ในการทำงานจะมีช่วงเวลาที่ต้องเครียด กดดันและไม่มีความสุขเป็นธรรมดา ซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกว่ามีความรู้สึกอยากลาออกจากงานเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ แต่ทั้งนี้คุณก็ไม่ควรที่จะรีบตัดสินใจลาออกจากงานทีที่อยากจะออก บางทีการปรึกษากับหัวหน้างานก็เป็นทางเลือกที่ดี มาดูกันว่ากรณีใดบ้างที่ควรปรึกษาหัวหน้างานและกรณีใดบ้างที่คุณควรจะตัดสินใจอย่างที่คุณต้องการ

ควรบอกเมื่อ?

1. เมื่อบอกได้ว่าปัญหาคืออะไร

เมื่อเกิดปัญหาขึ้นและคุณสามารถระบุได้ว่าปัญหาและความเครียดที่คุณได้รับเกิดจากอะไรและคุณจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้อย่างไรแต่คุณไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหานั้นได้ด้วยตัวของคุณเอง แต่ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากหัวหน้า งานนี้คุณก็ควรที่จะเข้าไปบอกกับหัวหน้าว่าอะไรที่กำลังทำให้คุณไม่สบายใจในการทำงาน ซึ่งคุณควรที่จะแสดงความคิดเห็นด้วยว่าอะไรที่จะช่วยทำให้ความกังวลของคุณหมดไป เพื่อให้หัวหน้าสามารถนำไปจัดให้ดีขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากช่วงนี้คุณรู้สึกว่างานหนักเป็นพิเศษในช่วงนี้หรือไม่สามารถทำงานให้เสร็จได้ทันกำหนด คุณก็อาจจะปรึกษาเกี่ยวกับวิธีการทำงานหรืออาจจะเสนอตารางการส่งงานใหม่เพื่อให้หัวหน้าพิจารณา

2. เมื่อแน่ใจว่าหัวหน้าจะช่วยได้จริงๆ

ในบางกรณีคุณอาจจะรู้ว่าอะไรที่ทำให้คุณไม่มีความสุขแต่คุณอาจจะไม่รู้ว่าจะต้องแก้ปัญหาให้ดีขึ้นได้อย่างไร ซึ่งคุณควรคุยกับหัวหน้าเพื่อให้เขาช่วยเหลือ เพราะหัวหน้างานอาจจะเป็นคนที่ใกล้ชิดคุณและสามารถทำงานได้อย่างดีและสามารถให้คำแนะนำที่ดีและแนวทางแก้ไข โดยเฉพาะอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการทำงานหรืองานยากๆ เรื่องที่เกี่ยวกับออฟฟิศ เพื่อนร่วมทีม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่อยู่ในความควบคุมของหัวหน้างาน

3. เมื่อบริษัทให้อิสระในการพูดคุย

ก่อนที่จะพูดถึงปัญหาเกี่ยวกับการทำงานควรดูก่อนว่าลักษณะการทำงานในบริษัทของคุณเป็นอย่างไร ถ้าหากบริษัทมีวัฒนธรรมองค์กรที่พูดคุยเรื่องราวต่างๆ กันอย่างเปิดเผยหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ กันอยู่เสมอ ทั้งนี้ยังมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างฝ่ายบริหารกับพนักงาน บริษัทเหล่านี้มักจะยินดีกับการรับความคิดเห็นเพื่อนำไปปรับปรุงมากกว่าที่จะรอรับใบลาออกจากพนักงาน

ไม่ควรบอกเมื่อ?

1. เมื่อปัญหาเกิดจากตัวคุณเอง

เมื่อคุณรู้ตัวดีกว่าปัญหาที่นำไปสู่อารมณ์ไม่มีความสุขของคุณนั้นมาจากตัวคุณเอง เช่น ปัญหาที่บ้าน ปัญหาส่วนตัว จนทำให้ไม่มีจิตใจจะไปทำงาน กรณีแบบนี้คุณอาจจะไม่ต้องบอกหัวหน้างานเพราะถือว่าเป็นปัญหาส่วนตัวของคุณ ยิ่งถ้าหากบอกคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาจะยิ่งทำให้ปัญหาใหม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่น คุณรู้ดีกว่างานที่กำลังทำอยู่ไม่ใช่งานที่คุณชอบและก็ไม่ได้ตอบโจทย์หลายๆ อย่างในชีวิต ทางออกอาจจะไม่ใช่การพูดคุยกับหัวหน้าแต่เป็นการมองหางานใหม่มากกว่า

2. เมื่อเป็นเรื่องกฎเกณฑ์ของบริษัท

ถ้าหากว่าที่ทำงานมีเวลาเข้างานชัดเจนว่า 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นมาเป็นเวลานานก่อนที่คุณจะเข้ามาทำงาน และการเซ็นชื่อยอมรับข้อตกลงก็แสดงว่าคุณยอมรับกับระเบียบข้อบังคับแล้ว ดังนั้นหากคุณอยากที่จะทำงานจากบ้าน หรือขอเวลาทำงานแบบยืดหยุ่น สิ่งที่คุณทำได้คงไม่ใช่การเรียกร้องให้บริษัทเปลี่ยนแปลงนโยบายตรงนี้ แต่เป็นการมองหางานใหม่ที่ตอบโจทย์เกี่ยวกับเงื่อนไขการทำงานของคุณน่าจะเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า

3. เมื่อหัวหน้าไม่ชอบรับฟังความคิดเห็น

เมื่อไม่สบายใจ เราต่างก็ต้องการคุยกับใครสักคนที่รับฟัง ยิ่งเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงานด้วยหัวหน้าย่อมเป็นบุคคลแรกๆ ที่พนักงานต้องการจะปรึกษาด้วย แต่ถ้าหากว่าหัวหน้าของคุณเป็นคนที่ไม่รับฟัง ซ้ำร้ายยังไม่มีความยุติธรรมและเป็นกลางในการให้ความคิดเห็น การนำปัญหาของคุณไปปรึกษาด้วยย่อมเป็นการเสียเวลาเพราะคุณจะไม่ได้ความคิดเห็นดีๆ กลับมาอย่างแน่นอน