คำแนะนำด้านอาชีพ | 10 July 2015

Soft Skill คืออะไร? และคุณมีหรือเปล่า?

คุณอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับทักษะที่เรียกกันว่า Soft Skill ซึ่งมันอาจจะดูแปลกๆ เพราะถ้าให้แปลกันคำต่อคำจะอ่านว่า “ทักษะนิ่ม” ครั้งแรกที่เราได้ยินก็อาจจะทำให้งงกันไปสักพักว่าทำไมทักษะนิ่มนี้ถึงมีความสำคัญต่อคุณ

 

          ในภาษาอังกฤษ ทักษะในการทำงานถูกแบ่งออกเป็นสองรูปแบบหลักๆ คือ Hard Skill (ทักษะแข็ง) และ Soft Skill (ทักษะนิ่ม) ทักษะแข็งคือทักษะที่จำเป็นในการทำงานในแต่ละสายอาชีพ เช่น ถ้าคุณเป็นทนาย คุณต้องรู้เกี่ยวกับกฎหมายต่างๆและสามารถร่างสัญญาได้ ถ้าคุณเป็นวิศวกร คุณต้องรู้เกี่ยวกับโครงสร้างและหลักการคำนวณ ว่ากันง่ายๆคือ ทักษะส่วนใหญ่ที่คุณเรียนมาในมหาวิทยาลัยคือ ทักษะแข็ง ส่วนทักษะนิ่มนั้น มีขอบเขตที่กว้างกว่า โดยเป็นทักษะที่สามารถใช้ได้กับทุกสายอาชีพ ประกอบด้วยทักษะการสื่อสารและพัฒนาแนวคิดเป็นหลัก

 

          ในทุกวันนี้การมีปริญญาถือเป็นเรื่องธรรมดา เพราะการไขว่คว้าหาข้อมูลสามารถทำได้อย่างสะดวกโดยเพียงไม่กี่แค่คลิกบนหน้าคอมพิวเตอร์ของคุณ เพราะฉะนั้น Hard Skill จึงไม่ใช่อะไรที่หายากในตลาดแรงงานอีกแล้ว ในทางกลับกัน Soft Skill กลับเป็นทักษะที่ขาดตลาดมากในทุกวันนี้ และเป็นที่ต้องการของทุกๆบริษัทไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

      แต่ทำไมทักษะนิ่มถึงมีความสำคัญต่อคุณ?  ความแตกต่างระว่างผู้ที่มี Soft Skill ที่ดีและไม่ดีนั้นต่างกันมาก ผู้ที่มีทักษะนิ่มนั้นคือผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและสามารถสื่อสารความคิดของตนให้ผู้อื่นรับรู้ได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น คุณจะเลือกไปตัดผมร้านที่ช่างตอนรับคุณด้วยรอยยิ้มและพูดคุยกับคุณอย่างดี หรืออีกร้านที่ช่างแค่มีหน้าที่ตัดผมและคุณก็เป็นแค่อีกคนหนึ่งที่เข้ามาในร้าน

 

          จริงอยู่ที่ Hard Skill มีความสำคัญต่อการเปิดโอกาสให้คุณแต่ Soft Skill คือตัววัดว่าคุณจะสามารถเปลี่ยนโอกาสนั้นเป็นความสำเร็จได้หรือไม่ เช่น เวลาคุณสมัครงานและส่ง Resume ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ถ้าเขาสนใจ ขั้นตอนต่อไปเขาจะขอสัมภาษณ์ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ทางบริษัทไม่ค่อยสนใจด้าน Hard Skill ของคุณเท่าไหร่แล้วแต่จะดูที่ว่าคุณสามารถเข้ากับบริษัทได้ดีแค่ไหน ซึ่งคุณต้องแสดงความสามารถทาง Soft Skill ของคุณให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลานั้น ยิ่งเป็นบริษัทใหญ่ๆ คุณจะเห็นได้เลยว่าจะมีการสอบสัมภาษณ์อย่างน้อย 2 ครั้ง และอาจมีข้อสอบเกี่ยวกับบุคลิกภาพอีกด้วย เพราะเหตุนี้ถึงคุณจะมี Hard Skill มากแค่ไหนและมีโอกาสมากเพียงใด ถ้าไม่มีทักษะนิ่มคุณก็ไม่สามารถได้งานที่หวังไว้ได้

 

          นอกจากนี้ คนที่มี Soft Skill ที่ดี จะมีแนวโน้มจะขึ้นตำแหน่งที่ก้าวหน้าได้เร็วกว่าคนที่มีแต่ Hard Skill เพราะผู้ที่มีทักษะนิ่มจะเข้ากับคนได้ง่ายและมีความสามารถในการคิดนอกกรอบ โดยไม่ใช่แค่จะทำให้คุณเป็นที่ชอบของเจ้านายและเพื่อนร่วมงานเท่านั้น แต่ Soft Skill  ยังทำให้เรามีศักยภาพในการพัฒนา Hard Skill ด้วยตนเองได้ ไม่เหมือนคนที่ไม่มีทักษะนิ่มที่ต้องมีคนสอนหรือป้อนข้อมูลเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

          ถ้าดูบุคคลที่ประสบความสำเร็จกันในยุคนี้เช่น สตีฟ จ๊อบส์  แจ็ค มา บิลล์ เกตส์ ฯลฯ สิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ พวกเขามีความมุ่งมั่นและ Soft Skill มากกว่าคนธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร ความเป็นผู้นำ การพูดในที่สาธารณะ วิสัยทัศน์ ทัศนคติและการคิดนอกกรอบ

 

          คุณรู้ไหมว่าแจ็ค มา นั้นแทบจะไม่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยีเลย ความเป็นไปได้ในการสร้าง Alibaba นั้น เป็นไปได้น้อยมากสำหรับแจ๊ค  แต่เขามีวิสัยทัศน์ที่มองได้ไกลกว่าคนอื่น และความเป็นผู้นำที่แรงกล้า ทำให้คนที่แม้กระทั่งโหลดหนังดูบนคอมพิวเตอร์ตัวเองยังไม่เป็น กลายเป็นผู้ที่ก่อตั้งหนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก

 

          คุณคิดว่าถ้าสตีฟ จ๊อบส์หรือ ทิม คุกไม่ออกมาโชว์เคสสินค้าใหม่ในงานเปิดตัว iPhone iPad หรือ อะไรก็ตามที่ Apple ผลิตขึ้นมา ยอดขายจะสูงเท่าที่เป็นหรือไม่ ผมว่าไม่ เพราะสิ่งที่ทั้งสองได้ทำ  ไม่ใช่การขายของธรรมดา แต่เป็นการสื่อความเชื่อและความหลงใหลในผลิตภัณฑ์ และบริษัทของเขาได้อย่างชัดเจน เหมือนการสื่อความคิดโดยการวาดภาพอารมณ์ด้วยคำพูด ซึ่งความสามารถเช่นนี้ไม่ได้สำคัญแค่สำหรับคนที่อยู่ในแนวหน้าของธุรกิจอย่าง CEO หรือ เซลส์ เท่านั้น สังคมมีอิทธิพลอย่างมากในการตัดสินความสำเร็จของคุณ ยกเว้นถ้าคุณอยากจะเป็นทาร์ซานอยู่ในป่าคนเดียว ทักษะนี้ยังสามารถนำไปใช้ได้กับทุกๆด้าน เช่น ถ้าคุณเป็นนักวิเคราะห์หรือวิศวกร คุณก็ต้องสามารถชักจูงนักลงทุน หรือเจ้านายของคุณให้เชื่อและมีความเห็นเหมือนคุณได้ ว่าสิ่งที่คุณเสนอจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับบริษัท ถ้าทำไม่ได้คุณก็ไม่ได้ทำในสิ่งที่คุณอยากทำและติดอยู่ในตำแหน่งงานเดิม

          ปัญหาในตลาดแรงงานโลกและโดยเฉพาะประเทศไทยในขณะนี้ คือผู้คนให้ความสนใจกับ Soft Skill น้อยกว่า Hard Skill มาก ซึ่งทำให้เราตีคุณค่าของทักษะนิ่มต่ำกว่าที่ควร เป็นเพราะ นักศึกษาส่วนมากคิดว่าใบปริญญาจะรับประกันความสำเร็จ จึงทำให้สถาบันการศึกษาเน้นแค่ Hard Skill เพราะเป็นหลักสูตรที่ขายได้ และไม่ออกแบบหลักสูตรสำหรับการพัฒนา Soft Skill สักเท่าไหร่

 

ทักษะนิ่ม นั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายทักษะมาก แต่ถ้าคุณอยากจะพัฒนาตัวเองเบื้องต้น คุณควรถามตัวเองและเช็คว่าคุณทำดีพอหรือยังในจุดนี้ เช่น:

  • ความรับผิดชอบส่วนบุคคลและด้านการงาน
  • ความสามารถในการทำงานร่วมกับคนอื่น
  • ทักษะการเจรจาและต่อรอง
  • ทักษะการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
  • ทักษะการปรับตัวและความยืดหยุ่น
  • ความชัดเจนของการสื่อสาร
  • ความคิดสร้างสรรค์

 

          อีกไม่นาน Soft Skill จะเริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Hard Skill สำหรับหลากหลายสาขาอาชีพ เพราะความง่ายของการเรียนรู้ทักษะแข็งในทุกวันนี้และรูปแบบการทำงานที่ต้องอาศัยการสื่อสารระหว่างกันมากขึ้น โดยเฉพาะต่างเชื่อชาติและช่องทางไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยทางอีเมล และ Social Media ยิ่งไปกว่านั้น ทักษะนิ่มทำให้เราใช้ทักษะแข็งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะทำให้การสื่อสารคล่องแคล่วระหว่างหุ้นส่วน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า เจ้านาย ลูกน้อง และใครก็ตามที่ได้เข้ามาสัมผัสกับบริษัทแม้กระทั้งคู่แข่งก็ตาม

 

          จากที่ได้กล่าวมา เราควรจะหันมาให้ความสนใจกับทักษะนิ่มให้มากขึ้น ให้เราได้พัฒนาทั้งในด้านการงาน  และยังสามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์เชิงธุรกิจและสังคมอีกด้วย

ใครจะไปรู้ คุณอาจจะได้เป็นมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์กคนต่อไปก็ได้

 

ถ้าสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Soft Skill ดูได้ที่ www.bsm.ac.th/ilearn

 

เขียนโดย

นายพรหมไพโรจน์ เคนไชยพร http://linkedin.com/in/prompairojj

Operations Director, AIPGlobal.co

Director, Singapore Thai Chamber of Commerce

Chief Relation Officer, TechGrind Startup Incubator