What's new | 19 June 2025

WorkVenture ยกทีมบุก TOYOTA Open House พร้อมเคลียร์ทุกคำถามคาใจของ Candidate รุ่นใหม่

เมื่อพูดถึง Open House หลายคนอาจนึกถึงการเดินทัวร์ออฟฟิศและฟังบรรยายไปเรื่อยๆ แต่สำหรับ TOYOTA จะให้ธรรมดาคงไม่ได้ เพราะในงาน TOYOTA Open House ครั้งนี้ คืองานนที่จัดให้ ผู้ที่ผ่านรอบแรกในการสัมภาษณ์สำหรับการเป็นพนักงานใหม่ของ TOYOTA ให้ได้มารู้จัก TOYOTA ในมุมที่ไม่เคยได้รู้มาก่อน

และในโอกาสสุดพิเศษนี้ WorkVenture ไม่เพียงแต่ได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศในงาน TOYOTA Open House ซึ่งจัดขึ้น ณ TOYOTA ALIVE เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เท่านั้น แต่ยังได้รับเกียรติให้แชร์ประสบการณ์ในฐานะตัวกลางระหว่างองค์กรและคนทำงานเพื่อตอบทุกความกังวลของว่าที่พนักงานโตโยต้าในอนาคต ในหัวข้อ "Your Degree Is Not Your Destiny" เอาเป็นว่า วันนี้ WorkVenture จะพาทุกคนไปล้วงลึกกันว่าแต่ละกิจกรรมภายในงานซ่อนบทเรียนอะไรไว้บ้าง


 

Ice breaking: ทักษะการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์

เริ่มด้วยกิจกรรม Ice Breaking อย่าง Fast Find Friends และ Talk Take Turns แต่เบื้องหลังความสนุกสนาน นี่คือ บททดสอบทักษะการสร้างความสัมพันธ์ (Rapport Building) และความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) ของทุกคน

ในองค์กรขนาดใหญ่อย่างโตโยต้า การสามารถสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานจากต่างแผนกได้อย่างรวดเร็วคือทักษะสำคัญ กิจกรรมนี้จึงไม่ใช่แค่การแนะนำตัว แต่คือการสังเกตว่าใครสามารถเริ่มต้นบทสนทนาได้ดี ใครเป็นผู้ฟังที่ดี และใครที่สามารถทำให้คนอื่นรู้สึกสบายใจที่จะพูดคุยด้วย การสลับกลุ่มอยู่เสมอ ยังเป็นการทดสอบความสามารถในการทำงานร่วมกับคนใหม่ๆ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องเจอในการทำงานจริง

 

โจทย์สุดท้าทาย "We Are Team": โชว์ความสามารถในการทำงานเป็นทีม

นี่คือไฮไลท์ของงานที่ให้ทุกคน สร้างรถยนต์และถนน จากทรัพยากรที่จำกัด โดยช่วยให้ทุกคนได้รู้จักและได้ทำงานร่วมกันเป็นครั้งแรก

ซึ่งความท้าทายไม่ได้อยู่แค่การสร้าง กิจกรรมนี้จึงเป็นมากกว่าเกมสนุกๆ แต่คือบทเรียนเรื่องการบริหารจัดการ การวางแผน การต่อรอง และการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด สะท้อนภาพการทำงานจริงที่ทุกโปรเจกต์มีข้อจำกัดด้านเวลาและงบประมาณ

กิจกรรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อจำลองโปรเจกต์การทำงานจริงที่ต้องอาศัยทักษะหลากหลายด้าน

  1. การบริหารจัดการทรัพยากร (Resource Management): ทุกทีมต้องบริหาร Budget ที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อแลกอุปกรณ์แต่ละชิ้น นี่คือการทดสอบการวางแผน การจัดลำดับความสำคัญ และการตัดสินใจภายใต้ข้อจำกัด ซึ่งเป็นหัวใจของการทำงานทุกโปรเจกต์
  2. การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (Problem-Solving): โจทย์ที่ว่า "รถยนต์ต้องวิ่งได้โดยห้ามใช้มือลาก" บีบให้ทุกทีมต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และทักษะทางวิศวกรรมเพื่อหาทางออก เมื่อรถวิ่งไม่ได้ หรือถนนพังกลางคัน ทีมต้องช่วยกันวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาทันที
  3. การทำงานร่วมกันข้ามสายงาน (Cross-Functional Collaboration): การแบ่งทีมออกเป็นส่วนย่อยที่ต้องสร้างชิ้นส่วนของตัวเอง แล้วนำมาประกอบกันในตอนท้าย คือการจำลองการทำงานระหว่างแผนก (เช่น ทีมออกแบบ, ทีมผลิต, ทีมการตลาด) ซึ่งต้องสื่อสารกันตลอดเวลาเพื่อให้เป้าหมายใหญ่สำเร็จลุล่วง
  4. ความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม (Leadership & Teamwork): ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครเป็นหัวหน้า กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้ Candidate ได้แสดงศักยภาพความเป็นผู้นำตามธรรมชาติ หรือความสามารถในการเป็นผู้ตามที่ดีที่พร้อมสนับสนุนทีมให้ไปถึงเป้าหมาย

 

WorkVenture Talk: “Your Degree Is Not Your Destiny” ตอบทุกคำถามที่ Candidate กังวล

หลังจากผ่านกิจกรรมสุดเข้มข้น ก็ถึงช่วงเวลาที่ WorkVenture ได้ขึ้นเวทีเพื่อไขข้อข้องใจให้กับชาว First Jobber ทั้งหลายที่กำลังจะก้าวเข้าสู่โลกการทำงานเป็นครั้งแรก

 

และนี่คือบางช่วงบางตอนของคำถาม–คำตอบสุดเข้มข้น ที่ทั้งลึก ทั้งจริง และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

Q1: กังวลว่าจะ Burnout จากงาน ทั้งที่เป็นคนเลือกงานนี้มาเอง ควรรับมืออย่างไร?

A: ภาวะ Burnout เปรียบเสมือน "ยาสามัญประจำบ้าน" ของคนทำงานที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน สิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทันอารมณ์ตัวเอง ใจเย็นๆ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ลองหาวิธีรับมือที่เหมาะกับตัวเอง การตระหนักรู้คือด่านแรกของการป้องกัน

Q2: ถ้าเรียนจบไม่ตรงสาย จะเรียนรู้งานช้ากว่าคนที่จบมาโดยตรงหรือไม่?


A: "Your Degree Is Not Your Destination" ปริญญาไม่ได้เป็นตัวกำหนดทุกอย่าง โตโยต้าเป็นองค์กรที่เปิดกว้างและให้โอกาส สิ่งสำคัญคือการเปิดใจและทำตัวให้เหมือน "ฟองน้ำ" ที่พร้อมซึมซับทุกประสบการณ์ใหม่ๆ ทักษะเฉพาะทางอาจเรียนรู้กันได้ แต่ทักษะอื่นที่คุณมีติดตัวมาอาจทำให้คุณพัฒนาไปได้ไกลกว่า

Q3: หากไม่มีประสบการณ์ในตำแหน่งที่สมัครเลย จะสัมภาษณ์ให้ผ่านได้อย่างไร?

A: สิ่งที่ต้องพกไปคือ "ความมั่นใจ" และ "ความตั้งใจจริง" ให้มองย้อนกลับไปในทุกกิจกรรมที่ทำในวันนี้ พี่ๆ ทีมงานคอยสังเกตและมองหาศักยภาพของคุณอยู่เสมอ เตรียมคำตอบให้ดีว่า "ทำไมคุณถึงสนใจงานนี้?" และ "ทักษะที่คุณมี จะนำมาช่วยพัฒนางานของเขาได้อย่างไร?" แม้ไม่มีประสบการณ์ตรง แต่คุณสามารถแสดงให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเรียนรู้ได้

Q4: กังวลว่าจะปรับตัวไม่ได้ ทำงานไม่ทันเพื่อน ควรทำอย่างไร?

A: การเรียนรู้เร็วหรือช้าไม่มีสูตรตายตัว ช่วงทดลองงานคือช่วงเวลาทองของการเรียนรู้ "ไม่เข้าใจให้ถาม ถามให้เยอะที่สุด" ส่วนการปรับตัว แนะนำให้เปิดใจกับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาจะช่วยลดความคาดหวังที่ไม่ตรงกัน และหากรู้สึกว่ายากจริงๆ สามารถปรึกษาฝ่าย HR ได้เสมอโตโยต้าคัดเลือกด้วยใจ มอง ‘ศักยภาพ’ เป็นหัวใจหลัก

นอกจากนี้ WorkVenture ยังได้แนะนำน้องๆ เกี่ยวกับการเพิ่ม Skill เพื่อเป็นไอเดียให้กับน้องๆที่ทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนมา ให้มองเห็นโอกาสและการเติบโตที่เป็นไปได้ที่ TOYOTA อีกด้วย

โตโยต้าคัดเลือกด้วยใจ มอง ‘ศักยภาพ’ เป็นหัวใจหลัก

ทุกกิจกรรมที่งาน TOYOTA Open House ในครั้งนี้ ได้ส่งสารที่ชัดเจนว่า ที่นี่กำลังมองหาคนที่มี "ศักยภาพ" รอบด้าน มีทักษะที่พร้อมจะเรียนรู้และปรับตัว ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความรู้ในตำราหรือสาขาที่เรียนจบมา เพราะในโลกการทำงานจริง ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา และการบริหารจัดการ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จไม่แพ้ความรู้ทางเทคนิคเลย 

นอกจากนี้ในช่วงบ่าย  Candidate ทุกคนก็ได้มีโอกาสได้เข้าร่วมเซสชันพูดคุยแบบเจาะจงกับตัวแทนจากแผนก ที่ตนเองสนใจโดยตรงได้อีกด้วย

ต้องบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่ภาพของ “อนาคตที่โตโยต้า” ชัดเจนที่สุด

ไม่ใช่แค่การถาม–ตอบแบบผิวเผิน แต่คือเวทีที่เปิดโอกาสให้ Candidate ได้ “ลงลึก” ถามในสิ่งที่อยากรู้จริง ทั้งเนื้องานจริง วัฒนธรรมทีม ความท้าทายที่ต้องเจอในแต่ละวัน รวมถึงเส้นทางการเติบโตในสายงานอย่างตรงไปตรงมา

ขณะเดียวกัน ตัวแทนจากโตโยต้าก็ได้เห็นถึง ความสนใจที่แท้จริง แพสชันที่ชัดเจน และความเข้าใจในเนื้องาน ของผู้เข้าร่วมแต่ละคนอย่างลึกซึ้ง

พูดได้เต็มปากเลยว่านี่คือหนึ่งใน Open House ที่ดีที่สุด ที่ทั้งสองฝ่ายได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง