จะดีแค่ไหน หากเด็กๆ ได้เรียนรู้ก่อนตอบคําถามที่ถามว่า “โตขึ้นไป หนูอยากเป็นอะไร?” 
เมื่อบริษัทฯ ไม่ได้จํากัดการเป็น “ผู้ให้” แต่เราได้ให้พื้นที่ตรงนี้สําหรับพนักงานของเรา ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม ที่ครั้งนี้ เราได้ให้พนักงานได้มอบคืนสังคมในบทบาทของตนเอง

“สนุกคิดส์ บิ๊กเดย์” โปรเจกต์พิเศษกับการเปิดโลกแห่งการเรียนรู้ ผ่าน 10 อาชีพในฝันที่เกิดขึ้นได้จริงที่บิ๊กซี เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ผ่านประสบการณ์จริง เพื่อจุดประกายความฝัน มีความมุ่งมั่นในการศึกษาเพื่อให้ประสบความสําเร็จในอนาคต โดยกิจกรรมนี้เราโฟกัสไปที่กลุ่มน้องๆ เด็กๆ

คุณมักจะได้ยินบ่อยๆ ว่า “เด็กคืออนาคตของชาติ” ถ้าเด็กคืออนาคตของชาติแล้วอนาคตของเด็กที่กําลังจะโตไปเป็นอนาคตของชาตินั้นใครควรเป็นผู้กําหนด?... แล้วจะดีแค่ไหน หากวันนี้เด็กๆ ได้รู้ว่า อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร และเข้าใจในคําถามที่เด็กๆ มักจะเจอบ่อยๆ ว่า “โตขึ้นไป หนูอยากเป็นอะไร?”



กิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งจุดประกายอาชีพในฝัน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการศึกษาของเด็กๆ ในอนาคต และได้เปิดพื้นที่สําหรับการเสริมสร้างประสบการณ์ผ่านการเรียนรู้บทบาทสมมติของอาชีพต่างๆ โดยเราได้เปิดโอกาสให้น้องๆ ตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปจนถึงประถมศึกษาชั้นปีที่ 6 กว่า 3,000 คน ซึ่งมีทั้งบุตรหลานของลูกค้า บุตรหลานของพนักงาน และน้องๆ จากโรงเรียนใกล้เคียงบิ๊กซีสาขาต่างๆ ที่จัดกิจกรรม ผ่านการได้ให้น้องๆเหล่านี้ ลองสัมผัสบทบาทสมมุติ10 อาชีพ ได้แก่ เจ้าของกิจการร้านค้าปลีก, พนักงานขาย, แคชเชียร์, เชฟทําอาหาร, เชฟทําขนม, ลูกค้าสัมพันธ์, นักการตลาด, นักจัดการสิ่งแวดล้อม, เภสัชกร และบาริสต้า ผ่านการให้น้องๆ ได้ลองสัมผัสวิธีการทํางาน เป็นผู้ช่วย และทดลองงานเล็กๆ

นอกจากนี้ เรายังได้ขยายโอกาสนี้ไปยังกลุ่มเด็กพิเศษ จากโรงเรียนวัดธาตุทอง, โรงเรียนศูนย์รวมน้ําใจและ ศูนย์บริการคนพิการทางสติปัญญา (สาขาคลองเตย) และ มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ได้มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์เหล่านี้เช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ ภายใต้การดูแล แนะนําอย่างใกล้ชิด

จากกิจกรรมดังกล่าวนี้ แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราได้แบ่งปันเรื่องราว และสร้างประสบการณ์ให้กับกลุ่มเด็กๆ ให้ได้ลองสัมผัสว่าในโลกของการทํางานแล้ว มีอาชีพใดบ้างที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขา ได้มีอาชีพในฝันเพิ่มขึ้น แต่อีกสิ่งหนึ่งที่มากกว่านั้น คือ การได้ให้พื้นที่นี้สําหรับพนักงานของเรา ได้เป็นส่วนหนึ่งของ “การให้” ให้กับเด็กๆ ให้กับสังคม ส่งผ่านจากบทบาทหน้าที่ของตัวพนักงานเอง โดยไม่จําเป็นต้อง “ให้ด้วยตัวเงินเสมอไป” เกิดเป็นการแบ่งปันประสบการณ์และสร้างแรงบันดาลใจทั้งต่อตัวผู้ให้ ซึ่งก็คือพนักงานและน้องๆ เด็กๆ ที่เป็นผู้รับ

และสิ่งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจ และความประทับใจเล็กๆ ที่เรามอบให้พนักงาน ในฐานะ “การเป็นผู้ให้”...