เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่ออำนวยความสะดวกสบาย และทำให้ทุกคนมีชีวิตที่ง่ายขึ้น ธุรกิจที่น่าจับตามองเป็นอันดับต้น ๆ ในขณะนี้คงต้องยกให้ธุรกิจด้านการเงิน การธนาคารเลย เพราะตอนนี้ใคร ๆ ก็ทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถือกันทุกวันทั้งนั้น โดยวันนี้ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb ธนาคารที่มีพันธกิจหลักในการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งวันนี้และอนาคต ได้ตั้งใจปลุกปั้น ttb spark ซึ่งเป็นทีมงานดิจิทัลคุณภาพที่จะมาเสริมศักยภาพ และร่วมพัฒนาสร้างสรรค์ดิจิทัลโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิด Humanized Digital Banking ดิจิทัลที่เป็นมิตร รู้จัก และรู้ใจลูกค้าเป็นที่สุด หากพร้อมแล้ว WorkVenture จะขอพาทุกคนไปรู้จัก ttb spark ให้มากยิ่งขึ้น ว่าที่นี่จะมีความท้าทายและโอกาสอะไรรอคุณอยู่ ไปติดตามกันได้เลย!

ttb spark คือใคร และทำอะไร?

ttb spark คือ Digital Hub ของ ttb ที่มีความเชื่อและความมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับชีวิตของลูกค้า ผ่านดิจิทัลเทคโนโลยีและไอเดียที่สร้างสรรค์ โดยไม่ยึดติดกับกรอบความคิดเดิม ๆ กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นจริง โดยที่ ttb spark นั้นจะเน้นการทำงานแบบ Agile เพื่อพัฒนาโซลูชัน บริการ รวมไปถึงนวัตกรรมดิจิทัลที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ลูกค้าของเรามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง

จุดเริ่มต้นของ ttb spark?

เริ่มต้นจาก ttb มี DNA ในเรื่องการคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การเปลี่ยนแปลงเสมอ และพัฒนามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการหาโซลูชันทางการเงินที่แตกต่าง และมีประโยชน์กับลูกค้าอย่างแท้จริง ผ่านการพัฒนาแอปพลิเคชันมากมายไม่ว่าจะเป็น แอป ttb touch, แอป ttb business one ฯลฯ 
จนถึงวันนี้ ttb spark ต้องการสร้าง Digital Hub รูปแบบใหม่ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพนักงานปัจจุบัน และพนักงานรุ่นใหม่ เพื่อต่อยอดบริการที่ตอบโจทย์ชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดี และเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยใช้แนวทางการเปลี่ยนแปลงจากภายในสู่ภายนอกเพราะในอดีต ttb เติบโตมาจากธนาคารขนาดกลางที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้ง จึงทำให้เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงจากภายในจะเกิดขึ้นได้จากองค์ความรู้ และความเข้าใจอย่างแท้จริงผ่านการคิดจากมุมมองลูกค้า

คุณรัชกร ชยาภิรัต หัวหน้าทีมดิจิทัล ttb spark (Head of ttb spark) ได้กล่าวถึงการทำงานที่นี่ว่า “เมื่องานเกิดความผิดพลาดเรายอมรับและแชร์ให้กับเพื่อนร่วมงาน เพื่อที่จะได้เรียนรู้และไม่ให้ทำพลาดอีก”จะเห็นได้ว่าที่ ttb spark เปิดกว้างทางความคิด ทำให้พนักงานทุกคนไม่กลัวที่จะลองสิ่งใหม่ ๆ พร้อมทั้งยังสนับสนุนที่จะให้ทุกคนได้เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและมีโอกาสได้เติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่มีความกล้า และต้องการโอกาสแสดงความสามารถของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ จากความเชื่อเดียวกันของทีมงานที่สามารถ “จุดไอเดียให้ทุกสิ่งเป็นจริงได้” หรือ “Spark New Possibilities” ที่พร้อมจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น ผ่านการทำงานโดยยึดหลัก D-A-R-E DNA ที่ประกอบไปด้วย
 

1) Daring คือ กล้ายืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ กล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า
2) Agile กล้าล้ม ลุกเร็ว เพื่อเรียนรู้ และพัฒนาให้เร็วกว่า
3) REAL ทุกสิ่งที่ทำ จับต้องได้จริง
4) Energetic เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และสนุกกับการได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่

โดยปัจจุบัน ttb spark เป็นการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างทีม Business และทีม Technology ประกอบด้วย Product Owner, Business Analyst, UX/UI, Solution Architect, Software Engineer และ Quality Assurance เรียกว่า BizTech ที่เสมือนการรวมทีมทำงานไว้ตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน จึงทำให้ BizTech เข้าใจ และเข้าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของลูกค้าได้ ซึ่งทุกคนมีเป้าหมายเป็นหนึ่งเดียวกันคือ การพัฒนาดิจิทัลโซลูชันสำหรับทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าธุรกิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการทำงานแบบรวดเร็วและพร้อมรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งจุดนี้เอง ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของทีมดิจิทัล ttb spark

ทั้งนี้ ttb spark ยังมีทีมงานที่โฟกัสเรื่องการพัฒนาแอปพลิเคชัน ttb touch ให้สามารถตอบโจทย์การให้บริการทางการเงินในแบบ “เฉพาะตัว” (Personalized) หรือตามความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละคนได้มากขึ้น โดยฟีเจอร์เด่นได้แก่ การรวบรวมและจัดระเบียบเอกสารทางการเงินไว้บน ttb touch ให้การค้นหา เรียกดู และขอเอกสาร เช่น เอกสารรับรองสถานะการเงิน และข้อมูลเครดิตบูโร ให้สามารถทำได้ง่าย พร้อมกับรวบรวมสิทธิประโยชน์ในระดับบุคคล อาทิ เลือกสรรแคมเปญโปรโมชันที่เหมาะสำหรับลูกค้า และยังมีบริการอื่น ๆ อีกมากมายที่จะช่วยทำให้ชีวิตของผู้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น 

นอกเหนือไปจากเรื่องธุรกรรมทางการเงิน แอปพลิเคชัน ttb touch ยังได้ยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานด้วยการอัปเกรดระบบอย่างต่อเนื่อง เช่น ป้องกันการใช้โปรแกรมควบคุมอุปกรณ์จากภายนอก มีระบบตรวจสอบการติดตั้งแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยงและป้องกันเปิดการใช้งานการเข้าถึงแบบพิเศษ (Accessibility) ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีจากมัลแวร์ (Malware) และแอปดูดเงิน และยังมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุมในด้านอื่นอีกเช่นกัน เช่น  ฟีเจอร์ ‘My Car’ ให้ลูกค้าสามารถบริหารจัดการเรื่องเกี่ยวกับรถ เช่น การจ่ายค่างวดสินเชื่อรถ ต่อประกัน รวมไปถึงการขายรถ และการหาซื้อรถคันใหม่มาทดแทน ซึ่งเป็นการต่อยอดการเป็นผู้นำสินเชื่อรถยนต์ โซลูชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ ผู้ขาย และผู้ให้บริการต่าง ๆ ทั้ง Ecosystem รวมถึงยังมี ‘My Tax’ ให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องภาษีที่แสนปวดหัวได้ง่ายขึ้น วางแผนประหยัดภาษีล่วงหน้า พร้อมยื่นแบบ จัดเก็บเอกสารและติดตามสถานะได้อย่างสะดวก ttb touch ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของธนาคารที่จะมาช่วยตอบโจทย์ และเป็นประโยชน์กับลูกค้าได้อย่างรอบด้านและยั่งยืน

และสำหรับผู้ที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน ttb spark จะได้ร่วมส่งมอบประสบการณ์ให้กับลูกค้า และเผชิญกับความท้าทาย ที่จะช่วยอัปสกิลความสามารถให้เก่งขึ้นแบบไม่มีอะไรมาขวางกั้น และมีโอกาสทำงานแบบใกล้ชิดกับพี่ ๆ มืออาชีพที่จะร่วมพัฒนาแพลตฟอร์ม และเครื่องมือต่าง ๆ พร้อมทั้งสนับสนุนให้คุณได้เป็นเจ้าของโปรเจ็กต์ของตัวเอง อีกทั้งมีส่วนร่วมในการกำหนดเส้นทางการทำงานของแต่ละโปรเจ็กต์ ที่ทุกคนจะได้ลงมือทำจริง 

คุณพิลาศิณี พันธุ์ไชยศรี Product Owner ของทีม Beyond Banking – Car Owner Ecosystem กล่าวถึงความประทับใจในการทำงานที่ ttb spark ว่า “การทำงานที่นี่เน้นการทำงานแบบ Agile ที่ทำให้เราพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ttb spark ยังเปิดโอกาสให้ได้เสนอไอเดียใหม่ ๆ ตลอดเวลา โดยมีทีมที่พร้อมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ทำงานที่แปลกใหม่ และมีความ Challenge อยู่เสมอ ทำให้การทำงานที่นี่ไม่รู้สึกเบื่อเลย”

คุณพิลาศิณี ยังได้เล่าถึงความประทับใจในการทำงานจริง “อย่างการทำงานที่ ttb spark จะมีทีมนึงที่เรียกว่า Beyond Banking ที่เราจะสร้างดิจิทัลโซลูชันที่เป็นมากกว่าการทำธุรกรรมทางการเงินทั่วไป  เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า อย่างเช่น My Car ที่เราตั้งใจทำให้เป็น Ecosystem สำหรับคนใช้รถยนต์ ที่จะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับรถทั้งหมดอยู่ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นเช็กยอดเงินในบัตร Easy Pass ซื้อและดูรายละเอียดประกันรถยนต์ พร้อมแจ้งเตือนก่อนประกันหมดอายุ ขอสินเชื่อรถยนต์เพิ่มเติม ขายรถยนต์ผ่านลานประมูล เช็กราคาน้ำมัน ก็สามารถทำได้หมดเลย โดยที่ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องรถ ครบ จบ ใน My Car บนแอป ttb touch ที่เดียว โดยไม่ต้องไปตามหาฟีเจอร์ต่าง ๆ จากแพลตฟอร์มอื่น การทำงานที่นี่จึงช่วยทำให้เรามองอะไรรอบด้าน และพยายามคิดโซลูชันใหม่ ๆ มาให้ลูกค้าได้อยู่ตลอด เรียกว่าเป็นความท้าทายทั้งตัวเราและทีมมาก ๆ เลยที่จะต้องคิดและตื่นตัวในการทำงานอยู่ตลอดเวลา”

คุณพิลาศิณี แนะนำเพิ่มเติมว่า ttb spark กำลังมองหาคนแบบไหน มาร่วมทีม “เราต้องการตามหาคนที่มองหาความท้าทาย ไม่หยุดนิ่ง คนที่อยากสนุกกับงานที่ทำ คนที่จะมีความสุขเวลาที่ได้เห็นงานของเราได้ออกไปให้ลูกค้าได้ใช้งานจริง และเกิดประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าจริง แต่ไม่ว่าจะเป็นคนแบบไหน ถ้าเรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน แค่นี้ก็สามารถมาร่วมงานด้วยกันได้แล้วค่ะ”

มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าทุกคนน่าจะพอรู้จักและเห็นภาพการทำงานจริง รวมถึงเข้าใจวัฒนธรรมองค์กรของ ttb spark มากยิ่งขึ้น ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความหลงใหลสายงาน  FinTech ไม่จำเป็นต้องจบสาย Tech หรือ Data เท่านั้น แค่มีความเชื่อและกล้า พร้อมมุ่งมั่นและกำลังมองหาโอกาสที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชีวิตทางการเงินของคนไทยดีขึ้น เชื่อว่าที่นี่จะตอบโจทย์ให้คุณได้อย่างแน่นอน !

แล้วคุณล่ะ กล้าพอที่จะมาเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับ ttb spark ไหม? 

ttb spark เปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ที่มองหาความท้าทายได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม ที่จะจุดประกายทุกสิ่งให้เป็นจริงได้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ttbspark.com

#ttbspark #SparkNewPossibilities

#ให้ชีวิตการเงินดีทั้งวันนี้และอนาคต

#เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น

#ttb #MakeREALChange