Career advice | 10 October 2018

ลูกตุ้มของคนทำงาน

ผมเคยคุยกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เราแลกเปลี่ยนประเด็นเรื่องการตัดสินใจด้วยตัวเองในสถานการณ์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน การลงทุนในกองทุนหรือตลาดหุ้น แม้กระทั่งการเลือกที่จะสั่งกับข้าวในบางมื้อ เราทั้งสองสัมผัสได้ว่าสถานการณ์เกือบทั้งหมดในชีวิตประจำวัน น้อยมากที่เกิดจากการตัดสินใจของเราร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมีสิ่งเร้าทั้งจากความคิดคนอื่นและคนที่เกี่ยวข้องเต็มไปหมด

จนบางครั้งเราลืมคิดไปว่าความคิดและเหตุผลของเรามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าคนอื่นเหมือนกัน

เคยได้ยินเรื่องที่เหล่านักวิทยาศาสตร์กำลังประดิษฐ์ปากกาเพื่อนำไปเขียนในอวกาศไหมครับ?พวกเขาทุ่มทั้งเวลาและทุนมหาศาลเพื่อประดิษฐ์ปากกาด้ามแรกที่เขียนในอวกาศได้ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคุณป้าแม่บ้านคนหนึ่งฟังข่าวแล้วก็หงุดหงิดใจว่าทำไมต้องใช้เวลาและทุ่มทุนขนาดนั้น แม่บ้านคนนั้นจึงกดเบอร์ไปที่องค์การนาซ่าเพื่อแจ้งว่า ‘ถ้าใช้ปากกาไม่ได้ก็ใช้ดินสอสิ’

เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่แสดงถึงกึ๋นในการแก้ไขปัญหาจากผู้อื่น และเราต่างยกยอว่าคุณป้าคนนี้น่าจะมาทำงานในนาซ่าแทนกลุ่มคนที่กำลังประดิษฐ์ปากกาด้ามนั้น

นี่คือความรู้สึกนึกคิดจริงๆ ที่เราโอนเอียงไปอยู่ฝั่งคุณป้าแบบฉับพลัน โดยยังไม่ทันได้ตั้งคำถามต่อว่าทำไมพวกเขาต้องสร้างปากกาทั้งๆ ที่เขียนด้วยดินสอก็ได้นี่ พวกเขาไม่คิดจะตั้งสมมติฐานมาก่อนเลยหรือ

ความเอนเอียงของความคิดดังกล่าว ทำให้ผมนึกถึงตึกไทเป 101 ในประเทศไต้หวันครับ ถ้าใครเคยไปก็คงไม่พลาดที่จะเดินทางไปถ่ายรูปคู่กับตึกที่มีรูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่สวยงามน่าเก็บภาพเป็นที่ระลึกอย่างยิ่ง และที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือตัวตึกมีความสูงถึง 101 ชั้น ซึ่งความสูงระดับมักนี้มีข้อน่ากังวลคือการเอนเอียงตามแรงสั่นสะเทือนจากแรงลมและผืนดิน

ดังนั้น ตึกไทเป 101 จึงมีลูกตุ้มลูกยักษ์หนักถึง 660 ตัน คอยทำหน้าที่ให้เกิดความเฉื่อยที่จะต่อต้าน และชดเชยพลังงานจลน์ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่เอนไปมาของยอดตึก ทำให้หยุดความเสี่ยงจากการแกว่งและเอนเอียงของตึกที่อาจสูงขึ้น จากการเกิดแผ่นดินไหวหรือลมแรงที่พัดมาปะทะยอดตึกนั่นเองครับ

หากเปรียบเทียบว่าตึกนี้คือตัวเรา แรงสั่นสะเทือนของลมและแผ่นดินคงเหมือนกับสารและสิ่งเร้าจากคนรอบข้าง มีโอกาสสูงเหลือเกินที่เราจะเอนเอียงไปตามแรงสั่นสะเทือนจากความคิดของคนรอบข้างได้มากทีเดียว หากเราไม่มีความคิดเป็นของตัวเองที่ตั้งอยู่บนฐานของตรรกะ ข้อสงสัย การสังเกต และสมมติฐาน เหมือนลูกตุ้มบนยอดตึกไทเป 101 ลูกนั้นที่คอยแกว่งให้เกิดความเฉื่อย มีแรงต่อต้านไม่ให้ความคิดและตัวตนของเราเสียศูนย์จนมากเกินไป

การสนับสนุนความคิดของคุณป้าแม่บ้านที่แนะนำให้ใช้ดินสอในห้วงอวกาศไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะสถานะของคุณป้าที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเดินทางในอวกาศ แต่สามารถบอกทางเลือกที่น่าสนใจให้กับเหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ คุณป้าคนนี้ย่อมไม่ธรรมดา

แต่ถ้าเราลองใช้ลูกตุ้มความคิดแกว่งไปแกว่งมา ลองตั้งคำถามต่อการที่พวกเขาไม่ใช้ดินสอในการเขียนแทนปากกาในอวกาศนั้น เหตุผลอาจเป็นเพราะว่า…

ดินสอมีโอกาสที่ไส้จะหักได้สูงถ้าใช้น้ำหนักในการเขียนไม่ดี ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงได้มากกว่าระดับหนึ่ง และการจะนำกบเหลาไปเหลาดินสอในอวกาศ ก็อาจเป็นเรื่องที่เสียเวลานานโดยใช่เหตุ การเตรียมความพร้อมเรื่องเวลาควรจะถูกใช้ให้นานและมากที่สุดบนโลกที่เราควบคุมน้ำหนักและทิศทางได้อย่างสะดวก

นี่อาจเป็นอีกมุมที่เราไม่ได้ใช้ลูกตุ้มของความคิดอีกส่วนในตัวเองมาแกว่ง เพื่อให้ตัวเราเองได้เห็นแรงต้านต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับเหตุผลของจากอีกฝั่งหนึ่งที่เราอาจคิดไม่ถึง ซึ่งอาจเป็นความสนุกของการใช้แรงต้านภายใต้บรรทัดฐานเชิงตรรกะและความน่าจะเป็น

น่าเสียดายที่หลายช่วงเวลาเราไม่ได้สร้างลูกตุ้มส่วนตัวขึ้นมาต้านแรงลมหรือแรงสั่นสะเทือนจากสิ่งเร้าและข้อมูลจากคนรอบข้าง เราจึงมีอาการเอนเอียงและบางครั้งก็ล้มไปกับคนข้างๆ อยู่บ่อยครั้ง

อย่าเพิ่งเชื่อหรือโน้มเอียงไปกับอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่จะส่งผลกระทบต่อเราโดยตรง