What's new | 2 November 2022

ชวนมาสัมผัสการทำงานที่ลงตัวในแบบ "มิตรผล"


สถานที่ทำงานเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังหนึ่งของคนทำงานแบบเรา ๆ เพราะใน 1 วันเราใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในที่ทำงาน สถานที่ทำงานจึงกลายเป็นทั้งที่ทำงาน ที่ทานข้าว ที่พบปะเพื่อนร่วมงาน และจะดีเพียงใด หากที่ทำงาน มีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนประสิทธิภาพในการทำงานคนรุ่นใหม่ได้อย่างเต็มที่ แม้ว่าในยุคโควิด-19 นี้เราจะต้องหันมาทำงานที่บ้านกันมากขึ้น แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าที่ทำงานยังคงมีส่วนสำคัญต่อชีวิตคนทำงานอยู่ดี แล้วที่ทำงานที่ดีจะได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับการทำงาน ทั้งเรื่องช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ หรือช่วยให้งานเสร็จได้ไวขึ้น 

หนึ่งในองค์กรที่ให้ความใส่ใจเรื่องของการทำงานอย่าง “มิตรผล” จึงมีการออกแบบสถานที่ทำงานให้เหมาะสมต่อการใช้งานของพนักงาน ซึ่งไม่เพียงแต่ออฟฟิศในกรุงเทพเท่านั้น รวมถึงพื้นที่ในจังหวัดอื่น  ในวันนี้ WorkVenture จึงขอแนะนำให้เพื่อน ๆ ดูกัน

ออฟฟิศในแบบมิตรผล 

    เวลาที่พูดถึงมิตรผลทีไรคนมักจะนึกถึงโรงงานผลิตน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วมิตรผลมีโซนออฟฟิศที่ใช้ในการบริหารงานซึ่งมีความโดดเด่นไม่แพ้กัน โดยในส่วนของออฟฟิศนั้นได้รับการออกแบบมาให้มีความทันสมัย ดูโมเดิร์น มาพร้อมกับฟังก์ชันในการทำงานที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของห้องประชุม หรือห้องเทเลพรีเซนต์ ซึ่งเป็นห้องประชุมทางไกลแบบได้ยินทั้งเสียง เห็นทั้งหน้า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศหรือทั่วทุกมุมโลกก็สามารถมาประชุมพร้อมหน้าพร้อมตากันได้ ทั้งนี้มิตรผลได้จัดเตรียมห้องประชุมสุดทันสมัยเอาไว้ตั้งแต่ก่อนจะมีโควิดแล้ว เพราะว่าที่มิตรผลนั้นไม่ได้มีแค่โรงงานในต่างจังหวัด ในประเทศไทยเท่านั้น แต่มิตรผลยังมีโรงงานในประเทศจีน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และประเทศอื่นอีกด้วย ทำให้มีความพร้อมมาก ๆ ในการประชุมหารือการทำงานร่วมกัน 

    ห้องทำงานของพนักงานที่มิตรผลมีความเปิดกว้าง เพื่อส่งเสริมการพูดคุยและทำงานร่วมกัน (collaboration)  สามารถเดินไปมาหากันได้ หรือจะคุยงานกันตอนเวลาใดก็ได้ เมื่อทำงานเครียด ๆ ต้องการพักผ่อน ที่มิตรผลก็มีมุมกาแฟและเครื่องดื่มให้พนักงานสามารถมานั่งคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนหาไอเดียใหม่ๆ ไม่ต้องไปนั่งตามร้านกาแฟเลย โดยถ้าตอนเช้าง่วงนอนจะดื่มกาแฟเท่าไหร่ก็ได้ด้วย เอาให้ตื่นพร้อมทำงานกันไปเลย 

นอกจากนี้มิตรผลยังให้ความใส่ใจกับสุขภาพที่ดีของพนักงานด้วย สำหรับพนักงานที่เดินทางมาทำงานที่ออฟฟิศของมิตรผล ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพอาจจะกังวลว่าช่วงเย็นจะรถติดก็สามารถออกกำลังที่ Fitness Zone ของออฟฟิศได้เลย รอให้ผ่านช่วงรถติดไปก็สามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องไปเบียดกับคนอื่น แต่ถ้ารู้สึกว่าต้องออกกำลังกายตอนเช้าเพื่อให้สมองปลอดโปร่งก็เอารองเท้ามาวิ่งกันได้เลยจ้า ได้สุขภาพที่ดีแข็งแรงกันด้วย

  

  

ที่มิตรผลมีความยืดหยุ่นเรื่องการบริหารเวลาในการทำงาน แต่ยังคงมุ่งเน้นประสิทธิภาพ

ที่มิตรผลให้ความสำคัญและใส่ใจกับการทำงานและการใช้ชีวิตให้มีความสมดุล ที่เรียกว่า “Work Life Balance” โดยให้มีความยืดหยุ่นด้านเวลาการเข้างาน มีการกำหนดช่วงเวลาเข้างานได้ตามความสะดวกในการเลือกของพนักงาน สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น กำหนดเวลาทำงานไว้วันละ 8 ชม. ต่อวัน หากเข้าเช้าก็สามารถกลับได้เร็ว เป็นต้น 

ในช่วงของมาตรการการป้องกันโควิด-19 มิตรผลมีการบริหารการทำงานของพนักงานตามสถานการณ์ ให้มีการ WFH และมีระบบการทำงานรองรับ สนับสนุนเลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทำงานที่เน้นให้พนักงานพกพาสะดวกเป็นหลัก รวมถึงปรับกระบวนการทำงานทั้งหมดให้ทำผ่านระบบคลาวด์ การใช้ MS Teams มีระบบการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วไว้ใจได้  ซึ่งพนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการทำงานได้ ถึงแม้จะอยู่นอกออฟฟิศก็ตาม เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในระหว่างนี้ มิตรผลก็ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นในการทำงานแบบ WFH ที่เป็นการ WFH 100%, WFH 70% และ WFH 50%  ในการบริหารงานจริง และใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาการดูแลพนักงานที่เหมาะสมและดีที่สุดในปัจจุบัน รวมถึงรองรับอนาคต  ซึ่งยังช่วยให้พนักงานสามารถจัดสรรเวลาสำหรับการใช้ชีวิตของตนเองได้อย่างอิสระ และมีความสุขในการทำงานมากขึ้น 

  

   


โรงงานในพื้นที่ต่างจังหวัด มีธรรมชาติช่วยผ่อนคลายการทำงาน

    ความใส่ใจเรื่องสุขภาพของพนักงานยังครอบคลุมถึงพนักงานในโรงงานที่กระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งกลุ่มของพนักงานโรงงานก็มีจำนวนเยอะเหมือนกัน ตั้งแต่วิศวกร นักวิจัย ช่างในโรงงานและอีกมากมาย ได้มีการจัดสิ่งแวดล้อมของการทำงานให้ดี โรงงานของมิตรผลจึงเน้นเรื่องของการปลูกต้นไม้เพื่อให้เกิดความร่มเย็นในสถานที่ทำงาน ช่วยให้ธรรมชาติสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ในส่วนของพนักงานที่มาจากต่างจังหวัด มิตรผลยังมีสวัสดิการบ้านพักพนักงาน สามารถรองรับพนักงานและครอบครัวให้สามารถอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาได้เลย 

 

 

    ที่โรงงานของมิตรผลยังมีอาหารอร่อย ๆ ให้พนักงานได้ทานครบทั้ง 3 มื้ออีกด้วย เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสบายให้กับพนักงานที่ต้องเดินทางมาทำงานที่โรงงาน เพราะว่าบางคนอาจจะไม่สะดวกซื้อหรือเตรียมตัวในช่วงเช้า ถ้าจะให้ออกไปซื้อตอนเที่ยงก็อาจจะทำให้ไม่ได้พักผ่อนช่วงกลางวันอย่างเต็มที่ จะเห็นได้ว่ามิตรผลใส่ใจในรายละเอียดของการทำงานมาก ๆ เป็นองค์กรที่ไม่หยุดยั้งการพัฒนา ปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีรูปแบบสไตล์การทำงานที่เหมาะสม รวมถึงมีโครงสร้างองค์กรที่เอื้อต่อการทำงานและการเติบโตของพนักงาน 

นอกจากนี้ในส่วนของโรงงานนั้นออกแบบมาเป็นโรงงานที่มีมาตรฐานการผลิตระดับโลก รวมถึงนโยบายการลดของเสียเป็นศูนย์ ใส่ใจดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้บรรยากาศรอบโรงงานน่าทำงาน จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าเหตุใดมิตรผลจึงได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย โดยล่าสุดได้รับรางวัล รางวัล “Sustainability Awards Silver Class 2021” ซึ่งแสดงให้เห็นความใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ชุมชน และสังคม ซึ่งทางมิตรผลยังมุ่งมั่นใส่ใจที่จะพัฒนาองค์กรและพนักงานให้ดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ถ้าอยากสัมผัสการใช้ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว ก็ต้องทำงานที่มิตรผลกันแล้วหล่ะ