ปกติแล้วอายุเฉลี่ยของนักศึกษาจบใหม่จะอยู่ที่ 21 – 23 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มหางานทำกันแล้ว แม้จะเริ่มต้นด้วยฐานเงินเดือนไม่เยอะโดยเฉลี่ยอย่าง 15,000 บาท แต่อย่าเพิ่งน้อยใจไป เพราะต้นทุนที่ดีของมนุษย์เงินเดือนหน้าใหม่ป้ายแดง คือพลังกายที่ยังคงสดใหม่ รวมถึงโอกาสในการได้ทดลองและเรียนรู้งานอีกหลายปี

หากให้แนะนำจากประสบการณ์ผมอยากให้ลองเปลี่ยนการโฟกัสจากเงินเดือนเป็นความรู้และประสบการณ์จากการได้รับโอกาสในการทำงานกับบริษัทหรือองค์กร พร้อมกับพี่ๆ ที่มีความเก่งบวกความเก๋าในการทำงานและการแก้ไขปัญหา นี่คือการบ่มเพาะความรู้และประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้นอกจากคาถาความขยันจากตัวเราเองครับ

ขยันแรก : ผมแนะนำให้ขยันหาครับ

ซึ่งสามารถตีความได้ทั้งขยันหาทั้งทั้งหาโอกาสและรายได้ครับ ยิ่งเราเริ่มต้นด้วยฐานเงินเดือนไม่เยอะ แต่แรงยังคงเยอะกว่าวัยไหนๆ ลองหาโอกาสว่าช่วงหลังเลิกงานเราสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่ตัวเราได้มากน้อยแค่ไหนครับ ซึ่งโอกาสในการสร้างรายได้เสริมเดี๋ยวนี้ก็มีมากมายกว่าแต่ก่อนเยอะ ไม่ว่าจะเป็นขายของออนไลน์ เขียนนิยายออนไลน์ สอนพิเศษ หรือแม้กระทั่งหางานฟรีแลนซ์ตามที่ตนเองถนัดครับ ผมมั่นใจว่าแม้รายได้ในช่วงแรกจะไม่ได้เยอะมาก แต่สิ่งที่มากตามคือคอนเนกชันและประสบการณ์ที่จะช่วยสร้างมูลค่าให้ตัวเราครับ

ขยันข้อที่สอง : คือขยันเก็บครับ

ต่อยอดมาจากข้อแรก เมื่อเราหามาได้ก็ต้องหมั่นที่จะเริ่มมีการวางแผนทางการเงินบ้าง ซึ่งหากสังเกตให้ดีระยะหลังเรื่อง Financial Literacy หรือความรู้ทางการเงินนั้นคือเทรนด์ที่มนุษย์เงินเดือนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะจัดเป็นองค์ความรู้พื้นฐานที่จะช่วยยกระดับชีวิตให้มนุษย์เงินเดือนมีชีวิตที่ดีขึ้นในวัยเกษียณได้ครับ

ถามว่าพื้นฐานความรู้เบื้องต้นมีอะไรบ้าง ผมขอให้เริ่มจากการเริ่มออมด้วยการหักเปอร์เซ็นต์จากเงินเดือนก่อนเลยอย่างน้อย 20% แล้วที่เหลือก็นำไปหักค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่าคอนโด ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้เราเรียกว่า ‘Fixed Cost’ หรือค่าใช้จ่ายคงที่ที่เราต้องจ่ายเป็นประจำจ้า ส่วนรายได้ที่เหลือเราก็นำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันตามปกติให้พอเพียง แต่ถ้าไม่พอก็ต้องย้อนกลับไปขยันหาข้อแรกนะครับ อย่าให้การออมหยุดชะงัก เพราะข้อดีจากการขยันออมในเบื้องลึกคือการฝึกวินัยในการออมให้เกิดความสม่ำเสมอ ซึ่งจะส่งผลต่อวินัยในการทำงานของเราด้วยนะครับ

ขยันข้อที่สาม: คือขยันใช้ชีวิตครับ

การใช้ชีวิตนี้ไม่ได้ให้มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องเดินทางไปดูแสงเหนือที่ไอซ์แลนด์ หรือออกเดินทางไปพิชิตเขาเอเวอร์เรสที่เนปาลนะจ๊ะ เพียงแต่นิยามการใช้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนแรกเริ่ม แค่เริ่มจากการเดินทางเล็กๆ ในประเทศ ดูภาพยนตร์ที่น่าสนใจหลายๆ เรื่อง ซึ่งเดี๋ยวนี้การเข้าถึงเนื้อหาดีๆ ก็มีหลายช่องทาง เช่น Netflix หรือ การไปสมัครเรียนคอร์สออนไลน์ฟรีจากสถาบันชั้นนำที่เริ่มเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้เข้าถึงวิชาความรู้มากขึ้นครับ รวมไปถึงแหล่งสัมมนาที่เปิดโอกาสให้คนในแวดวงต่างๆ ได้พบปะกันด้วยครับ ซึ่งหลายครั้งมนุษย์เงินเดือนที่มีโปรเจกต์อยากทำอะไรสักอย่าง และสามารถทำเป็นรูปเป็นร่างได้ก็มาจากการไปพบปะกันในพื้นที่เหล่านี้กันครับ นี่คือโอกาสในวันนี้ที่เปิดกว้างสำหรับมนุษย์เงินเดือนพันธ์ใหม่ จนผมยังแอบอิจฉามากๆ เลยครับ

ทั้งหมดคือประเด็นที่เกิดขึ้นกับเงินเดือน 15,000 ที่เป็นทั้งปัญหาแต่ถูกแก้ได้ด้วยทัศนคติจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่มนุษย์เงินเดือนทุกคนนะครับ