หลังจากฝ่าฟันเขียนเรซูเม่ให้โดนใจฝ่ายบุคคลแล้ว ขั้นต่อไปก่อนที่จะเข้าทำงานด่านแรกที่ทุกคนต้องเจอก็คือ “การสัมภาษณ์งาน” ซึ่งหากทำให้กรรมการประทับใจได้ในด่านนี้ คุณก็จะไปด่านต่อไปนั่นคือการทำงานจริง ซึ่งการสัมภาษณ์งานนั้นอาจจะไม่ได้มีแต่ฝ่ายบุคคลเท่านั้น แต่อาจจะมีหัวหน้าในอนาคตของคุณอยู่ด้วย แม้จะเป็นเวลาไม่นาน แต่คุณก็ควรที่จะทำช่วงเวลานี้ให้ดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่เสียใจภายหลัง 

การเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่าคนอื่นนั้นจะทำให้คุณมีโอกาสถูกเลือกมากกว่าคนอื่น WorkVenture อยากให้คุณใช้ความสามารถของคุณอย่างเต็มที่ และลอง 9 วิธีเหล่านี้ เพราะนี่จะทำให้กรรมการทุกคนประทับใจในตัวคุณมากยิ่งขึ้น ไปลุยกันเลย!

1. ฝึกฝนการพูดให้คล่อง

ก่อนจะถึงวันสัมภาษณ์จริงคุณควรจะฝึกตอบคำถามที่มักจะถามกันในวันสัมภาษณ์งาน เพราะการพูดคล่องนั้นแสดงให้เห็นว่าคุณเข้าใจในสิ่งที่พูดจริง ๆ เพราะคนที่ไม่เข้าในสิ่งที่พูดหรือกำลังโกหกอะไรบางอย่างมักจะมีพิรุจน์ในการพูด ดังนั้นลองฝึกพูดหน้ากระจกให้คล่อง วิธีการนี้ยังทำให้คุณได้ประเมินทัศนคติของตัวเองอีกด้วย


 

2. หาข้อมูลบริษัท

การสัมภาษณ์งานนั้นไม่ใช่ว่าบริษัทจะเป็นฝ่ายถามคุณเพียงอย่างเดียว แต่คุณเองก็จะต้องเป็นฝ่ายถามบริษัทด้วย ดังนั้นคุณจึงควรเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้มีเรื่องพูดคุยกับผู้สัมภาษณ์เกี่ยวกับบริษัท และคุณยังจะได้สอบถามข้อสงสัยเกี่ยวกับบริษัทในอนาคตของคุณ

3. ถามข้อมูลจากคนรู้จักที่เคยทำงานที่นั่นมาก่อน

หากบริษัทที่คุณกำลังจะไปสัมภาษณ์งานนั้นมีคนที่คุณรู้จักทำงานอยู่ คุณก็ควรลองถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร สวัสดิการและอื่น ๆ ที่เป็นข้อมูลวงใน จากคนที่เคยทำงานที่นั่นมาก่อน เพื่อตรวจเช็คให้ดีว่าที่คุณหาข้อมูลมา จริงๆ แล้ว เป็นข้อมูลเดิมหรือเปล่า และคนที่นี่ยังทำอะไรแบบนี้อยู่หรือเปลี่ยนแนวคิดไปแล้ว จะทำให้ HR รู้สึกได้ว่าคุณทำการบ้านมาอย่างดี

4. รู้จักการทำงานของตำแหน่งนั้นให้มากที่สุด

คุณกำลังจะไปสัมภาษณ์งานไม่ว่าจะตำแหน่งใดก็ตาม คุณควรรู้จักรายละเอียด หน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับตำแหน่งงานนั้นให้มากที่สุด เพราะคนที่กำลังจะจ้างงานคุณก็คาดหวังว่าการจ้างคุณเข้ามาทำงานนั้นจะช่วยแก้ปัญหาให้พวกเขาได้ ดังนั้นคุณต้องรู้ว่าตำแหน่งนั้น ๆ ต้องการทักษะใดแล้วพยายามพรีเซนส์ออกมาว่าคุณสามารถทำได้จริง ๆ

5. การทักทาย    

คุณไม่จำเป็นต้องฝึกไหว้ให้สวยแบบพรีเซนเตอร์โฆษณาก็ได้ แต่ต้องไม่ลืมที่จะไหว้คณะกรรมการเพราะคุณจะดูสุภาพ อ่อนน้อมถ่อนตน แต่ถ้าคุณไม่ได้สัมภาษณ์งานกับคนไทย และเขาต้องการจับมือ ก็ต้องจับโดยออกแรงหน่อย ทั้งสองอย่างนี้ให้ทำก่อนที่จะเริ่มแนะนำตัว

6. รอยยิ้มพิมใจ

อย่าลืมที่จะยิ้มตลอดเวลาตอบคำถาม แสดงให้เห็นว่าคุณมีความกระตือรือล้นและใส่ใจฟังในสิ่งที่กรรมการถาม แม้ว่ากรรมการสัมภาษณ์งานบางที่อาจจะไม่ยิ้มตอบคุณเพราะเขาสัมภาษณ์คนมาแล้วทั้งวัน แต่ก็อย่าลืมว่ารอยยิ้มเป็นภาษาสากลที่ใครเห็นก็ย่อมรู้สึกดี

7. เตรียมเรื่องไปเล่า

คุณไม่มีทางรู้เลยว่าผู้สัมภาษณ์จะถามอะไร บางทีเขาอาจจะมีคำถามแปลก ๆ เพื่อทดสอบอะไรบางอย่างหรืออาจจะให้คุณเล่าเรื่องเพื่อจะดูว่าคุณมีทัศนคติอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร และยังดูได้ว่าคุณมีประสบการณ์ในด้านใด แล้วช่วยเสริมสร้างทักษะให้คุณได้อย่างไร

8. แต่งตัวให้ถูกกาละเทศะ

ที่ทำงานแต่ละที่นั้นมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน การสวมเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายในวันสัมภาษณ์ก็ควรที่จะแต่งตัวไม่ถูกกาละเทศะตามแต่บริษัทนั้น ๆ เช่น บริษัทที่ผู้สัมภาษณ์ในสูทผูกเน็คไท เราก็ควรแต่งตัวเหมือนเขาด้วย แต่หากบริษัทนั้นไม่ได้แต่งตัวเป็นทางการ คุณก็ควรเลือกชุดสุภาพเพื่อเป็นการให้เกียรติผู้สัมภาษณ์ ซึ่งสีของเสื้อผ้าก็สำคัญเช่นนั้นเพราะถือเป็นสิ่งที่ทำให้กรรมการจดจำคุณได้

9. หน้าไม่ต้องเยอะ เครื่องไม่ต้องแน่น    

การสัมภาษณ์งานนั้นคุณควรจะลดปริมาณน้ำหอมลง ไม่ต้องฉีดจนฉุนเพื่อให้กรรมการจำกลิ่นของคุณได้  และลิปมันก็อาจจะทาบ้างป้องกันปากแห้ง ซึ่งเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตอบคำถามสัมภาษณ์งานโดยตรง แต่ก็ทำให้คุณดูดีได้
 

อย่าลืมว่าสุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณด้วย อย่าหลอกกรรมการว่าคุณมีความสามารถอย่างที่จริง ๆ คุณไม่มี ยิ่งถ้าคุณเป็นเด็กจบใหม่ด้วยแล้ว เพราะคุณไม่สามารถหลอกคนที่มีประสบการณ์ได้ และต่อให้คุณเข้าไปทำงานจริงได้ คุณก็จะเหนื่อยกับการทำงานกว่าปกติ และนอกจากสิ่งควรทำแล้วก็อย่าลืมระวังสิ่งที่ต้องระวังซึ่งเป็นนิสัยที่ HR ไม่ปลื้ม