโลก” ชฎาทิพ กล่าวทิ้งท้าย

Pamika Akudom

Senior Digital Marketing Specialist

I help businesses grow through marketing strategies that connect with the right talents. Passionate about digital innovation and creating campaigns that deliver measurable impact.

Pamika Akudom
close
Join WorkVenture for the newest job offers and company reviews