รู้ก่อนใคร! อาชีพใหม่ที่ตลาดต้องการ และพร้อมให้คุณเติบโตได้ทันที

ในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาชีพที่เราคุ้นเคยกันอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับอนาคตอีกต่อไป หลายคนกำลังตั้งคำถามว่า “เราเกิดมาเพื่อทำงานอะไรกันแน่?” หรือ “มีงานไหนที่น่าสนใจกว่างานที่ทำอยู่ตอนนี้บ้างไหม?”

ถ้าคุณกำลังมองหาความท้าทายใหม่ๆ ฉีกกรอบอาชีพเดิมๆ หรือต้องการวางแผนไปสู่อาชีพใหม่ Workventure จะพาคุณไปสำรวจตลาดแรงงานในไทย พร้อมพาไปดูเส้นทางการมาเป็นอาชีพที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด บอกได้เลยว่างานดี เงินดี และโอกาสเติบโตสูง

มารู้จักตลาดแรงงานไทย เทรนด์ไหนมาแรง

ก่อนที่เราจะไปเจาะแต่ละอาชีพกัน Workventure จะขอพามาดูตลาดแรงงานไทยในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เกิดจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเข้ามาของเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงส่งผลให้แต่ละกิจการก็จะเตรียมปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และเปิดรับพนังงานที่มีทักษะความสามารถใหม่ๆ ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆ ที่มีโอกาสเติบโตในอนาคต

3 เทรนด์ที่มาแรงในไทย อาชีพไหนตอบโจทย์ 

1.เทคโนโลยี AI

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเข้ามาของเทคโนโลยี AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์นั้นส่งผลอย่างมากกับสังคม ไม่ใช่แค่ในไทยแต่ส่งผลกับทั่วโลก ระบบอัตโนมัติกำลังเข้ามาช่วยในการทำงาน เกิดการเข้ามาทดแทนงานในบางตัวแหน่งแต่ก็ยังทำให้เกิดอาชีพใหม่ๆที่ต้องใช้ทักษะความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีมากขึ้น ตัวอย่างอาชีพเช่น

• Data Analyst (นักวิเคราะห์ข้อมูล) เมื่อ AI เข้ามาก็ทำให้พวกเราสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างมหาศาลจึงต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆก่อนนำไปใช้งาน นักวิเคราะห์ข้อมูลจึงต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในส่วนนี้

นักวิเคราะห์ข้อมูลทำอะไรบ้าง

1. รวบรวมและทำความสะอาดข้อมูลจัดระเบียบข้อมูลให้พร้อมนำไปใช้งาน
2. วิเคราะห์และตีความข้อมูลเพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้ไปสร้างประโยชน์สูงสุดกับองค์กร
3. นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

เงินเดือน 26,000 - 43,000 บาท โดยประมาณ

อยากเป็นนักวิเคราะห์ข้อมูลต้องเรียนอะไร ?

สาขาที่เกี่ยวข้อง คณิตศาสตร์,สถิติ,วิทยาการคอมพิวเตอร์,วิศวกรรมศาสตร์ หรือสามารถลงคอร์สออนไลน์เพื่อเรียนรู้ทักษะที่จำเป็น เช่น SQL, Python หรือ R และเครื่องมือการสร้าง Dashboard

• Prompt Engineer (วิศวกรพรอมต์) อีกอาชีพใหม่ที่มาแรงอย่างมาก เมื่อต้องการใช้ AI ต้องมีความรู้ความเข้าใจที่จะสามารถ พูดคุยกับ กับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น Prompt Engineer จึงต้องเข้ามาช่วยจัดการชุดคำสั่ง เพื่อให้ AI สามารถตอบสนองได้อย่างแม่นยำและเป็นประโยชน์สูงสุด

Prompt Engineer ทำอะไรบ้าง

1. ออกแบบและเขียนชุดคำสั่ง (Prompt) ที่ซับซ้อน เพื่อสั่งการให้ AI สร้างผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
2. ทดสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของคำสั่ง เพื่อให้ AI สร้างผลลัพธ์ที่แม่นยำ
3. ทำงานร่วมกับทีมพัฒนาเพื่อนำ AI มาใช้ในงานต่างๆ เช่น การเขียนบทความ การสร้างภาพ หรือการเขียนโค้ด

เงินเดือน 30,000 - 80,000 บาท โดยประมาณ

อยากเป็น Prompt Engineer ต้องเรียนอะไร?

สาขาที่เกี่ยวข้อง: ไม่จำเป็นต้องจบสายตรง แต่ต้องมีความรู้ด้านภาษาศาสตร์, การเขียนโปรแกรม หรือการตลาด และเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นฝึกฝนการใช้เครื่องมือ AI (เช่น ChatGPT, Midjourney), ลงคอร์สออนไลน์เพื่อเรียนรู้การเขียน Prompt ขั้นสูง

2. Health and Wellness

ในโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความเครียด ทำให้ผู้คนเผชิญกับความเหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็ได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ทำให้เรื่องสุขภาพกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจมากขึ้น ไม่ใช่แค่กลุ่มผู้สูงอายุเท่านั้น แต่คนรุ่นใหม่ก็หันมาดูแลตัวเอง จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจึงเกิดอาชีพใหม่ๆมารองรับดูแลครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ตัวอย่างอาชีพเช่น

• โค้ชสุขภาพ (Health Coach) ผู้ช่วยส่วนตัวที่จะทำความเข้าใจตัวเราในด้าน “สุขภาพกายและสุขภาพใจ” ให้แรงบันดาลใจทำให้เราบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ได้

โค้ชสุขภาพ ทำอะไรบ้าง

1. ให้คำปรึกษาด้านโภชนา การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์
2. ออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะกับแต่ละคน
3. จัดการความเครียด สอนเทคนิคผ่อนคลาย เสริมสุขภาพจิต
4. สร้างแรงบันดาลใจ ให้กำลังใจเพื่อสร้างวินัยที่สม่ำเสมอ

เงินเดือน 20,000 - 50,000 บาท โดยประมาณ

เรียนอะไรจะได้ทำงาน โค้ชสุขภาพ (Health Coach)

ยังไม่มีสายที่จบตรง แต่ต้องมีความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์การกีฬาสาขาวิชา,โภชนาการ, กายภาพบำบัด,สาธารณสุข,จิตวิทยา,เข้าอบรมและประกาศนียบัตรเน้นทักษะการโค้ช การให้คำปรึกษา และความรู้เชิงลึกด้านโภชนาการ การออกกำลังกาย และการจัดการสุขภาพจิต

• นักออกแบบประสบการณ์ด้านสุขภาพ (Wellness Experience Designer) อาชีพใหม่แกะกล่องคนทำน้อยแต่ความต้องการสูงมาก คือผู้ที่ช่วยออกแบบ “ประสบการณ์” ที่ส่งเสริมทั้งด้านสุขภาพกายและใจในคราวเดียว ไม่ใช่แค่ในโลกดิจิทัลแต่รวมไปถึงสภาพแวดแวดล้อมทางกายภาพอื่นๆด้วย

นักออกแบบประสบการณ์ด้านสุขภาพ ทำอะไรบ้าง

1. ทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าและรวมไปถึงปัญหาด้านสุขภาพ
2. ออกแบบประสบการณ์แบบองค์รวมเช่น พื้นที่ในอาคาร ที่พักอาศัย ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ รวมไปถึงแอปพลิเคชันหรือเว็บไซ์
3. ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญเช่น นักการตลาดดิจิทัล นักกายภาพบำบัด หรือสถาปนิก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าได้รับการออกแบบที่ถูกต้อง ปลอดภัย

เงินเดือน 20,000 - 60,000 บาท โดยประมาณ

เรียนอะไรจะได้ทำงานนักออกแบบประสบการณ์ด้านสุขภาพ

ยังไม่มีสายที่จบตรง แต่ต้องมีความรู้ด้าน การออกแบบ UX/UI Design, การออกแบบผลิตภัณฑ์, สถาปัตยกรรม, หรือการออกแบบภายใน และสาขาวิชาด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น วิทยาศาสตร์การกีฬา, สาธารณสุขศาสตร์, หรือจิตวิทยา หรือการเข้าร่วมหลักสูตรระยะสั้นหรือเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการออกแบบเพื่อสุขภาพ (Design for Wellness) 

3.การให้ความสำคัญกับความยั่งยืน (ESG) และความหลากหลาย (DEI)

ภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นเป็นสัญญาณที่ธรรมชาติกำลังเตือนเราให้เราตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม จึงเกิดเทรนด์ความยั่งยืน ซึ่งแพร่หลายตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับองค์กร การดำเนินธุรกิจที่

ไม่ได้หวังแค่กำไร แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับ ESG และ DEI ด้วย จึงทำให้เกิดอาชีพใหม่ที่ต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทาง เพื่อช่วยวางแผนและขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปพร้อมอย่างยั่งยืน ตัวอย่างอาชีพเช่น

• Sustainability Specialist (ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน)

ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ควบคู่ไปกับการเติบโตของธุรกิจ อาชีพนี้ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมาก คนยังเข้ามาทำน้อยสวนทางกับเทรนความยั่งยืนและความต้องการของตลาด ดังนั้นหาย่ิงเข้ามาทำเร็วก็จะยิ่งมีโอกาสเติบโตอย่างมาก

ผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนทำอะไรบ้าง

1. คิดออกแบบ วางแผนการปฏิบัติงานอย่างไรจึงจะรักษาสิ่งแวดล้อม หรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
2. วิเคราะห์และประเมินผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน
3. ทำรายงาน สื่อสารความคืบหน้าในความมั่นคงในการปฏิบัติงาน

เงินเดือน 25,000-50,000 บาทโดยประมาณ

เรียนอะไรได้ทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืน

สาขาที่เกี่ยวข้อง สิ่งแวดล้อม, รัฐศาสตร์, เศรษฐศาสตร์,บริหารธุรกิจ หรือสามารถลงออนไลน์ที่สอนเกี่ยวกับหลักการความยั่งยืน, การทำรายงาน ESG (Environmental, Social, Governance) และกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ยั่งยืน

• ผู้จัดการความหลากหลาย (Diversity Manager)

ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างและดูแลวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้าง ยอมรับความแตกต่าง และให้โอกาสที่เท่าเทียมกันแก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเพศสภาพ เชื้อชาติ ศาสนา อายุ หรือความพิการ

ผู้จัดการ DEI ทำอะไรบ้าง

1. วางแผนกลยุทธ์ DEI พัฒนานโยบายและโปรแกรมที่ส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียมภายในองค์กร
2. ฝึกอบรมและให้ความรู้พนักงานและผู้บริหารมีความเข้าใจในเรื่องความหลากหลายและลดอคติทางความคิด
3. ติดตามผลตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับ DEI เพื่อดูความก้าวหน้าและปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพ

เรียนอะไรได้ทำงาน เป็นผู้จัดการEDI

สาขาที่เกี่ยวข้อง บริหารทรัพยากรบุคคล (HR),สังคมวิทยา, มานุษยวิทยา หรือจิตวิทยา,กฎหมาย หรือสามารถเข้าร่วมหลักสูตรอบรมเฉพาะทางด้าน DEI ได้

ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การหยุดนิ่งคืออันตรายที่สุด แต่ข่าวดีก็คือ ในทุกๆ การเปลี่ยนแปลงมักมีโอกาสใหม่ๆ อยู่เสมอ อาชีพที่เราคุ้นเคยกันอาจจะไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป แต่โลกก็ยังคงต้องการคนที่มีความสามารถในอาชีพใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนสังคมและธุรกิจไปข้างหน้า 

หวังว่าการสำรวจเส้นทางอาชีพเหล่านี้จะช่วยให้คุณค้นพบแรงบันดาลใจและกล้าที่จะก้าวออกจาก Comfort Zone เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การเลือกที่จะเรียนรู้และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในอาชีพใหม่ในอนาคต ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหนก็ตาม และคุณจะได้เห็นว่าทุกการเติบโตคือการเพิ่มโอกาสเติบโตให้กับตัวคุณเอง