Career advice | 22 July 2025

First Jobber Survival! เงินเดือนเท่านี้ จะอยู่รอดถึงสิ้นเดือนได้อย่างไร?

วินาทีที่ข้อความแจ้งเตือน "เงินเดือนเข้า" ดังขึ้นครั้งแรกในชีวิต คือหนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ความเหนื่อยล้าจากการทำงานตลอดทั้งเดือนหายไปทันที 

แต่ภาพฝันนั้นมักอยู่กับเราไม่นาน เผลอเพียงไม่กี่สัปดาห์หลายคนก็ต้องกลับมาสู่ความจริงอันโหดร้าย ทำไมใกล้สิ้นเดือนแล้วเงินในบัญชีเริ่มร่อยหรอ มีทั้งค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่ากาแฟ ไหนจะค่าช้อปปิ้งออนไลน์ที่ห้ามใจไม่ไหวอีก นี่คือความจริงที่ First Jobber แทบทุกคนต้องเผชิญ จนเกิดคำถามในใจว่า "เงินเดือนเท่านี้ เราจะอยู่รอดถึงสิ้นเดือนได้อย่างไรกัน"

ไม่ต้องกังวลไป ปัญหานี้เป็นเรื่องปกติของการเริ่มต้นบริหารเงินด้วยตัวเอง บทความนี้ WorkVenture มี "คู่มือเอาชีวิตรอด" ฉบับสมบูรณ์ที่ทำตามได้ง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณไม่เพียงแค่ "รอด" ถึงสิ้นเดือน แต่ยังมีเงินเหลือเก็บและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกด้วย

 


 

Mindset แรกที่ต้องมี: กฎเหล็ก "จ่ายให้ตัวเองก่อน"

 

นี่คือแนวคิดที่สำคัญที่สุดและเป็นรากฐานของการสร้างความมั่งคั่งที่คนประสบความสำเร็จทางการเงินทุกคนใช้กัน นั่นคือทันทีที่เงินเดือนเข้าบัญชี อย่าเพิ่งคิดว่าจะเอาไปจ่ายอะไรบ้าง แต่ให้คุณ "จ่ายให้ตัวเองก่อน" ด้วยการหักเงินออมออกไปเลยอย่างน้อย 10-15% แล้วโอนไปเก็บไว้ในบัญชีอื่นที่ถอนออกมาใช้ได้ยาก จากนั้นจึงค่อยนำเงินที่เหลือไปบริหารจัดการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

วิธีนี้จะการันตีว่าคุณจะมีเงินออมทุกเดือนแน่นอน มันคือการเปลี่ยนจากการ "รอให้เงินเหลือแล้วค่อยออม" ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่เหลือ มาเป็นการ "ออมก่อนแล้วค่อยใช้เงินที่เหลือ" นี่คือก้าวแรกสู่การสร้างอิสรภาพทางการเงิน

 


 

5 สเต็ปจัดการเงินให้ "รอด" และ “เหลือเก็บ”

เมื่อมี Mindset ที่ถูกต้องแล้ว ก็ถึงเวลาลงมือปฏิบัติด้วย 5 ขั้นตอนที่จะเปลี่ยนชีวิตการเงินของคุณไปตลอดกาล

สเต็ปที่ 1: รู้จักเส้นทางเงินของเรา - ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

ในช่วง 1-2 เดือนแรก ลองสวมบทนักบัญชีให้กับตัวเอง ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันทำบัญชีง่ายๆ แล้วจดบันทึกทุกการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ การทำแบบนี้จะทำให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่า "เงินของเราหายไปกับอะไรบ้าง" คุณอาจจะตกใจกับค่ากาแฟ ค่าชานมไข่มุก หรือค่าบริการสตรีมมิงต่อเดือนก็เป็นได้ การรู้ข้อมูลนี้คืออาวุธสำคัญที่จะทำให้คุณวางแผนในขั้นต่อไปได้ดีขึ้น

สเต็ปที่ 2: แบ่งเงินเป็นสัดส่วน - สูตรบริหารเงินยอดฮิต

เมื่อรู้แล้วว่าเงินหายไปไหน ก็ถึงเวลาจัดระเบียบการเงินด้วยการแบ่งเงินเดือนออกเป็นส่วนๆ ลองใช้สูตรยอดฮิตอย่าง 50/30/20

  • 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น: นี่คือเงินสำหรับสิ่งที่คุณ "ต้องจ่าย" เพื่อการดำรงชีวิต เช่น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร และบิลต่างๆ
  • 30% สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนตัว: นี่คือเงินสำหรับ "ความสุข" ของคุณ เช่น การช้อปปิ้ง ดูหนัง แฮงเอาท์กับเพื่อน หรือการให้รางวัลตัวเอง การมีงบส่วนนี้จะทำให้ชีวิตไม่ตึงเครียดเกินไป
  • 20% สำหรับอนาคต: นี่คือส่วนที่คุณ "จ่ายให้ตัวเองก่อน" เพื่อการออมและการลงทุน

สเต็ปที่ 3: เป็นนักล่าส่วนลดอย่างมืออาชีพ

ในยุคนี้ การจ่ายเงินราคาเต็มอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาดที่สุด ลองใช้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เพื่อช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า เช่น การใช้บัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืนหรือสะสมแต้ม การซื้อของออนไลน์ในช่วงโปรโมชันใหญ่ๆ หรือการมองหาส่วนลดสำหรับพนักงานตามร้านอาหารใกล้ที่ทำงาน เงินเล็กๆ น้อยๆ ที่ประหยัดได้ในแต่ละวันจะรวมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ในสิ้นเดือน

สเต็ปที่ 4: สร้าง "กองทุนฉุกเฉิน" และ "กองทุนเป้าหมาย"

เพื่อให้การออมเงินไม่น่าเบื่อและมีเป้าหมายที่ชัดเจน แนะนำให้แยกบัญชีเงินออมเป็น 2 ส่วน

  • กองทุนฉุกเฉิน: เป็นบัญชี "ห้ามแตะ" เด็ดขาด ควรมีเงินสำรองสำหรับใช้จ่าย 3-6 เดือน เผื่อกรณีตกงานหรือเจ็บป่วย การมีเงินก้อนนี้จะทำให้คุณรู้สึกมั่นคงและอุ่นใจอย่างมาก
  • กองทุนเป้าหมาย: เป็นบัญชีสำหรับเก็บเงินเพื่อเป้าหมายสนุกๆ เช่น ท่องเที่ยวญี่ปุ่น ซื้อของที่อยากได้ หรือลงเรียนคอร์สพิเศษ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้คุณมีกำลังใจในการออมมากขึ้น

สเต็ปที่ 5: เริ่มต้น "ลงทุน" ฉบับเด็กจบใหม่

หลายคนอาจคิดว่าการลงทุนเป็นเรื่องไกลตัวและต้องใช้เงินเยอะ แต่ความจริงแล้วเราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินหลักร้อยหรือหลักพันบาท ลองศึกษาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำอย่าง กองทุนรวมดัชนี (Index Fund) ที่เป็นการกระจายการลงทุนไปในหุ้นหลายๆ ตัว หรือ การออมทอง ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ การเริ่มต้นเร็วแม้จะด้วยเงินจำนวนน้อย คือการสร้างนิสัยการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยให้เงินของคุณเติบโตและเอาชนะเงินเฟ้อได้ในอนาคต

 


 

อีกขั้นของการสร้างความมั่นคง: เปลี่ยนทักษะเป็นรายได้เสริม
 

นอกจากการบริหารจัดการเงินเดือนให้ดีแล้ว อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ชีวิตการเงินของคุณคล่องตัวขึ้นอย่างมากคือ การหารายได้เสริม จากทักษะหรืองานอดิเรกที่คุณมี

  • คุณเก่งด้านภาษาหรือไม่: ลองรับงานแปลเอกสารเล็กๆ น้อยๆ
  • คุณวาดรูปหรือออกแบบเก่งหรือไม่: ลองเปิดรับงานออกแบบโลโก้หรืองานกราฟิก
  • คุณเขียนเก่งหรือไม่: ลองรับงานเขียนคอนเทนต์สำหรับเพจต่างๆ
    การหารายได้เสริมไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน แต่มันยังเป็นโอกาสให้คุณได้ฝึกฝนทักษะและสร้าง Portfolio ที่น่าสนใจ ซึ่งอาจนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในสายอาชีพหลักของคุณได้อีกด้วย

 


 

หลุมพรางที่ต้องระวัง: บัตรเครดิตและหนี้สิน


สำหรับ First Jobber บัตรเครดิตเปรียบเสมือนดาบสองคม มันมอบความสะดวกสบายแต่ก็อาจสร้างหนี้ก้อนโตได้โดยไม่รู้ตัว จงใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาดเพื่อรับสิทธิประโยชน์เท่านั้น และพยายามจ่ายเต็มจำนวนทุกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยที่แสนแพง

 


 

บทสรุป: วินัยทางการเงินคือ "อิสรภาพ" ในอนาคต

การบริหารเงินเดือนก้อนแรกอาจจะดูยากและต้องฝืนใจในช่วงแรก แต่ถ้าคุณเริ่มต้นสร้าง "วินัยทางการเงิน" ที่ดีตั้งแต่วันนี้ มันจะเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดที่จะมอบ "อิสรภาพทางการเงิน" ให้กับคุณในอนาคตได้อย่างแน่นอน ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบตั้งแต่วันแรก แค่เริ่มต้นลงมือทำก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้วครับ

close
Join WorkVenture for the newest job offers and company reviews