LINE ประเทศไทย หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพมาแรง บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุด บริษัทหนึ่งในปีนี้ ไม่ว่าจะด้วยความน่ารักของคาแรกเตอร์ ความสนุกของแบรนด์ และการเติบโตของบริษัทที่เห็นได้ชัดจากการแตกไลน์การให้บริการเพิ่มเติมมากมายในปีนี้

ซึ่ง WorkVenture ได้มีโอกาสเข้าไปสัมภาษณ์พูดคุยกับ "คุณสุชาติ ภวสิริพร" Head of HR and GA LINE ประเทศไทย เพื่อพาคุณไปทำความรู้จักกับ "ตัวตน" ของ LINE ประเทศไทย แบบลงลึก ที่เรียกได้ว่าถ้าใครกำลังใฝ่ฝันอยากสมัครเข้าทำงานที่ Line ไม่ควรพลาด  เพราะข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณได้คำตอบอย่างชัดเจนว่า "ถ้าอยากร่วมงานกับ LINE ประเทศไทย ควรเตรียมตัวเองให้พร้อมได้อย่างไร ?"

คุณสมบัติในตัวผู้สมัครที่ LINE  มองหามีอะไรบ้าง ?

1. ในส่วนของ Hard Skills

เนื่องจาก LINE เองมีโปรดักซ์ที่หลากหลาย อาทิ เกม, อีคอมเมิร์ซ,  LINE TV, LINE MAN หรือจะเป็น Developer Team สิ่งที่เรามองหาอย่างแน่นอนเลยคือ ภาษาอังกฤษและ เรื่องของ Technical Skills ที่ต้องแมทช์กับงานที่จะทำ

2. ในด้านของ Soft Skills

อันดับแรกเลยที่สำคัญสำหรับคนที่อยากจะทำงานร่วมกับ LINE คือต้องมี

• Can-Do Attitude เนื่องจากธุรกิจ LINE มีการเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก เราจึงมองหาคนที่มีความ Flexible และ Can do Attitude ที่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วมาร่วงาน

• Passion ต่อแบรนด์และโปรดักซ์ของ LINE  คือต้องรักในโปรดักซ์ รักคาแรคเตอร์ของเรา

• มีความ Flexible สูง เนื่องจากธุรกิจของ LINE นั้นเป็นธุรกิจที่ปลี่ยนแปลงเร็วมากเราจึงมองหาคนที่มีความ Flexible สามารถปรับตัวได้รวดเร็วมาร่วมงานด้วย

• Creativity อีกส่วนคือบริษัทเราเป็นบริษัทที่ค่อนข้าง Creative เพราะฉะนั้นคนที่สามารถคิดนอกกรอบได้เยอะๆ เป็นบุคคลที่เรานั้นกำลังมองหา

• Teamwork ซึ่งผมเชื่อว่าทุกบริษัทแหละต้องการคนที่มีทักษะในด้านนี้นอกจากนั้นการมี ทัศนคติในการทำงานที่ดีก็อีกปัจจัยสำคัญ

"CEO ของเราพูดอยู่ตลอดว่า คนเราทำผิดพลาดได้ แต่อย่าทำผิดพลาดซ้ำ
และอยากให้ทุกคนที่ทำงานที่นี่นั้นกล้าที่จะลุยไปข้างหน้า"

เตรียมตัวสัมภาษณ์งานอย่างไร ถ้าไม่อยากพลาดงานที่ LINE ?

1. อย่างแรกเลยคือต้องทำการบ้านเกี่ยวกับบริษัทเรามาพอสมควร

การบ้านที่ว่าก็ เช่น จำนวนผู้ใช้งานของเรา บริการของเรามีอะไรบ้าง คาแรคเตอร์ของเรามีอะไรบ้าง ชื่ออะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้จะทำให้เห็นความสนใจของโปรดักท์เรา ว่าคุณรักและสนใจในโปรดักท์ และเซอร์วิสของเรา

2. อย่าเฟค ต้องเป็นตัวของตัวเอง

เพราะถ้ามาเฟค อย่างไรก็ไม่สำเร็จหรอก อาจจะหลอก HRหรือเมเนเจอร์ได้สำเร็จ แต่ในการทำงานจริง ในระยะยาว ก็อาจจะทำงานไม่ได้ก็ได้

3. มี Corporate Core Value 

ก็คือ ทำอะไรก็แล้วแต่ต้องคิดถึงคำว่า WOW (Way Of Work) ซึ่งมีอยู่ 6 ข้อคือ

• Needs ก็คือเราต้องดูว่า Users ของเราต้องการอะไร และเราทำตามเพื่อตอบโจทย์เค้า

• Speed คือ เราจะทำอะไรต้องเร็ว คิดแล้วลงมือทำเลย

• Detail ซึ่งจะมาพร้อมกับอันดับต่อไปคือ

• Data เพราะเราเชื่อว่า Data Never Lies ซึ่ง ก่อนจะมี Data ได้ เราต้องรู้ถึง Detail เราเชื่อว่า ก่อนจะทำอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะไปขายงานกับลูกค้า​ หรือต่อรองลูกค้า หัวใจสำคัญที่จะทำให้สำเร็จคือสองสิ่งนี้

• Teamwork เราเชื่อว่า 1+1=11 คือคนๆเดียวไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้

• Enjoy เป็นสิ่งที่ทางองค์กรนั้นให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าพนักงานทำงานแล้วรู้สึกว่ามี Passion กับตัวโปรดักท์และบริษัทและสนุกสนานไปกับการทำงาน​ สิ่งนี้จะทำให้พนักงานเข้ากับวัฒนธรรมองค์กรที่นี่ได้​

คิดอย่างไรกับคำพูดที่ว่า “คนรุ่นใหม่เปลี่ยนงานบ่อย ไม่อดทนกับงาน”

จริงๆแล้ว มันไม่เกี่ยวเลยว่าจะเป็นคนรุ่นไหน ปัญหาในแต่ละรุ่นมันก็เหมือน ๆ กัน มันอยู่ที่ว่าองค์กรให้อะไรให้กับคนทำงาน ถ้ามอบหน้าที่การงานที่ใช่สำหรับพวกเค้า ที่เค้ารู้สึกว่ามันท้าทาย สามารถเติบโตไปได้ สามารถใช้ความรู้ความสามารถได้อย่างเต็มที่ เค้าก็จะรักในสิ่งที่เขาทำและไม่ไปไหน ทาง LINE เองก็มีเด็กที่อยู่กับเราตั้งแต่จบใหม่ ๆ จนถึงปัจจุบันนี้ที่เค้าก็เติบโตไปพร้อม ๆ กับเรา

กลยุทธ์ในการสร้างความสุขในการทำงานให้กับพนักงาน

เนื่องจากธุรกิจเราค่อนข้างใหม่ในตลาดประเทศไทย เพราะฉะนั้น คนๆหนึ่งจะไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่อย่างเดียว และความที่เค้าได้ทำหลายๆอย่าง (Multi-Tasking) ที่ถูกผลักดันด้วยความท้าทายอยู่ตลอดเวลา ก็เป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะทำให้พนักงานนั้นมีแรงกระตุ้นในการทำงานและอยากจะเติบโต ไม่อยู่กับที่

ฝากอะไรให้กับคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการทำงาน

อยากให้ทุกคนเชื่อในการเติบโตไปพร้อมกับบริษัทที่ตัวเองทำ ไม่อยากให้คิดแค่ว่าการทำงานในองค์กร ๆ หนึ่ง องค์กรนั้นจะให้อะไรกับตัวเขา แต่ให้คิดว่าตัวเขาจะสามารถให้อะไรกับองค์กร และเด็กรุ่นใหม่ที่มีแรงขับที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่าง แต่บางที ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ เขาอาจจะค่อนข้างมุทะลุ และไม่ค่อยฟังคนที่มีประสบการณ์ ซึ่งจริง ๆ แล้ว การฟังไม่ใช่สิ่งที่ผิด และยังเป็นเรื่องที่สำคัญมากด้วยเช่นกัน